วันที่ 27 กันยายน2564 จากกรณีเกิดเหตุสลดชาวบ้าน 4 รายซึ่งเป็นสามีภรรยากันทั้ง 2 คู่ ได้ถูกมวลน้ำป่าไหลหลากพัดร่างสามีจมหายไปกับกระแสน้ำ ส่วนภรรยาทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเอาชีวิตรอดจนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย เหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่เขตหมู่ 10 บ้านวังชะอม ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่พบกับ นายสมควร อ่อนวิกิจ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่หมู่ 10 ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเวลาราว 3-4 ทุ่มของคืนวันที่ 25 กันยายน 2564 ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านถูกน้ำป่าพัดร่างรวมทั้งหมด 4 รายซึ่งเป็นคู่สามีภรรยากัน
โดยคู่แรกนั้นทราบชื่อคือนางเพ็ญศรี ไทรด้วง อายุ 60 ปี (ภรรยา) กับนายชัยฤกษ์ ไทรด้วง อายุ 70 ปี อดีตข้าราชการครู สามีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 10 ซึ่งก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้ชวนกันขึ้นแพส่วนตัวข้ามคลองกระสังเพื่อไปเก็บของที่บ้านสวน ทั้ง ตู้เย็นโทรศัพท์ ข้าวของเครื่องใช้ แต่ระหว่างนั้นระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง เห็นท่าไม่ดีเลยชวนกันขึ้นแพกลับ แต่ด้วยกระแสน้ำเชี่ยวได้พัดแพไปปะทะกับต้นไม้
ภรรยาตกน้ำคว้าต้นไม้ไว้ทัน ส่วนสามีอยู่บนแพเกาะต้นอินทผาลัมไว้ แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันประคองแพเพื่อจะกลับเข้าฝั่ง แต่เนื่องด้วยน้ำไหลเชี่ยวก็ได้พัดแพไปกลางน้ำจนแพคว่ำ เนื่องด้วยความมืดทั้งคู่จึงพยายามเอาตัวรอด โดยภรรยาสามารถเกาะต้นไม้ไว้ทันติดตั้งแต่ 4 ทุ่มจนถึง2โมงเช้า ส่วนสามีขณะนั้นมองเห็นแต่แสงไฟที่ใส่คาดหัวลอยไปกับกระแสน้ำ ไม่ทราบชะตากรรม
ส่วนอีกคู่ ทราบชื่อคือ นางสำเนียง ทาทอง อายุ 58 ปี ภรรยาและนายกำแพง ทาทอง อายุ 59 ปี สามี บ้านเลขที่ 106 หมู่ 10 ขณะก่อนเกิดเหตุทั้งคู่อาศัยอยู่ในบ้านแล้วพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจึงช่วยกันเก็บของหนีน้ำ แต่ว่าเอาไม่ทันเพราะน้ำมาแรงและน้ำมาก จึงชวนกันเดินฝ่าน้ำออกจากบ้านเพื่อมาขึ้นฝั่งบนถนน แต่พอเดินมาพ้นบ้านไม่เท่าไร ภรรยาก็เกิดพลัดลื่นล้มสามีก็ช่วยดึงจึงไหลตามน้ำไปด้วยกันแล้วพยายามคว้าที่ยึดเกาะจนทั้งคู่เกาะต้นอ้อยไว้ได้ แต่ด้วยกระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้สามีมือหลุดจากต้นอ้อยลอยหายไปกับกระแสน้ำ ส่วนภรรยาเกาะต้นอ้อยตั้งแต่ 4 ทุ่มถึง 08.00 น. ถึงมีคนมาเห็นและให้การช่วยเหลือ
ล่าสุด ช่วงสายวันนี้มีการระดมกำลังชาวบ้านเจ้าหน้าที่ อบต.พุเตย ราว 100 นายกระจายกำลังออกค้นหาทั้ง 2 จุดการค้นหาจะปูพรมค้นหาตามคลองกระสังทั้งสองฟากฝั่งและพื้นที่การเกษตรซึ่งคาดว่าสามีทั้ง 2 จะถูกกระแสน้ำพัดพาร่างไหลไปตามน้ำ ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นอย่างไร
ส่วนถนนสายพุเตย-ซับน้อยช่วงเกิดเหตุระดับน้ำมีความลึกราว180-200เซนติเมตรได้ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหายระยะทางยาวประมาณ200 เมตร
จากการสอบถาม นายสมควร อ่อนวิกิจ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่หมู่ 10 เปิดเผยว่าจากสถานการณ์น้ำหลากเข้าท่วมมีชาวบ้านถูกน้ำพัดร่างทั้งหมด 4 รายเป็นชาย 2 หญิง 2 แต่สามารถค้นพบและให้การช่วยเหลือได้ทันเป็นหญิง 2 ราย
โดยมวลน้ำมาแรงมากหนักสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งผู้สูญหายขณะเกิดเหตุจุดแรกนั้นสามีภรรยาคู่แรกจะพากันเดินข้ามคลองจากไร่เพื่อกลับมาบ้านขณะนั้นน้ำไหลแรงจึงได้พัดร่างไปตามคลอง สามีจมน้ำ ภรรยารอด และส่วนสามีภรรยาคู่ที่ 2 นั้นบ้านอยู่กลางน้ำจะพากันออกจากบ้านขึ้นมาบนบก แต่พอมาถึงกลางทางถูกน้ำป่าพัดร่างทั้งคู่ สามีจมน้ำหาย ภรรยารอดเช่นกัน ซึ่งวันนี้ก็ยังช่วยกันปูพรมค้นหาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ทราบชะตากรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มวลน้ำซัดถนนขาด จมหมู่บ้าน อ.ด่านขุนทด ขณะที่ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร เกินความจุ 164% แล้ว
- โคราช เตือนประชาชนเก็บของขึ้นที่สูง รับมือมวลน้ำจาก อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร
- ประยุทธ์ ลุยตรวจ น้ำท่วมสุโขทัย ชวนชาวบ้านสวดมนต์ขอพายุมาลูกเดียวพอ
Advertisement