กรณีน.ส.กัญณมล อายุ 45 ปี เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อขอความเป็นธรรม หลังชาวต่างชาติวางแผนหลอกด้วยการใช้นกต่อชาวอังกฤษล่อลวงให้ออกจากบ้านเพื่อมาคุยเรื่องวีซ่า โดยอ้างว่าวีซ่าจะหมดแล้วให้ออกมาคุยโดยด่วนที่ร้านกาแฟชื่อดังในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกได้จากกล้องวงจรปิดของร้านกาแฟ คลิปวิดีโอความยาว 3.22 นาที ปรากฏภาพขณะที่น.ส.กัญณมล กำลังนั่งร่วมโต๊ะกับชาย 1 คน ก่อนที่จะมีชายหญิงคู่หนึ่งเดินตรงเข้ามา โดยฝ่ายหญิงได้กันน.ส.กัญณมลเอาไว้ ในขณะที่ฝ่ายชายเดินอ้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนเก้าอี้ น.ส.กัญณมลจึงได้พยายามเข้าไปยื้อแย่งเอากระเป๋ากลับคืนมาแต่ไม่สำเร็จ ทันใดนั้นชายที่นั่งร่วมโต๊ะในตอนแรก ก็ได้เดินมากอดรัดน.ส.กัญณมล เอาไว้และกันไม่ให้เข้าถึงชายหญิงคู่ดังกล่าว จากนั้นทั้ง 2 คนก็ได้เดินออกจากร้านไป
ล่าสุดวันที่ 9 พ.ย.64 น.ส.กัญณมล กล่าวว่า เมื่อตนไปถึงร้านกาแฟดังกล่าว ก็ได้พบกับชายชาวอังกฤษ ซึ่งชวนให้ตนขึ้นไปคุยกันที่ชั้น 2 ของร้าน ตนรู้สึกแปลกใจว่าทำไมต้องขึ้นไปคุยที่ชั้นบน เพราะชั้นล่างก็มีที่นั่งว่าง แต่คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะตนกับชายคนดังกล่าวเคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อครั้งที่ต่อวีซ่าทำธุรกรรมทางมรดกเมื่อปีที่ผ่านมา
ขณะที่ตนนั่งคุยกัน สังเกตเห็นสามีภรรยาชาวยูเครนเดินมาหา และตนก็รู้จักทั้ง 2 คนด้วย คิดว่าโลกกลมจริง ๆ ที่เจอคนรู้จักโดยบังเอิญที่ร้านกาแฟ ตนจึงชักชวนให้ 2 สามีภรรยานั่งด้วยกัน แต่คนที่เป็นภรรยากลับเดินเข้ากอดตนดังที่ปรากฏในคลิป จากนั้นก็กระชากกระเป๋าของตน พร้อมบอกให้ฝ่ายชายซึ่งเดินมาด้วยกัน หยิบเอาโทรศัพท์ของตนไปด้วย
“นกต่อซึ่งเป็นชายชาวอังกฤษที่นัดคุยงานกัน ได้กระโดดเข้ามากอดรัดตัวเอาไว้ เพื่อไม่ให้ต่อสู้กับ 2 สามีภรรยา ทำให้ทั้ง 2 คนวิ่งหนีลงบันไดไปที่ชั้นล่างของร้าน และเดินออกจากร้านไป จากนั้นได้วิ่งตามลงไป แต่ไม่เจอทั้ง 2 คนแล้ว” น.ส.กัญณมล กล่าวให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปไม่นานฝ่ายหญิงได้ตีเนียนเดินกลับเข้ามาในร้าน เพื่อเอากระเป๋าสตางค์ของตนมาวางไว้บนโต๊ะชั้นล่าง ตนจึงร้องตะโกนให้พนักงานในร้านช่วยจับคนร้าย พร้อมกับบอกให้พนักงานช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจซึ่งมาทันเหตุการณ์ ก่อนจะเข้ามาล็อกตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ และนำตัวทั้ง 3 คนไปยัง สภ.เชิงทะเล
จากนั้นมีทนายของทั้ง 3 คน เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาแจ้งกับตนว่า คู่กรณีขอเคลียร์ด้วยการเสนอเงินจำนวน 4 แสนบาท แต่ตนไม่ขอรับข้อเสนอดังกล่าว และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกระบวนของกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนซึ่งอยู่กับลูกสาวเพียง 2 คน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.รัษฎา กลึงวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เชิงทะเล ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว และเวลา 13.30 น. ชาวต่างชาติชาวยูเครน ซึ่งเป็น 2 สามีภรรยาได้เข้ามาให้ปากคำกับร้อยเวร สภ.เชิงทะเล โดยไม่ได้พูดคุยหรือให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน
ทนายเกียรติแก้ว บุญจันทร์ กล่าวว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล ได้เชิญตัวพนักงานของร้านกาแฟไปสอบปากคำในฐานะพยานเพิ่มเติม ส่วนผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความกับร้อยเวร กล่าวหาว่าชาวต่างชาติ 2 คนที่ไปรุมชิงทรัพย์นั้นแจ้งความเท็จ โดยกล่าวหาว่าผู้เสียหายไปขโมยรถ การซื้อรถในครั้งนั้นผู้เสียหายได้คุยกับเจ้าของบริษัทแล้ว และเจ้าของบริษัทยินยอมให้ผู้เสียหายใช้ชื่อของบริษัทเป็นผู้ซื้อ โดยซื้อเป็นเงินสด มีหลักฐานทุกอย่าง จากการสอบปากคำของชาวต่างชาติ ทราบว่าผู้เสียหายไม่มีชื่ออยู่ในบริษัท แต่มีเพื่อนของผู้เสียหายมีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัท ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุแล้วในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์
Advertisement