จากกรณีนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี หายตัวนาน 1 สัปดาห์ โดยขับรถเก๋งโตโยต้าโคโรน่า สีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ไปทวงเงิน 3 แสนบาทจาก นายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี ก่อนหายตัวไป กระทั่งพบรถนายสุชาติถูกเผาฝังดินในสวนปาล์มใกล้บ้านบังฟิต พื้นที่บ้านหนองแบก หมู่ 1 ต.หนองทะเล และพบศพ นายสุชาติถูกฝังในสวนยางพารา ห่างจากจุดที่พบรถประมาณ 700 เมตร เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา นำไปสู่การออกมายจับผู้ต้องแล้วทั้ง 9 คน
ล่าสุด วันที่ 7 มิ.ย. 64 นายสุมิตร รักโอ๋ กำนันตำบลหนองทะเล อ.เมืองกระบี่ นำผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ร่วมกันในคดีฆ่านายสุชาติ ขาวล้วน ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่
ประกอบด้วยนายวิรสิงห์ หรือบังมีนศรีหมาด อายุ 38 ปี, นายวิรัตน์ หรือ บังตั้ม ศรีหมาดอายุ 34 ปี, นายโชคทวี หรือ บังบัส จันอ่อน อายุ 21 ปี และนายอัษฎาวุธ หรือ บังแฉ็ง สีหมุ่น อายุ 27 ปี เข้ามอบกับตำรวจ สภ.อ่าวนาง โดยมีพ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่, พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รองผบก.ภ.จ.กระบี่ รับมอบตัวทันทีที่เดินทางมาถึง สภ.อ่าวนาง
โดยก่อนหน้าที่มีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว คือนายสุริยา เริงสมุทร หรือ บังฟิต, นายสุรชัย หรือ กิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี พี่ชาย, นายสุริยันต์ หรือ บังหนี เริงสมุทร อายุ 30 ปี น้องชาย, นายสุวิทย์ หรือ บังซัน เริงสมุทร อายุ 26 ปี ญาติผู้น้อง และนายอาลิพ หรือ บังลิพ ช่างเรือ อายุ 27 ปี และถูกแจ้งข้อหาหนัก 9 ข้อหา
จากนั้นตำรวจคุมตัวนายวิรสิงห์ หรือ บังมีน ไปชี้จุดที่ฝังศพในสวนยาง จุดนี้ผู้ที่อยู่ในช่วงฝังศพมีแค่บังมีน โดยเจ้าตัวชี้จุดพร้อมกับอธิบายให้พนักงานสอบสวนทราบว่าใครยืนอยู่จุดไหน ทำหน้าที่อะไรบ้าง โดยตัวบังมีนอ้างว่าตนเองไม่ได้เข้าไปร่วมฝังศพด้วยเพียงมานั่งรออยู่ในจุดดังกล่าว
บังมีน เปิดเผยภายหลังชี้จุดเกิดเหตุว่า วันเกิดเหตุบังฟิตมาตามให้ตนมาช่วยขุดหลุมในสวนยาง แต่ตนเห็นว่านายสุชาติถูกบังฟิตพร้อมกับกิบหลีฆ่าตายไปแล้ว เมื่อตนเห็นแบบนั้น ก็ไม่กล้าจะลงมือช่วยฝัง แต่เหตุที่ตนต้องมาที่จุดเกิดเหตุด้วยเพราะตนกลัวบังฟิต
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุแล้วจะกลับก็กลับไม่ได้แล้ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ตนอยากขอโทษญาติผู้ตายด้วย ตนเข้าใจความรู้สึกญาติหากเป็นญาติของตน ตนก็รู้สึกเหมือนเขา ส่วนตนยอมรับในส่วนที่ตนเกี่ยวข้อง
นายโชคทวี หรือ บังบัส จันอ่อน อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ซื้อน้ำมันมาเผารถ และช่วยฝังรถ รับสารภาพว่าอยู่ในเกิดเหตุจริงแต่ไม่ได้ฆ่าเสี่ยสุชาติ เพียงแต่ช่วยในการฝังดินกลบรถเท่านั้น
นายวุฒิชัย ทับไทร อายุ 32 ปี ลูกเขยของเสี่ยสุชาติ เปิดเผยว่า วันนี้จากที่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากทางผู้ต้องหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดต่อมาบอกตนว่าขณะที่มีการไปชี้จุดบริเวณหลุมฝังศพของเสี่ยสุชาติ ปรากฏว่าพบสร้อยคอสแตนเลสพร้อมกับกรอบรูปพระหลวงปู่ ตนเชื่อว่าเป็นของเสี่ยสุชาติอย่างแน่นอน และยังเชื่อว่าเป็นสร้อยเส้นเดียวกับที่เสี่ยสุชาติมักจะแขวนติดตัวไว้ตลอด ขณะช่วงที่ยังไม่หายตัวไป
จากการพบสร้อยเส้นดังกล่าวนี้ รู้สึกแปลกใจขนลุกขึ้นมาทุกครั้ง เพราะก่อนหน้าขณะที่ไปบริเวณพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวไม่มีใครได้พบสร้อย แต่พอมีการทำแผนขึ้นในวันนี้กลับพบสร้อยคอ ส่วนตัวคิดว่าทางเสี่ยสุชาติอาจจะมีการดลจิตดลใจให้พบของที่ติดตัวเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ตนต้องการอยากให้ทางตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นคดีที่โหดเหี้ยมเกินไป และคาดไม่ถึงว่าทางพ่อของภรรยาที่ตนรักและเคารพนับถือต้องมาเสียชีวิตแบบนี้
นายวิรสิงห์ หรือ บังมีน ศรีหมาด อายุ 38 ปี ทำหน้าที่ช่วยขุดหลุมฝังศพและฝังรถ ส่วนนายวิรัตน์ หรือ บังตั้ม ศรีหมาดอายุ 34 ปี, นายโชคทวี หรือ บังบัส จันอ่อน อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ซื้อน้ำมันมาเผารถ และช่วยฝังรถ, นายอัษฎาวุธ หรือ บังแฉ็ง สีหมุ่น อายุ 27 ปี ร่วมกันไปซื้อน้ำมันมาเผารถ ช่วยกันฝังรถยนต์เก๋ง
Advertisement