ใบเตย อาร์สยาม เผยป่วยเป็นซึมเศร้าขั้นเคยคิดสั้น รับช้อปปิ้งหมดวันละล้าน วอนอย่าดราม่า
หากใครจำกันได้เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อยู่ๆ นักร้องลูกทุ่งสาว ใบเตย อาร์สยาม หรือ ใบเตย สุธีวัน ก็ลุกขึ้นมาโพสต์สเตตัวลงเฟซบุ๊กแบบรัวๆ ซึ่งข้อความที่เขียน ก็ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทั้ง “ท่องไว้ อดทนอดทน” และ “เสียใจแเค่ไหนถ้าอยากรู้ บอกเธอ ได้คำเดียว อยาก..ตาย” โดยหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ทิ้งความคาใจให้กับชาวเน็ตไม่น้อย
ล่าสุดได้เจอสาว ใบเตย อาร์สยาม มาจับไมค์ขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก หลังจากเจอพิษโควิดทำงานหายเกลี้ยง เธอก็เผยถึงเรื่องราวที่มีการโพสต์ข้อความดราม่าว่า คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมน อาการมาม่าบลูน่าจะยังไม่หมดไป เพราะบางทียังสับสนกับชีวิตที่เปลี่ยนไปมากๆของตัวเอง จากที่เคยทำงานหนักๆ ก็มารับบทเป็นคุณแม่เบาๆ
คอนเทนต์แนะนำ
โดยจังหวะที่ตนโพสต์จากที่เคยว่างๆ ก็มีงานเข้ามาเยอะมาก ทั้งละคร ซิงเกิ้ลใหม่ของตัวเอง แล้วก็คอนเสิร์ตนี้ ส่งผลให้ตนปรับไม่ค่อยไหว แล้วก็รู้สึกว่าเหนื่อยมาก ซึ่งรู้สึกตัวเลยว่ามีภาวะซึมเศร้ามากขึ้น
สำหรับข้อความที่โพสต์ไปแล้วหลายคนตกใจ ตนก็ยังตกใจตัวเอง เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ตนจึงคิดว่าคงเป็นเพราะโรคมาม่าบลูแน่นอน ซึ่งตนก็ได้ไปพบแพทย์มาแล้ว เขาก็วินิจฉัยว่าตนอาจจะมีภาวะโรคซึมเศร้าร่วมด้วย เนื่องจากตนเคยมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย โดยหมอก็บอกว่ามันมีหลายอย่างเข้ามากระตุ้น ทั้งมาม่าบลู และทำงานที่เข้ามาเยอะจนเหนื่อยมากๆ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนก็เริ่มรักษาด้วยการกินยาแล้ว เพื่อปรับสารเคมีในสมอง ซึ่งหลังจากกินแล้วก็รู้สึกว่าโอเคขึ้นมาก โดยหมอก็บอกว่าต้องกินไปตลอดชีวิต ทั้งนี้ตนก็ทำใจได้ที่จะต้องกินยาทุกวัน นอกจากนี้หมอยังแนะนำให้พักผ่อนมากๆ ไม่เครียด แต่ดราม่าที่เข้ามาก็ไม่ได้ส่งผลให้อาการหนักขึ้น หลักๆคือเรื่องของฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปมากกว่า
นอกจากนี้ยังได้ถามถึงทริปล่าสุดที่หลายคนเห็นภาพชุดว่ายน้ำแล้วก็ถึงกับตาค้าง เจ้าตัวก็บอกว่า มันคือเรื่องปกติของตนที่จะแต่งตัวประมาณนี้เวลาไปเที่ยว ยิ่งไปทะเลก็จัดเต็มที่เลย ซึ่งสามีก็ไม่ได้ต้องมาสแกนชุดก่อน แต่ยอมรับว่าบางทีเขาเห็นแล้วก็ตกใจว่าขนาดนี้เลยหรอ
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตนเคลียร์งานหมด ก็อาจจะมีลูกคนที่ 2 ต่อ โดยตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะธรรมชาติหรือวิทยาศาสตร์ เพราะสามีอยากได้ลูกชาย แล้วก็อยากให้คลอดในปีเสือ
สุดท้ายเรื่องที่สามีออกมาเปิดเผยว่าตนช้อปหนักมากวันละเป็นล้าน ตนก็ยอมรับว่า จริง เพราะตนชอบมากๆ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เวลาช้อปแล้วมีความสุขมาก ทุกวันนี้ช้อปเกินเดือนละล้านไปเยอะแล้ว แต่ตนก็สามารถเอาไปขายต่อได้ เพราะฉะนั้นอย่าดราม่ากันเลย
Advertisement
