เจ้าหน้าที่ตำรวจและยัดห้องขังเลย...โถๆอะไรกันนี่ไม่ได้ฆ่าคนตายชักกะหน่อยแถมเป็นคนพิการอัมพฤกษ์ครึ่งซีก..อดไม่ได้จริงๆจึงต้องลุกออกจากวงข้าวของครอบครัวเพื่อมาเห็นกับตาที่โรงพักเมืองอุดร..เออจริงด้วย..นี่หละเนาะสังคมที่ไร้ความเมตตาอ้างเพียงว่าผมทำตามหน้าที่ไปว่ากันตามกฎหมาย...และผมก็คงต้องทำตามหน้าที่นักข่าวเหมือนกันนั่นก็คือหาความยุติธรรมให้กับผู้ต้องหารายนี้เหมือนกัน..ขอตัวไปตามหาความยุติธรรมก่อนนะครับไม่รู้มันเป็นตัวยังไงเดี๋ยวถ้าเจอจะมาเล่าให้ฟังต่อโดยมีชาวเน็ตได้มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.อุดรธานีว่าเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านขายชำเลขที่ 49/147 ซอยสุขใจพัฒนา ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี พบ นางประนอม เพ็งพันธ์ อายุ 80 ปี กับ นายสุริยา เพ็งพันธ์ อายุ 55 ปีแม่กับลูกชายหลังจากที่ได้ประกันตัวนายสุริยากับ ร.ต.ท.ศุภชัย ขันอาษา รองสว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าของคดีเมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 22.00น. ก่อนที่จะเดินทางกลับมาที่บ้าน
นางประนอม เพ็งพันธ์ อายุ 80ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาคลอว่า ในช่วงเย็นวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มี เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.อุดรธานีจำนวน 4 คนเข้ามาที่ร้านแล้วแสดงตัวก่อนทำการจับกุมนายสุริยาฯลูกชายของตนซึ่งที่บ้านเปิดเป็นร้ายขายชำใน ตำบลหนองบัว อ.เมือง อุดรธานี โดยเจ้าหน้าที่ได้บอกกับลูกชายว่ามีบุหรี่ที่อยู่ในร้านเป็นบุหรี่ปลอม ไม่ติดอากรแสตมป์ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ.ปี พ.ศ.2509 ม.19 ม.24 ม.50 จะต้องโดนปรับ 50 เท่า ของอากรแสตมป์ยาสูบและได้จะนำตัวมาส่งดำเนินคดีที่สภ.เมืองอุดรธานี
โดยเจ้าหน้าที่ที่มาได้เดินเข้าไปในร้านแล้วไปที่ชั้นวางของและลิ้นชักแล้วนำเอาบุหรี่ที่เก็บไว้ออกมาเหมือนกับว่าจะรู้ที่เก็บบุหรี่อยู่ตรงไหนหรืออาจจะมีสายแจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้โดยคนที่เอาบุหรี่มาขายให้นั้นขับรถเก๋งเป็นชายมาด้วยกันสองคนและขายบุหรี่ให้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดซองละ5บาทซึ่งได้ซื้อเอาไว้3-4ครั้งแล้วครั้งล่าสุดหนึ่งวันที่ผ่านมาก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาจับกุมที่ร้านโดยคนขับรถเก๋งที่นำบุหี่มาขายให้นั้นอ้างว่ามีบุหรี่ไม่ค่อยเยอะแต่เขาไม่ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อซึ่งตนก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์แต่ก็ถูกปฏิเสธ
นางประนอมฯเปิดเผยต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาจับตนได้เอาใบอนุญาตให้ดูว่าได้เสียภาษีบุหรี่ถูกต้องซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะต้องเสียค่าปรับที่เอาบุหรี่ผิดกฎหมายมาขายตนก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีเงินถ้าไม่มีก็ไปที่โรงพักตนก็ทำอะไรไม่ถูกจนไม่อยากเห็นหน้าลูกเพราะร่างกายของลูกชายก็ไม่ดีโดยทางเจ้าหน้าที่บอกต้องเสียเงินให้ 160,000 บาท ตนไม่มีเงินพอคุยกันแล้วตนก็ยืนยันว่าไม่มีเงินและลูกชายก็บอกว่า ผมจะรับผิดชอบเองทางเจ้าหน้าที่บอกว่าใครจะรับผิดชอบแทนลูกชายที่เป็นเจ้าของร้านตนเสียใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่เพราะชาวบ้านจะเพิ่งพาใครให้เสียค่าปรับจ่ายตรงนี้เสียตรงนี้ 160,000 บาทแต่ทางลูกชายยืนยันไม่มีเงินจะยอมติดคุกและเอาตัวไปคุยกันที่สำนักงานสรรพสามิตก่อนนำตัวไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพัก
หลังจากนั้น น.ส.วิลาวัลย์ เพ็งพันธ์ ลูกสาวของตนก็ได้เอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนได้เงินมาจำนวน 50,000บาท มาประกันตัวนายสุริยาฯซึ่งเป็นพี่ชายที่ป่วยพิการอัมพฤกษ์ครึ่งซีกด้านขวาและไม่เคยถูกจับดำเนินคดีพอลูกชายถูกจับเพราะน้องสาวสงสารพี่ชายอยู่กับแม่สองคนที่บ้านในการหาเลี้ยงชีพด้วยการเปิดร้านขายของชำเล็กๆพอประกันตัวพี่ชายกลับมาที่บ้านแม่ได้แต่ร้องไห้ที่เห็นลูกชายถูกจับเพราะลูกชายไม่เคยโดนจับสักครั้ง
ส่วนหญิงเพื่อนบ้านบอกว่าตนเป็นเพื่อนบ้านรู้สึกว่าสงสารแกมากเพราะเขาเป็นคนพิการใช้แขนได้ข้างเดียวพูดก็ไม่ค่อยคล่องแกก็คงจะไม่รู้ว่าอันไหนมันไม่ถูกต้องหรืออันไหมไม่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งยังไงก็อยากให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วยเพราะทำแบบนี้มันก็มีความสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงทำแบบนี้สงสารเขามาก และเขาก็เป็นคนดีตนเคยเป็นลูกค้ามาซื้อของที่ร้านหนุ่มพิการก็บริการดีนิสัยดีด้วยและแม่กับลูกก็ชอบช่วยเหลือคนอื่นด้วยซึ่งเวลาคนเดือดร้อนมาไม่มีเงินเขาก็ให้คนอื่นเซ็นของที่ร้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม สูบบุหรี่จัด ป่วยปอดทะลุ อาการหนักเดินไม่ได้ ต้องใส่แพมเพิร์ส
- เริ่มแล้ว 1 ต.ค.นี้ ขึ้นภาษีสรรพสามิต บุหรี่ เชื่อลดการสูบได้ 2-3%
- ราคาบุหรี่ ล่าสุด 2564 กรมสรรพสามิต เผยล็อตเก่าใน 2 สัปดาห์ราคายังไม่ขึ้น
Advertisement