บรรยากาศโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ตั้งแต่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองถึงประตูวิเศษไชยศรี พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลืองแสดงความจงรักภักดี
วันที่ 1 พ.ย. 63 เวลา 14.00 น. "ท็อป-ไทด์" บิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ พร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพู มาร่วมกันแสดงพลังความจงรักภักดี เฝ้ารอรับเสด็จ บริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว บรรยากาศเมื่อเดินทางมาถึง มีประชาชนต่างรอคอยที่จะเจอหน้าและพร้อมพูดคุยด้วย
บิณฑ์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ทำความตามตั้งใจ รู้สึกปลื้มปีติ ที่พี่น้องทุกคนมาในวันนี้เพราะบารมีของพระองค์ท่าน วันนี้ออกมาให้กำลังใจท่าน ไม่ใช่แค่เรา 2 คน แต่วันนี้พี่น้องประชาชนอีกมากอยากออกมาให้กำลังใจท่าน ประชาชนที่มีเจตนาเดียวกันที่ออกมาให้เห็นว่าประชาชนชาวไทยยังต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป พวกเราหรือรุ่นไหนก็แล้วแต่ให้คงอยู่ตลอดไป
วันนี้รู้สึกดีใจที่เห็นพี่น้องออกมากันเยอะ นี่แหละคือพลังเงียบ อยากจะออกมาแต่ไม่รู้จะออกมาแบบไหน แต่วันนี้เราบริสุทธิ์ที่สุด ไม่มีฝ่ายรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน และที่เชิญชวนออกมาก็เพื่อเป็นหลักให้คนที่อยากออกมาแสดงพลัง และไม่ต้องกลัวว่าจะโดนทัวร์ลงในเฟซบุ๊ก ตนยอมโดนด่า ส่วนคนที่มาด่า เขามาด่าเพราะอะไรตนก็ไม่ทราบเพราะแค่มาปกป้องสถาบัน ตนโดนสารพัดแต่ไม่เคยสนใจ ใจเราต้องแข็ง ใจเราต้องแน่วแน่ และตนเลือกที่จะไม่เข้าไปอ่าน คำนินทาเหมือนขี้หมา อย่าเสียเวลาไปเหยียบ
ตนอยากให้ทุกคนกระทำเหมือนพวกเรา ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนตนเจอกระแสค่อนข้างแรงทุกวัน ก็ไม่เป็นไร ยิ่งแรงยิ่งดียิ่งดัง คนจะได้ออกมากันเยอะ ๆ วันนี้ตนตั้งใจมารับเสด็จ กราบพระบาทพระองค์ท่าน บอกพระองค์ว่า "พระองค์สู้ ๆ ทรงพระเจริญ ในหลวงสู้ ๆ" ตนหวังว่าอยากเห็นพระพักตร์ของท่านมีรอยยิ้ม ตนรู้ว่าพระองค์ท่านเหนื่อย เราก็มาให้กำลังใจพระองค์ท่านกัน
หลังจากนี้ วันที่ 5 ธ.ค. 63 ทั้งประเทศ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ต้องแสดงความจงรักภักดี สำหรับพี่น้องต่างจังหวัดที่อยากให้ตนไปเพื่อแสดงพลังบอกมาได้ ค่าใช้จ่ายตนจัดการเอง แต่ต้องไม่เอาการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว ส่วนวันที่ 3 พ.ย. 63 จะไปที่ จ.ชลบุรี ไปร้องเพลงชาติ แสดงพลังความจงรักภักดี รวมไปถึงมีอีกหลากหลายจังหวัดที่ติดต่อเข้ามา จ.ปราจีนบุรี และ จ.สระแก้ว ด้วย
นายบิณฑ์ และนายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ ได้กล่าวภายหลังเฝ้าฯ รับเสด็จ ว่าตนทั้ง 2 คนรู้สึกปลื้มปีติที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างใกล้ชิด และได้เห็นพระพักตร์ของทุกพระองค์ ทั้งนี้ในหลวงทรงมีพระราชปฏิสันถารด้วยว่า "ขอบใจที่ออกมา เราต้องรักสามัคคีกัน ขอบใจมากที่ทำช่วยเหลือประชาชน" ขณะนั้นตนหูอื้อไปหมด และร้องไห้ออกมา รู้สึกว่าที่ทำลงไปทั้งหมด ทำให้ตนหายเหนื่อย
นายบิณฑ์ ระบุความในใจว่า "สิ่งที่เราทำไปมีค่ามาก เราไม่ใช่ปลุกม็อบ เราไม่ใช่จัดม็อบมาชนกัน เราออกมามีจุดยืน เราออกมาเพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราออกมาเฝ้าฯ รับเสด็จ ทั้ง 2 พระองค์ เราได้ใกล้ชิดและผมได้จับฉลองพระบาทพระองค์ท่าน 10 วินาที ท่านก็ทรงโบกพระหัตถ์ และทรงตรัสกับประชาชนตลอดเส้นทาง"
นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินผ่าน และทรงมีพระราชปฏิสันถารว่า "คนไหนพี่ คนไหนน้อง ยังเล่นละครอยู่ไหมคะ"
อย่างไรก็ดี นายบิณฑ์ และนายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขออีกวัน ในวันที่ 5 ธ.ค.63 ที่จะถึงนี้ ประชาชนจะออกมาแสดงความจงรักภักดีอีกครั้ง ตนไม่กังวลเลย เพราะวันนี้ได้เห็นภาพแล้ว ทุกคนจากทั่วทุกสารทิศมาเฝ้าฯ รับเสด็จ อย่างพร้อมเพียงกัน
Advertisement