กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พชร ช่วยสงค์” ได้โพสต์ประกาศตามหา น.ส.กรรณิกา ช่วยสงค์ ลูกสาว วัย 25 ปี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา บริเวณสถานีรถทัวร์สายใต้ไหม่ พบเบาะแสเพียงกระเป๋าเป้ และสิ่งของลอยน้ำมาที่สวนสามพราน ซึ่งมีพนักงานร้านอาหารเก็บได้ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง หมู่ 1 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพบกับนายพชร ช่วยสงค์ พ่อของนางสาวกรรณิกา เล่าว่า ตนและครอบครัวได้เดินทางมาอาศัยอยู่บ้านญาติที่จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน เพื่อไปทอดกฐินที่วัดไทรม้า จังหวัดนนทบุรี ซึ่งตนได้เดินทางกลับจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 11 พฤศจิกายน แต่ลูกสาวต้องการที่จะพักอยู่กับญาติต่ออีกสักพัก เพื่อเรียนทำเบเกอรี่ที่ย่านแคราย แล้วค่อยเดินทางกลับมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานีในวันที่ 18 พฤศจิกายน
โดยในวันที่ 17 พฤศจิกายน ลูกสาวได้โทรมาหาตน ถามตนว่าโกรธไหมที่ไม่ได้กลับมาพร้อมกัน ตนจึงตอบไปว่าไม่โกรธ ถ้าไม่อยากทำร้านกาแฟต่อ อยากเรียนทำขนม ก็ให้กลับมาปิดร้านให้เรียบร้อย ซึ่งตนไม่รู้สึกว่าเป็นลางบอกเหตุ ไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งวันที่ 19 พฤศจิการยน ลูกสาวตนก็ไม่ได้กลับมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้านกาแฟ ตนจึงรู้สึกเป็นห่วง และให้ครอบครัวเข้าแจ้งความที่สภ.รัตนาธิเบศร์
เมื่อร้านอาหารจังหวัดนครปฐมเจอกระเป๋าของลูกสาวตน ตนก็รู้สึกว่าลูกของตนอาจจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง เนื่องจากภายในกระเป๋ามีของใช้ และมีรูปครอบครัวที่ลูกสาวของตนพกในกระเป๋าสตางค์ แต่ไม่พบกระเป๋าสตางค์ ตนคิดว่าลูกสาวของตนอาจขอความช่วยเหลือหรือไม่ แต่ไม่ได้มองว่าเป็นการชิงทรัพย์ แม้ว่าลูกสาวจะห้อยสร้อยทองหนัก 2 สลึง และมีเงินสดพกติดตัว 4,000 บาท มีเงินในบัญชี 20,000 บาท
โดยตนได้ไล่สอบถามเพื่อนสนิทของลูกสาวของตนแล้ว รวมถึงสาวห้าวคนเคยสนิทที่อาศัยและทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ไม่พบอะไรผิดปกติ ไม่มีใครได้พบเจอลูกสาวของตน และทุกคนมีพยานที่อยู่ ทั้งนี้ ตนมีความข้องใจเล็กน้อย เนื่องจากในวันที่ 8 พฤศจิกายน ตนได้พาลูกสาวไปส่งที่ร้านทำขนม ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งจังหวัดนนทบุรี ลูกสาวเรียนทำขนมออนไลน์กับร้านดังกล่าว ลูกสาวได้ค้างคืนที่ร้านดังกล่าวด้วย แต่ขณะนี้ตนติดต่อร้านดังกล่าวไม่ได้ อีกทั้งตนยังได้ให้คนไปวนดูร้านขนม แต่ก็ไม่พบใคร ตนไม่ได้ปักปรำ แต่ตนเพียงอยากสอบถามข้อมูล เผื่อลูกสาวจะบอกอะไรกับทางร้านบ้าง หลังจากมีคนเห็นว่าก่อนหายไปลูกสาวอยู่สาวห้าวรายหนึ่ง
ด้าน นางเข็มเปย มาโต อายุ 54 ปี พนักงานร้านอาหารที่พบกระเป๋า เผยว่า วานนี้ 21 พ.ย. เวลาประมาณ 08.00 น. ตนทำความสะอาดและตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณรอบๆร้านอาหารเหมือนตามปกติ แต่พบกระเป๋าสะพายสีดำของผู้สูญหายลอยมาติดที่ท่าน้ำบริเวณร้าน จึงแจ้งให้ผู้จัดการทราบและนำกระเป๋าเป้ขึ้นมาตรวจสอบดู ปรากฏว่าพบยา และชื่อของ น.ส.กรรณิกา ช่วยสงค์ และเครื่องสำอาง แต่ไม่พบบัตรประชาชนหรือของมีค่าอื่น ๆ นอกจากนี้ยังพบถุงใส่รองเท้าผ้าใบ และถุงอาหารที่กินเหลือ ผู้จัดการจึงให้ทำการเก็บกระเป๋าดังกล่าวไว้
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดว่าผู้สูญหายเจ้าของกระเป๋ารายดังกล่าวจะเคยเข้ามาใช้บริการในร้านก่อนหน้านี้จริงหรือไม่ ส่วนกระเป๋าที่ลอยมาติดบริเวณข้างร้าน เจ้าตัวจะตั้งใจนำมาโยนทิ้ง หรือลอยมาจากที่อื่น ในส่วนนี้ตนก็ไม่ทราบ จึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการติดตามคดีต่อไป เนื่องจากตนเป็นเพียงพนักงานที่พบกระเป๋าของผู้สูญหายเท่านั้น