เมื่อวันที่ 29 ก.ย.64 เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยอำเภอเมืองชัยภูมิ ที่ตลาดคลองพุดซา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า ในวันนี้ลงพื้นที่พร้อมรัฐมนตรีและส.ส. ระหว่างเดินทางก็สังเกตมาตลอดทาง เห็นความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน เข้าใจและเจ็บปวดทุกครั้งที่มีภัยธรรมชาติ วันนี้ทุกประเทศประสบกับความเดือดร้อน สำหรับประเทศไทยยังอยู่ในระดับปานกลาง แต่ไม่สามารถไว้วางใจได้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะสู้กับธรรมชาติได้ในสถานการณ์ปกติ โลกกำลังเตือนกำลังร้องเรียนให้ช่วยดูเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน
“ตอนนี้ได้สั่งการเรื่องเยียวยา ให้ผู้ว่าราชการตรวจสอบเบื้องต้น เพื่อให้เยียวยาได้โดยเร็ว เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
วันนี้เอาความรักความห่วงใย ของคนไทยทั่วประเทศมาให้ ขอให้คนไทยรักกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักความสามัคคี จะช่วยแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง คนไทยย่อมไม่ทิ้งกัน ต่อให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน วันข้างหน้าก็ดีกันได้ เเราต้องสร้างบุญกุศลของเรา เผื่อแผ่ให้เขาไป ถ้าเขาว่าเรา แต่เรารับมาทั้งหมดจะกลายเป็นทุกข์” นายกฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะผลักดันน้ำออกจากเขตเมืองได้อย่างไร นอกจากนี้ ตนห่วงเรืองสภาพจิตพี่น้องประชาชน อยากให้กรมสุขภาพจิตลงพื้นที่เยียวยาสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ ถ้าเราเข้มแข็งโชคดีก็จะมาหา และตนก็เห็นใจพี่น้องเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบในตอนนี้ ประเทศไทยโชคดีมีภัยธรรมชาติแค่อุทกภัย ภัยแล้ง เทียบต่างประเทศมีภัยอื่น ๆ เพราะฉะนั้นต้องตั้งหลัก ภาครัฐก็ต้องเข้ามาดูแล วอนอย่าอย่าสร้างความขัดแย้งซึ่งกันและกัน “ใครจะรักใครจะชอบผมไม่ว่า แต่อยากให้รักประเทศ ถ้าไม่รักตรงนี้จะเหลือความรักให้กับใคร”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ทิ้งชัยภูมิไม่ได้ เพราะเป็นบ้านของแม่ แม้ว่าผมจะไปเกิดที่ จ.นครราชสีมา เพราะฉะนั้นความรักต้องอยู่ตรงนี้ แต่ก็รักแค่ 2 จังหวัดไม่ได้ต้องรักทั้ง 77 จังหวัด”
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ต้องหาพื้นที่ในการกักเก็บน้ำ ดึงน้ำออกจากเขตชุมชน ขอให้ทุกคนคิดว่าน้ำมามากเกินไปก็เป็นทุกข์ น้อยไปก็ทุกข์กว่า รัฐบาลก็จะดูภาพใหญ่ สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันรักษาธรรมชาติ “ขอบคุณนะจ๊ะ รู้ไหมว่าพวกเราห่วง” และเตือนให้ประชาชนระวังเรื่องโควิด-19 และโรคที่มากับน้ำ ทั้งน้ำกัดเท้า และไข้เลือดออก ขอให้ทุกคนมีความสุขและปลอดภัย และอวยพรอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ให้ชาวจ.ชัยภูมิ จงแคล้วคลาด พ้นจากความลำบากโดยเร็ว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีมอบถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มีประชาชนมาให้กำลังใจตะโกนนายกสู้ ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้โบกมือให้ประชาชน ก่อนจะขึ้นรถยกสูงของเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อตรวจเยี่ยม รพ.ชัยภูมิ
ขณะที่ฝั่งตรงข้ามตลาดคลองพุดซา กลุ่มประชาชนใส่เสื้อสีดำ ถือป้ายข้อความวิจารณ์นายกรัฐมนตรี และข้อความขอบคุณ ก้อง ห้วยไร่ ลักษณะเสียดสีที่ก้อง ห้วยไร่ ลงพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิในช่วงใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ยังมีการตะโกนไล่ และด่าทอนายกรัฐมนตรีระหว่างที่รถเคลื่อนผ่าน