กรณีร.ต.อ.สมยศ ไกรกิจธนโรจน์ รองสว. (สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีชายสูงอายุเสียชีวิตภายในห้องเช่าเลขที่ 240/5 หมู่ 3 ซอยกุศลส่งสามัคคี 4 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นห้องเช่า 2 ชั้น ซึ่งห้องที่ 10 พบร่างของนายวิจินต์ สินธุ อายุ 68 ปี ชาวจ.ชลบุรี นอนหงายเสียชีวิตอยู่กลางบ้าน ข้างลำตัวพบชามข้าววางอยู่ ซึ่งภายในชามข้าวยังคงมีข้าวและเป็ดพะโล้หลงเหลืออยู่ด้วย ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
ล่าสุดวันที่ 10 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังห้องเช่าดังกล่าว หมู่ 3 ซอยกุศลส่งสามัคคี 4 ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ลักษณะเป็นห้องเช่า 2 ชั้น แบ่งเป็น 2 ตึก ส่วนห้องของผู้ตายอยู่ตึกที่ 2 ห้องที่ 10 ซึ่งหน้าห้องของผู้ตายพบว่ามีกองของเก่าอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ และกล่องกระดาษ
ทั้งนี้ ยังคงพบว่าศพคลุมผ้าสีชมพูอยู่ในห้องด้านหลังบ้าน ภรรยาผู้ตายได้เปิดพัดลมไว้ จากการสอบถามภรรยาผู้ตาย ระบุว่า รอเจ้าหน้าที่มารับไปบำเพ็ญกุศลศพที่วัด ทีมข่าวจึงได้ประสานให้รถกู้ภัยมารับศพ เนื่องจากภรรยาผู้ตายอ่านไม่ได้เขียนไม่ออก ต่อมาเวลา 11.50 น. เจ้าหน้าที่เดินทางมารับศพออกจากบ้าน และนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดมหาวงษ์ ปู่เจ้าสมิงพราย โดยมีภรรยานั่งไปด้วย
นางลัดดา อาลัยรัตน์ อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า วานนี้ (9 ก.ย.64) เวลา 13.00 น. ก่อนเกิดเหตุการณ์ตนได้เดินทางไปเก็บของเก่า เมื่อถึงห้องจึงได้เตรียมอาหารให้กับสามี เนื่องจากตาข้างซ้ายบอด และตาขวาพร่ามัว ตนได้นำข้าวสวยและปลากระป๋องไปให้สามีที่พักอยู่หลังบ้าน
หลังจากนั้น ตนก็เดินกลับมาทานเป็ดพะโล้ที่ชาวบ้านนำมาให้ตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนที่สามีจะเอ่ยปากขอคอเป็ด ตนจึงตักให้ ผ่านไปครู่หนึ่งได้ยินเสียงสามีตะโกนขอความช่วยเหลือว่า "เป็ดติดคอ ๆ หายใจไม่ออก" ตนก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ เอามือโอบเอวจากด้านหลังและกระตุกร่างกายย้ำ ๆ พร้อมกับบอกให้ยัดข้าวคำใหญ่ ๆ ลงไป แต่กระดูกก็ไม่ออก จึงนำน้ำให้ดื่มแต่ก็ช่วยไม่ได้ ก่อนที่สามีจะล้มลงไปนอนชักกับพื้นและแน่นิ่งไป
ทั้งนี้ ตนรีบวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ให้เรียกรถโรงพยาบาบ เมื่อแพทย์เวรมาถึงจึงได้วัดความดัน พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ที่ผ่านมาสามีก็เคยกินคอเป็ดแต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งตอนเช้าเขาก็ทาน แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร กระทั่งช่วงกลางวันถึงติดคอ และยอมรับว่าสามีไม่มีฟันเคี้ยว อาจทำให้ช่วงที่กำลังกลืน ทำให้คอเป็ดหลุดเข้าในหลอดลมหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สามีมีโรคประจำตัวป่วยเป็นโรคหัวใจและความดัน ประกอบกับตาซ้ายบอด ส่วนตาขวาพร่ามัว ตนและผู้ตายทำอาชีพเก็บของเก่าขาย โดยตนและผู้ตายไม่ได้มีลูกด้วยกัน มีเพียงลูกบุญธรรม ซึ่งขณะนี้ก็ไปบวชเป็นเณร จำไม่ได้ว่าอยู่วัดไหน แต่ได้ประสานไปหาพระเลี้ยงแล้ว ตนอยากให้พาลูกชายมาดูหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ตนไม่มีลางสังหรณ์อะไร และไม่ได้พูดร่ำลาสามีแม้แต่น้อย
นายธวัชชัย แซ่บู๊ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุเวลา 14.00 น. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อไปถึงพบผู้ตายนอนหงายเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบกระดูกเป็ดติดในหลอดลม คาดเสียชีวิตมาแล้ว 10-15 นาที โดยกระดูกเป็ดมีความกว้าง 1 ซม. ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการต่อสู้
จากการสอบถามภรรยาและพยาน 4 คน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำโครงเป็ดไปต้มจนเปื่อย แล้วนำมาทานกัน กระทั่งกระดูกเข้าไปติดในหลอดลมของผู้ตาย โดยผู้ตายนั้นมีฟันเพียง 3 ซี่ จึงใช้วิธีดูดจนกระดูกหลุดเข้าไปในหลอดลม โดยห้องเช่าดังกล่าวผู้ตายอาศัยอยู่กับภรรยาเพียง 2 คน ซึ่งมีลูกเลี้ยงหนึ่งคน แต่ไปบวชเรียนอยู่ที่วัด ชาวบ้านกำลังช่วยกันติดต่อมาที่งานศพ
นอกจากนี้ ตนขอชี้แจงว่าสาเหตุที่ไม่นำศพไปที่วัดนั้น ภรรยาของผู้ตายไม่มีเงิน ตนก็ได้แนะนำให้นำร่างไปฌาปนกิจศพที่วัดมหาวงษ์ ปู่เจ้าสมิงพราย เพราะไม่ได้เสียเงิน แต่ภรรยาผู้ตายอ้างว่าไม่สะดวก ต้องการนำร่างไปที่วัดโยธิน ซึ่งทางวัดโยธินศาลาไม่ว่าง โดยศาลาจะว่างวันนี้ (10 ก.ย.64) ภรรยาผู้ตายจึงยืนยันที่จะนำไว้ที่วัดโยธิน ตนได้แนะนำให้นำศพไปเก็บไว้ที่ห้องก่อน และให้เปิดพัดลมเป่า ประกอบกับช่วงที่ตัดสินใจว่าจะนำร่างผู้ตายไปฌาปนกิจศพวัดไหน เป็นเวลาเย็นแล้ว และช่วงกลางดึกภรรยาผู้ตายก็ได้ติดต่อให้นำศพไปไว้ที่วัดมหาวงษ์ ปู่เจ้าสมิงพราย ตนก็เร่งรีบประสานและนำร่างของผู้เสียชีวิตไปฌาปนกิจศพที่วัดมหาวงษ์ ปู่เจ้าสมิงพราย
Advertisement