กรณีเพจ “เจ๊มอยV+” ลงภาพนิ่งความเสียหาย และพฤติกรรมชายวัย 32 ปี ก่อเหตุสร้างความเดือนร้อนเพื่อนบ้านมานานกว่า 1 ปี พร้อมระบุข้อความว่า “#ยังจะปล่อยไว้อีกหรือ คนเมายาปาขวดวางเพลิง คนในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน หรือจะให้เกิดเหตุซึ่งหน้าโดนทำร้ายก่อน วอนช่วยแชร์ไม่รู้จะจัดการกับปัญหานี้ยังไงแล้ว เหตุเกิดซอยเจริญกรุง 69 หนุ่มคนในคลิปรู้ตัวว่าใคร แจ้งความดำเนินคดี แต่ทำไรไม่ได้ ปาขวด ปาของ ทำลายรถ และหลังคาบ้านแทบทุกวัน ไม่ใช่แค่รถคันเดียว เดือนกว่าแล้ว แจ้งจับไปแล้ว แต่มันโดนข้อหาเสพยา นอนห้องขัง 1 คืน ปล่อยตัว และกลับมาทำแบบเดิมซ้ำ ๆ"
ล่าสุดวันที่ 14 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังซอยเจริญกรุง 69 ซึ่งเป็นย่านชุมชนเจริญกรุง โดยซอยดังกล่าวมีทั้งโรงเรียน วัด และบ้านเรือนประชาชนอีกหลายหลังคาเรือน ซึ่งขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ สังเกตว่าบริเวณพื้นทางเดิน เต็มไปด้วยเศษขวดเบียร์หลายยี่ห้อ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ เป็นลักษณะเศษเล็กเศษน้อย
แต่ส่วนใหญ่ก็ได้รับการเก็บกวาดจากเพื่อนบ้านไปแล้วบางส่วน เพราะกลัวว่าเด็กจะเหยียบ ขณะที่บริเวณผนังบ้านในชุมชน รวมถึงรั้วในเขตชุมชน ยังมีร่องรอยจากก้นขวด ซึ่งคาดว่าคนก่อเหตุได้ใช้ขวดฟาดเข้าไปกับผนังปูน แล้วเกิดเป็นรอยยุบก่อนที่ขวดจะแตกกระจาย
อีกทั้งภายในพื้นที่ชุมชน ยังมีบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียหาย บริเวณรั้วสังเกตว่ามีรอยไม่ของกรวยยาง และเป็นร่องรอยไม่วงกว้างสีดำ ติดอยู่บนพื้น ซึ่งเกิดจากฝีมือของคนก่อเหตุ ได้ใช้น้ำมันราดกรวยยาง และนำเศษผ้ามากองรวมเอาไว้ ก่อนที่จะจุดไฟเผา หวังที่จะให้ลุกไหม้เข้าไปภายในชุมชน แต่โชคดีในคืนวันเกิดเหตุ 12 มี.ค.64 มีชาวบ้านในพื้นที่ขับรถผ่านมาเจอ จึงได้ช่วยกันดับไฟและแจ้งกับเจ้าของบ้าน เปลวไฟจึงไม่ได้ลุกไหม้หรือลุกลามใหญ่โต สามารถควบคุมไฟได้
น.ส.จันทร์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าคนที่ก่อเหตุ คือ นายวันชัย อายุ 32 ปี เพราะมักจะก่อกวนเพื่อนบ้านมาตลอด 1 ปี เต็ม โดยมีบ้านหลังอื่นถูกขว้างปาขวดเบียร์-เหล้า ใส่หลังคา กระจกบ้าน และรถที่จอดอยู่ จนได้รับความเสียหาย ซึ่งบ้านของตนก็มีเศษกระจกติดอยู่บนหลังคาเช่นเดียวกัน โดยทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาก็จะเจอเศษขวดแตกกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ทุกวันยังต้องสำรวจความเสียหายของทรัพย์สินในบ้านว่ามีอะไรเสียหายหรือแตกบ้าง เนื่องจากเป็นพฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่นายวันชัยจะก่อความรำคาญให้กับคนในชุมชน
อีกครั้งตนต้องคอยเก็บกวาดเศษขวดที่แตกกระจาย เพราะเนื่องจากในชุมชนเป็นย่านของโรงเรียน มีเด็กสัญจรผ่านเข้าออกซอยทุกวัน ถ้าหากยังมีเศษขวดแก้วแตกอยู่บนพื้น กลัวว่าเด็กจะได้รับอันตราย อีกครั้งบ้านของตนเป็นบ้านที่มีแต่ผู้หญิงอาศัย ผู้ชายส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ข้างนอก ทำให้การใช้ชีวิตในตอนกลางคืน ไม่กล้าที่จะออกไปไหน เพราะกลัวว่าจะไปเจอกับนายวันชัยคนก่อเหตุ และเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อตกค่ำก็ต้องเข้าบ้านล็อกประตู และไม่ออกไปไหนในยามวิกาล
ทั้งนี้ช่วงปี 2558 นายวันชัยคนก่อเหตุ เคยก่อเหตุปาขวดใส่บ้านในชุมชนมาแล้วหลายหลัง เพื่อนบ้านสุดจะทน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมแล้วพาไปดำเนินคดี และติดคุกอยู่ช่วงหนึ่งในข้อหาเสพยาเสพติด กระทั่งปลายปี 2561 นายวันชัยพ้นโทษออกมา ก็กลับมามีพฤติกรรมเหมือนเดิม แต่ไปก่อเหตุที่ซอยชุมชนอื่น
ในช่วงปี 2562 เริ่มกลับมาก่อเหตุที่ซอยที่ตนอาศัยเหมือนเดิม กระทั่งมีการก่อเหตุแบบรายวัน และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ดังนั้นตนอยากจะให้หน่วยงาน รวมถึงครอบครัวของนายวันชัย ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และช่วยกันดูแลป้องปรามไม้ให้เกิดเหตุช้ำ
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับข้อมูลว่ามีชาวบ้านในชุมชนอีกหลังหนึ่ง ซึ่งมีรถเก๋ง และรถเบนช์ ได้รับความเสียหาย ซึ่งเกิดจากฝีมือของนายวันชัย ได้ใช้ขวดปาโดนรถจนเกิดเป็นรอย ซึ่งตอนนี้รถทั้งหมดยังไม่ได้รับการซ่อม เนื่องจากอยู่ระหว่างการประเมินราคาและติดต่อกับศูนย์รถ
โดยทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของรถเบนซ์ ซึ่งแม้ว่าจะจอดอยู่ภายในรั้วบ้านที่ค่อนข้างสูง มีรั้วรอบขอบชิด และยังติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้หลายตัว แต่ก็ยังถูกนายวันชัย ก่อเหตุขว้างปาขวดเข้ามาภายในรั้ว หล่นใส่หลังคารถเบนซ์ฝั่งประตูโดยสารด้านซ้าย ซึ่งตอนนี้รอศูนย์บริการประเมินราคา เบื้องต้นประมาณ 100,000 บาท เพราะต้องเคาะพ่นสีใหม่
ส่วนรถเก๋ง ได้รับความเสียหายบริเวณฝากระโปรงด้านหน้าเป็นรอยจากขวดที่ปาใส่ เบื้องต้นประเมินราคาเคาะพ่นสีอยู่ที่ 10,000 - 20,000 บาท
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่ห้องพักแห่งหนึ่งภายในซอยเจริญกรุง 69 ซึ่งเป็นห้องเช่าของนายวันชัย คนก่อเหตุ โดยเจ้าตัวไม่ได้อาศัยอยู่ที่ห้อง ซึ่งมีเพียงญาติอ้างว่าเจ้าตัวไปทำงาน จะกลับเข้ามาช่วงค่ำของทุกวัน
แต่ทีมข่าวได้เจอกับนายบุญ (นามสมมติ) พ่อของคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้มีผู้เสียหายเดินทางมาหาแล้ว และมีการพูดคุยกันไปบางส่วนแล้ว ซึ่งตนในฐานะพ่อของคนก่อเหตุ ก็ได้ขอโทษผู้เสียหายไปแล้ว คิดว่าเรื่องทั้งหมดจบแล้ว ดังนั้นก็ไม่มีอะไรชี้แจง
ส่วนนิสัยใจคอของลูกชาย ก็เป็นวัยรุ่นทั่วไป ซึ่งเชื่อว่าการก่อเหตุก็เกิดจากความคึกคะนอง แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด หรืออาการหลอนหรือไม่ ดังนั้นตนก็จะห้ามปรามและดูแลลูกเป็นอย่างดี แล้วจะไม่ให้ออกไปก่อเหตุในช่วงตอนกลางคืน หรือไปก่อความวุ่นวายให้กับเพื่อนบ้านอีก พร้อมทั้งขอโทษเพื่อนบ้านที่ลูกชายไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อน
หลังจากนี้หากจะมีการเรียกร้องหรือให้ชดใช้ค่าเสียหาย ตนก็คงจะไม่มีให้ เพราะถือว่าเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน แต่ก็เชื่อว่าหลังจากที่ตัวเองขอโทษแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ส่วนเรื่องของคดีหรือจะมีการแจ้งความ ก็ให้ว่าไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ เพราะบางครั้งลูกชายออกจากบ้านกลางคืน ก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรไว้
ส่วนความคืบหน้าทางคดี เบื้องต้นตำรวจในพื้นที่ได้รับแจ้งเหตุและลงบันทึกประจำวันให้กับผู้เสียหายแล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะดำเนินคดีอะไรได้ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และรอให้ผู้เสียหายนำหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม โดยเฉพาะเหตุวางเพลิง รวมถึงทำลายทรัพย์สิน แต่หลังจากนี้ก็จะส่งสายตรวจเข้ามาดูพื้นที่มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการป้องกันเหตุซ้ำรอย
Advertisement