จากกรณีเพจ "มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี" ได้โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความระบุว่า เวลา 02.30 น. ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุฆาตกรรม ที่คอกหมู ม.12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยขุนทะเลตรวจสอบ พบร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นพนักงานชาวลาว ภายในบ้านพักพนักงาน ได้แก่ นายขันทะเล จันดี อายุ 26 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิด บริเวณใบหน้า และศีรษะ 8 แผลแผลฉกรรจ์ ข้อมือด้านซ้ายขาด, นางสาว ทองบาง ศรีเงาะ อายุ 24 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิด บริเวณศีรษะและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ข้อมือด้านขวาขาด, ด.ช.คำสว่าง ศรีเงาะ อายุ 4 ปี 5 เดือน มีบาดแผลถูกของมีคม ศีรษะและท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์
พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อินทร์รงค์ สารวัตรเวร ร่วมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.กาญจนดิษฐ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ ก่อนมอบหมายให้เจ้าหน้าอาสาสมัครกู้ภัยขุนทะเล กู้ภัยกาญจนดิษฐ์ มูลนิธิกุศลศรัทธา นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ชันสูตรต่อที่ รพ.กาญจนดิษฐ์
วันที่ 2 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณคอกหมู ม.12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อไปถึงพบว่าช่วงเช้าวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ ตม.จังหวัด เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานรอยเท้าในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม โดยใช้โพลิสไลน์ปิดกันพื้นที่ พร้อมปิดล็อกประตูทางเข้าออก ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปภายในจุดเกิดเหตุ
นางรจนา พรหมทองนุ่น อายุ 47 ปี น้องสาวเจ้าของฟาร์ม เผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกจ้างชาวลาว อยู่ในฟาร์มหมูมานาน 1-2 ปี หลังเกิดเหตุเวลา 02.00 น. ตนมาทราบข่าวจากพี่ชายว่าให้รีบมาที่ฟาร์มเนื่องจากลูกจ้างถูกฆาตกรรมเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักไม้ หลังฟาร์มเลี้ยงหมู มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบพื้นที่แล้ว ส่วนรายละเอียดเจาะลึก ตนก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าปมเหตุเกิดจากอะไร ส่วนนายสง่าพร พี่ชายที่เป็นเจ้าของฟาร์ม ตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำที่ สภ.แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่าผู้ก่อเหตุโหดและอุกอาจเกินไป หากมีโอกาสได้เจอตัวก็อยากจะถามว่าทำแบบนี้ทำไม ทำเพื่อจุดประสงค์อะไร อีกทั้งหากเป็นไปได้ก็อยากให้คนก่อเหตุได้รับผลกรรมแบบเดียวกับผู้เสียชีวิต
นายโชคชัย พรหมทองนุ่น อายุ 51 ปี น้องชายเจ้าของฟาร์ม เผยว่า หลังทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากไม่คิดว่าคนงานจะถูกฆาตกรรมพร้อมกันทั้ง 3 ศพ แต่ปมเหตุที่แน่ชัดก็ไม่มีใครทราบ เนื่องจากขณะเกิดเหตุ คนในครอบครัวไปรวมงานศพญาติในซอยใกล้วัดหัวหมาก ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กม. จึงไม่มีใครอยู่ภายในฟาร์ม นอกจากครอบครัวผู้เสียชีวิต
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบว่าปมเหตุการฆาตกรรมเกิดจากอะไร เนื่องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตเองก็เป็นคนดี ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร อีกทั้งทรัพย์สินก็ไม่มี อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะผู้เสียชีวิตมีเด็กอายุแค่ 4 ขวบ แต่กลับต้องมาตาย อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ จากสอบถามพยานแวดล้อมทราบว่านายสง่าพร พรหมทองนุ่น เจ้าของฟาร์มจุดเกิดเหตุได้พบศพคนงานเสียชีวิต ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. โดยช่วงประมาณ 21.00 น. ได้โทรหาคนงานแต่ไม่มีใครรับสาย หลังจากเดินทางกลับจากงานศพนอกพื้นที่ เมื่อมาถึงฟาร์มเลี้ยงหมูเห็นว่าเปิดน้ำทิ้งไว้ และไฟที่บ้านพักคนงานก็เปิดไว้ จึงเข้าไปดูพบว่าถูกฆาตกรรมดังกล่าว
พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ ระบุว่า เบื้องต้นนายวิทย์ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ อ้างว่า เป็นเพราะหึงหวงเมียตัวเองที่นายขันทะเล คนงานชาวลาวชอบแอบมองเมียของตัวเอง ส่วนที่ลงมือฆ่าผู้หญิงและเด็ก เพราะเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกรงว่าจะไปแจ้งตำรวจ จึงก่อเหตุฆาตกรรมยกครัว อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าที่จะต้องมีการสอบปากคำในตัวของผู้ก่อเหตุอีกครั้งว่าปมเหตุที่แน่ชัดมีความเป็นมาอย่างไร
ช่วงเกิดเหตุคาดว่าระหว่างเวลา 18.00-20.00 น. ขณะที่กลุ่มผู้ตายกำลังนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น คนร้ายได้บุกเข้ามาในบ้าน ช้มีดสปาต้าฟันเข้าที่ใบหน้าของ 2 ผัวเมีย คนละ 1 ครั้ง ซึ่งทั้ง 2 อาจยกมือขึ้นป้องกัน จนทำให้ข้อมือขาดกระเด็นไป ส่วนลูกชายวัย 4 ขวบ เมื่อเห็นเหตุการณ์ได้ลุกขึ้นวิ่งหนี จึงถูกคนร้ายตามไปใช้มีดฟันเข้าที่แผ่นหลัง 1 ครั้ง จนล้มลง ก่อนฟันซ้ำเข้าที่ท้ายทอยอีก 1 ครั้ง
นายทองพันธ์ ศรีเงาะ อายุ 42 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เผยว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นเป็นคนจิตใจดี ขยันทำมาหากินไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร โดยในวันนี้ตนเดินทางมาจากประเทศลาว เพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าที่ตำรวจ ตนยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ทราบปมเหตุการฆาตกรรม อีกทั้งหากมุ่งประเด็นไปที่เจ้าของฟาร์ม ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากเจ้าของฟาร์มก็เป็นคนดี เป็นหัวหน้าที่ดี ดูแลลูกน้องมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวที่ประเทศลาวยังคงทำใจไม่ได้ คิดว่าทางผู้ก่อเหตุโหดเหี้ยมเกินไป ในฐานะญาติก็อยากจะถามว่าก่อเหตุเพื่ออะไร สุดท้ายอยากวอนให้ทางเจ้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษให้ถึงที่สุด
นางมณี นวนเสน่ห์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องตนก็รู้สึกตกใจ ปมการก่อเหตุตนก็ไม่ทราบ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุตนไปงานศพของญาติเจ้าของฟาร์ม บริเวณวัดหัวหมาก ช้างขวา สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่า ผู้ก่อเหตุโหดเกินไปที่ฆ่าเด็กน้อย 4 ขวบด้วย ตนในฐานะคนบ้านใกล้เรือนเคียงก็รู้สึกหดหู่ใจ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเองเป็นคนลาว เข้ามาทำงานเลี้ยงหมูอยู่ในฟาร์มได้เป็นปีแล้ว เท่าที่สัมผัสมา ก็ไม่เคยเห็นมีปัญหากับใคร ในทุกวันก็จะพากันเดินออกมาซื้อของกินที่ร้านขายของชำปากทางเข้าบ้าน ยังยิ้มให้กันตามประสาเพื่อนบ้าน
ส่วนตัวเจ้าของฟาร์มเองก็เป็นคนดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร เพื่อนบ้านเดือดร้อนก็ช่วยเหลือตลอด ตนจึงมองว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย น่าจะไม่เกี่ยวกับเจ้าของฟาร์ม อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากหากผู้ก่อเหตุที่มีความโหดเหี้ยมฆ่ายกครัวได้ขนาดนี้ ตนเองรวมถึงชาวบ้านก็หวาดกลัว เกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายสุทธิศักดิ์ พรหมทองนุ่ม หรือ วิทย์ อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของฟาร์มหมู หลังรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหาร อ้างว่าเหตุจากคนตายขัดแย้งกับตนเองบ่อยครั้ง เนื่องจากคิดว่าคนร้ายไปชอบเมียคนลาว จากนั้นแรงงานลาวก็เริ่มมีอาการไม่ค่อยเชื่อฟัง จึงบาดหมางกันมาเรื่อย ๆ จนเกิดเหตุลงมือสังหารตอนเวลาประมาณ 15.00 น. ช่วงที่ไม่มีใครอยู่ โดยได้ใช้มีดพร้าฟันทั้ง 3 คน
หลังก่อเหตุหนีไปอาบน้ำที่บ้านย่า และทิ้งเสื้อผ้ารองเท้าชุดที่ใส่ก่อเหตุบริเวณริมถนน ก่อนที่จะกลับมาบ้าน และได้มารับภรรยาไปร่วมงานศพผญาติ กลับเข้ามาช่วงประมาณ 01.00 น. จนพ่อซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มเข้าไปเจอศพ และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
เวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวชี้จุดเกิดเหตุ เมื่อมาถึงทีมข่าวพยายามสอบถามข้อมูลถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่นายวิทย์ ไม่ยอมตอบคำถาม ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวเข้าห้องสอบไป
นายวรพงศ์ นาคาชล อายุ 41 ปี หัวหน้ากู้ภัยกุศลศรัทธา จุดขุนทะเล เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุจากวิทยุกู้ภัย ช่วงประมาณ 03.00 น. มีเหตุฆาตกรรมที่คอกหมู อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยขุนทะเลรุดเข้าช่วยเหลือตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต 3 รายเป็นชาวลาว ก่อนประสาน พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อินทร์รงค์ สารวัตรเวร ร่วมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.กาญจนดิษฐ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุอีกครั้ง
เบื้องต้น รายละเอียดการก่อเหตุ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับเจ้าของฟาร์ม ยังไม่ทราบปมเหตุที่แน่ชัด เนื่องจากขณะเกิดเหตุทางเจ้าของฟาร์มไปงานศพญาติ อีกทั้งจากการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียชีวิตทราบว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่เคยมีปัญหากับใคร จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจ
Advertisement