เมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 บริเวณหน้าสถานเอกอัคราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ถนนสาธรใต้ แกนนำทั้ง 3 คน ได้แก่ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด และน.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย เป็นตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือภายในสถานทูตเยอรมนี ในเวลา 19.45 น. ที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้น แกนนำบางส่วนแจ้งว่า หลังจากการยื่นหนังสือเสร็จสิ้น จะขอใช้พื้นที่บริวเณหน้าสถานทูตฯ ตั้งเวทีชั่วคราวเพื่ออ่านถ้อยคำในหนังสือเป็นภาษาไทย แปลเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมัน ร่วมกับจัดกิจกรรมเรียกร้องเชิงสัญลักษณ์
สำหรับแถลงการณ์จากคณะราษฎร เรื่อง การเดินขบวนมายังสถานทูตเยอรมนี มีข้อความระบุว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน มีการแทรกแซงทางการเมือง ราษฎรทั่วหล้าได้ออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อันมีข้อเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพเผด็จการ ลาออกจากตำแหน่ง และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากราษฎร ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ราษฎรได้ร่วมกันเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือกดดันให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งภายใน 3 วัน
บัดนี้ กาลได้ล่วงเลยไปแล้ว 5 วัน แต่ทว่ารัฐบาลมิแยแสต่อข้อเรียกร้องของราษฎร หนำซ้ำยังประกาศศึกกับราษฎร ทำการจับกุมกักขังราษฎรที่ออกมาพูดความจริง และได้ใช้กำลังประทุษร้ายรุนแรงต่อราษฎรที่ไร้อาวุธ ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมี การใช้อาวุธแก๊สน้ำตากลางเมืองหลวง อันก่อให้เกิดการบาดเจ็บแก่ราษฎรเป็นจำนวนมาก การเช่นนี้หาเป็นที่ยอมรับในสากลโลกไม่ เพราะได้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลชุดนี้ คือรัฐบาลที่ลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจ จนไม่ฟังเสียงของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอันแท้จริง ในวันนี้ราษฎรทั้งหลาย จึงมาเพื่อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น
อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายแถลงการณ์ ยังระบุว่า ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว สายธารแห่งประชาธิปไตยอันไหลเชี่ยวมิอาจหยุดยั้งได้ และเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ ราษฎรจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
Advertisement