เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3(หน.สส) และนายณรงค์ วรหาญ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 3 พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ รอง ผกก.สืบสวน 1 บก.อก.ภ.3 และชุดจับกุมได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญพร้อมของกลางยาบ้า 1,980,000 เม็ด ยาอี 9,000 เม็ด และสารไอซ์จำนวน 60 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ.2534 รถยนต์จำนวน 1 คันมูลค่ากว่า 230 ล้านบาท ผู้ต้องหา 2 คน คือ นางประการ ช่วยแสง หรือ เตี้ย อายุ 41 ปี ชาวอ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และด.ช.ป้อม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ชาว อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดจะนำยาเสพติดข้ามฝั่งโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลำเลียงเข้าสู่กรุงเทพฯ และกระจายยาเสพติดไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยจะผ่านพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาในคืนวันที่ 3 ตุลาคม 2564 จึงได้นำกำลังเฝ้าจุดและวางแผนเข้าจับกุม ต่อมาสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้ที่บริเวณปากซอยไม่มีชื่อริมถนนมิตรภาพ (ขาล่อง) ฝั่งตรงข้ามเยื้องวัดใหม่บ้านดอน ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองได้ขับรถหลบหนีในขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและสามารถติดตามจับกุมตัวได้บริเวณจุดกลับรถหน้าร้านธงฟ้ายายฉาตาคิดถนนมิตรภาพ (ขาขึ้น) ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
จากการซักถามขยายผลรับว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายสนุ๊ก (ไม่ทราบชื่อจริง) ให้เป็นคนขับรถนำทางทีมขนยาเสพติดในราคาเที่ยวละ 1 แสนบาท โดยนางประการเป็นคนขับ ส่วน ด.ช.ป้อม หลานชายเป็นคนช่วยดูทางและเป็นผู้ขานตัวเลขหลักกิโลเมตรเพื่อเช็กระยะห่างระหว่างรถนำกับรถที่ขนยาเสพติด ขณะขับรถนำรถขนยาเสพติดสังเกตเห็นการติดตามของเจ้าหน้าที่จึงให้ทีมขนหลบเข้าซอยทิ้งของไว้เพื่อขนถ่ายย้ายของ เมื่อเข้าใจว่าปลอดภัยแล้วจึงขับรถเข้ามาตรวจสอบย้ายของจึงถูกเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจพบและจับกุมตัวได้นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.โพธิ์กลา งแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า สารไอซ์ และยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า สารไอซ์ และยาอี) โดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่าหลังจากมีการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่ขนผ่านจังหวัดนครราชสีมา และสามารถจับเด็กเยาวชนอายุ 14 ปี ร่วมเป็นเครือข่ายในการขนยาเสพติดรู้สึกเป็นห่วงว่ากลุ่มยาเสพติดจะใช้เงินในการล่อลวงเยาวชนหลงผิด โดยให้ค่าจ้าง 1 แสนบาทและก็อาศัยสถานการณ์น้ำท่วมที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งหากยาเสพติดชุดนี้หลุดออกไปได้จะมีมูลค่ากว่า 230 ล้านบาทจึงอยากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย
Advertisement