วันที่ 16 ธ.ค. 63 ร.ต.อ.ชัชวาลย์ เพชรนอก รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง เปิดเผยกรณี น.ส.จันทร์ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.สมุทรสงคราม ได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับแฟนหนุ่ม หลอกพาไปให้เพื่อนร่วมข่มขืนจนติดโรคหนองใน ภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
โดยผู้เสียหายให้การว่า เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้ถูกนายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 58 ปี เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการใน จ.ระยอง ซึ่งแฟนที่คบหากันมาหลอกมอมเบียร์ ก่อนจะพาไปที่โรงแรมม่านรูด เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับชะงัก เพราะพบนายอู๊ด เพื่อนร่วมงานของแฟนหนุ่ม นอนแก้ผ้ารออยู่บนเตียง ตนเห็นดังกล่าวจึงพยายามหลบหนี แต่กลับถูกทั้ง 2 คนช่วยกันจับตัวไว้ และ บังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับนายอู๊ด
โดยนายหนึ่งถือโทรศัพท์ถ่ายคลิป จนนายอู๊ดสำเร็จความใคร่ ต่อจากนั้นแฟนหนุ่มก็ลงมือข่มขืนต่อ โดยที่ทั้ง 2 คนไม่ได้สวมถุงยางอนามัย หลังจากเสร็จกิจ นายหนึ่งให้เงิน 10,000 บาท พร้อมขู่ห้ามบอกใคร หลังจากนั้น ก็มีอาการติดโรคหนองใน มีตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศ และตามตัว มีกลิ่นเหม็น ตนพยายามขอเงินไปรักษา แต่นายหนึ่งก็เงียบไป จึงเดินทางมาแจ้งความเพื่อขอความเป็นธรรม
วันที่ 16 ธ.ค. 63 น.ส.จันทร์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อปี 2561 ก่อนตนเจอกับนายหนึ่งในร้านคาราโอเกะ ซึ่งตนทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ ส่วนนายหนึ่งเป็นดีเจเปิดเพลง จึงได้คบหากัน ทั้งที่นายหนึ่งเองก็มีเมียอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ตนก็ยอมนายหนึ่งมาตลอด กระทั่งญาตินายหนึ่งเริ่มรู้ความจริงตนจึงตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ห้องเช่า
เหตุการณ์เริ่มเกิดที่ห้องเช่า เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2563 ตนกับนายหนึ่งและนายอู๊ดนั่งดื่มเบียร์กันในห้องเช่า นายหนึ่งก็เริ่มลวนลามตนให้นายอู๊ดดู ตนก็เครียดและอายนายอู๊ด จึงได้ดื่มเบียร์ย้อมใจเป็นจำนวนมาก 7-8 ขวด และเมื่อเบียร์หมด นายหนึ่งจึงสั่งให้นายอู๊ดไปซื้อเบียร์เพิ่ม แต่เมื่อนายอู๊ดออกไป นานหนึ่งได้ชวนตนไปมีเพศสัมพันธ์ที่โรงแรมม่านรูด อ้างว่าจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งตนก็ยอมไปด้วย แต่เมื่อไปถึงห้องก็พบว่านายอู๊ดนอนแก้ผ้า ใส่กางเกงในตัวเดียว หลังจากนั้นนายหนึ่งจึงได้มาฉุดตนไปนอนบนเตียงและทั้งคู่ก็รุมข่มขืนตน โดยที่ตนไม่ได้สมยอมแต่ตนไม่สามารถขัดขืนได้
ต่อมาครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2563 ที่โรงแรมม่านรูดอีกแห่ง ซึ่งครั้งนี้ตนยินยอมไป เพราะนายหนึ่งมารบเร้าว่าเขาชอบการร่วมเพศแบบชาย 2 หญิง 1 ตนไม่ได้ชอบแบบนั้น แต่ตนอยากให้นายหนึ่งรักตน กระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2563 ตนเริ่มป่วยเป็นหนองใน มีตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศและมีกลิ่นเหม็นมาก ตนจึงโทรไปบอกนายหนึ่ง เจ้าตัวก็ยอมรับว่าทั้งนายหนึ่งและนายอู๊ดมีเชื้อหนองใน จึงอาจจะทำให้มีอาการ นายหนึ่งจึงเอายาที่เจ้าตัวกินมาให้ตนกิน ให้เงิน 10,000 บาทเพื่อให้ตนรักษาตัว หลังจากนั้นเขาก็แชตมาข่มขู่และบล็อกตนทุกช่องทาง
ทั้งนี้ ช่วงหลังตนเริ่มทนไม่ไหว และกลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อ HIV เพราะนายหนึ่งต้องการคนอื่นมาร่วมเพศกับตนอีก ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ตนทนไม่ไหว เคยผ่านผู้หญิงมาเป็นร้อย ชื่นชอบการมีเซ็กซ์หมู่ อย่างไรก็ตาม ตนกังวลเรื่องความปลอดภัย ล่าสุด นายหนึ่งข่มขู่ตนว่า "จะได้อยู่ใช้เงินแสนหรือเปล่า" ซึ่งทำให้ตนเครียดมากว่าเขาจะมาทำร้ายตน สุดท้าย ตอนนี้ตนมีข้อเสนอให้อีกฝ่ายคือตนเรียกเงินค่าเสียหาย 1 แสนบาท ถ้าเขายอมจ่ายตนก็จะยอมจบทุกอย่าง
ทีมข่าวอมรินทร์ลงพื้นที่หน่วยงานราชการใน อ.เมือง จ.ระยอง นายอู๊ด (นามสมมติ) ผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ตอนนี้ข่าวมันออกไปแล้ว ตนก็ไม่โกรธ และไม่ได้รู้สึกเครียด เพียงแต่ไม่อยากจะพูดอะไร ตนรอไปพบตำรวจ เพราะตนคงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว เขาอยากจะกล่าวหามันก็เรื่องของเขา ส่วนเรื่องเงินที่เขาขอมานั้น ตนก็คงไม่มีเงินจะให้
จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่โรงแรมที่เกิดเหตุรีสอร์ตใน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ลักษณะห้องเมื่อเปิดเข้าไปจะเจอกระจกบานใหญ่ที่ประตู ซ้ายมือเป็นเตียงติดกับผนัง หลังห้องเป็นห้องน้ำ
นางอ้อย อายุ 53 ปี ผู้ดูแลรีสอร์ต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ก็มีตำรวจมาดูกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ไม่ได้ข้อมูลมากนัก เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกได้แค่ 9 วันเท่านั้น แต่เหตุเกิดตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ตนยอมรับว่ารู้สึกตกใจที่รีสอร์ตมีเรื่องเกี่ยวข้องกับคดีข่มขืน
ทั้งนี้ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่จะมีคนวิ่งออกจากห้อง หรือร้องขอความช่วยเหลือ และตนไม่เคยเห็นหน้าผู้เสียหายมาก่อน ส่วนมากลูกค้าที่จะเต็มใจมาด้วยกัน และสมยอมกันมา อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่อยากแสดงความเห็นว่าเรื่องมีการข่มขืนจริงหรือไม่ แต่ทางรีสอร์ตก็ยินดีให้ความร่วมมือ
Advertisement