พิตบูลขย้ำสาวหวิดตาบอด โวยค่าหมอเฉียดแสนไร้ช่วย เจ้าของหมาฉะอย่าโยนผิดขอหลักฐาน (คลิป)

จากกรณีมีผู้ร้องเรียนมาทางเพจเฟซบุ๊ก ทุบโต๊ะข่าว ระบุว่าพี่สาวถูกสุนัขสายพันธ์ุบูลด็อกกัด จนอาการสาหัส เจ้าของสุนัขไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ จึงอยากให้เรื่องคดีเป็นอุทาหรณ์บทเรียนสำหรับคนเลี้ยงสุนัข

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ญาญ่า อุรัสยา" หลุดปากพูดฤกษ์แต่งงาน แง้มชื่อชุดไทยสะใภ้ขอนแก่น

นายกฯอิ๊งค์ สวมชุดผ้าไหมไทย นั่งข้าง โจ ไบเดน งานเลี้ยงผู้นำเอเปค

วันที่ 10 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านหมู่ 9 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา น.ส.ธนกาญจน์ แสนแสนยา อายุ49 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 07.30 น. ตนได้ขี่จักรยานยนต์ ไปซื้อกับข้าวบนถนนหมู่บ้านตามปกติ ซึ่งจะต้องผ่านหมู่ที่ 8 เป็นหน้าบ้านของ น.ส.นก เพื่อจะไปตลาด ห่างจากบ้านของตนประมาณ 1 กิโลเมตร

โดยตนขี่รถมาด้วยความเร็ว 30-40 กม./ชม. สุนัขทั้ง 2 ตัวจะชอบมาอยู่ที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุทุกเช้า ตัวหนึ่งอยู่ในบ้านของน.ส.นก ส่วนอีกตัวอยู่ตรงข้ามบ้านของ น.ส.นก ซึ่งบ้านอยู่ทางซ้าย สุขนัขอทำท่าเหมือนจ้องจะกระโจน แต่ตนไม่ได้คิดอะไร เพราะขี่ผ่านทุกเช้า หลังจากนั้นตนได้ถูกสุนัขกระโดดพุ่งจากข้างถนน กระโจนใส่ทางด้านขวา จักรยานยนต์และตนล้มคว่ำ จากนั้นตนยังพอมีสติอยู่ จึงพยายามจะลุกขึ้นเพื่อที่จะตั้งหลัก แต่ลุกไม่ขึ้น ตอนนั้นตนเจ็บบริเวณหน้าฝั่งซ้ายและข้อศอกซ้ายถลอกจากที่รถล้ม อยู่ในอาการสะลึมสะลือ ต่อมาสุนัขได้กระโจนเข้ามากัดที่ใบหน้า ตาข้างขวา จนเลือดทะลักนองเต็มถนน แล้วตนก็สลบไป มีอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ออกมาดู และโทรติดต่อรถกู้ภัยมาช่วยเหลือ

เบื้องต้น แพทย์เย็บแผลตามจุดที่ฉีกเพิ่ม 13 เข็ม รวมแผลเย็บจากทั้ง 2 โรงพยาบาลแล้ว 20 เข็ม จากนั้นในส่วนของเนื้อที่แตกไม่สามารถเย็บได้ บริเวณใต้ดวงตาแพทย์ จึงใส่ท่อซิลิโคลน ยาวประมาณ 8 นิ้ว พับ 2 ทบ ร้อยเชื่อมกับท่อน้ำตาเทียมเพื่อให้ประสานต่อกับท่อน้ำตาเดิมที่ขาดไป

ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 3 เดือนแล้ว ตนหมดค่าใช่จ่ายในการรักษา 90,755 บาท ไม่รวมค่าใช่จ่ายยิบย่อย ค่าเดินทางในแต่ละครั้ง ที่หมดไปแสนกว่าบาท ตนมีประกันสังคมและประกัน พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ ช่วยในค่ารักษา

ส่วนทางคู่กรณีได้ขอเจรจาคุยชดใช้ค่าเสียหายโดยขอไกล่เกลี่ย 2 ครั้ง ซึ่งได้เรียกค่าทำขวัญค่ารักษาแผลไว้ที่ 300,000 บาท แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทางเจ้าของสุนัขขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถามตนว่า "พี่จะเรียกค่าเสียหายผมเท่าไหร่" ตนก็บอกไปว่า 300,000 บาท ฝ่ายเจ้าของหมาตอบมาว่าไม่สามารถจ่ายได้ ขอจ่ายในขั้นศาล หากศาลพิพากษาให้ชดเชยค่าเสียหาย โดยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา คู่กรณีไม่เคยมารับผิดชอบ ไม่ถามไถ่อาการหรือเยี่ยมเลยสักครั้ง ตนจึงได้ตั้งทนายความดำเนินคดีเอาผิดทางเจ้าสุนัขและผู้เกี่ยวข้องร่วมกระทำผิดทุกคน ขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ต่อมาทีมข่าวได้ไปที่บ้านของเจ้าของสุนัข มีเพียงสุนัขทั้ง 2 ตัวที่ถูกขังและล่ามโซ่อยู่ในกรง ส่งเสียงเห่า และทำท่าพยายามจะออกจากกรง

บนางสาวเยาวลักษณ์ เปลื้องนาผล อายุ 35 ปี แฟนสาวของเจ้าของสุนัข เล่าว่า ตนกับแฟนเลี้ยงสุนัขด้วยกัน 2 ตัว เพศผู้และเมีย
พันธุ์พิตบูลผสมบูลลี่ อายุ 11 เดือน ไม่ใช่พันธุ์บูลด็อก สุนัขอายุน้อย ไม่มีพฤติกรรมดุร้าย และตนเลี้ยงสุนัขอยู่ภายในบ้าน อาจมีบ้างที่สุนัขของตนหลุดออกจากบ้านแล้วไปอยู่ตามบ้านของชาวบ้าน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้เจรจากับฝั่งผู้เสียหาย เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดมาไกล่เกลี่ยกัน 3 รอบ รอบแรกผู้เสียหายเรียกค่าชดเชย 400,000 บาท ทางแฟนของตนไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายได้ ทำงานหาเช้ากินค่ำ รอบที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดมาไกล่เกลี่ย ผู้เสียหายเรียกค่าชดเชยลดลงเหลือ 300,000 บาท จนรอบที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดมาไกล่เกลี่ย ผู้เสียหายเรียกค่าชดเชยลดลง เหลือ 200,000 บาท ซึ่งหากเป็นสุนัขของตนจริง ก็ยินดีจะรับผิดชอบ แต่ทางผู้เสียหายยังไม่รู้เลยว่าสุนัขที่กัดใช่สุนัขของตนหรือไม่ เพราะจากที่ตนสอบถามชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าผู้เสียหายขี่รถชนสุนัข ตนจึงได้กลับไปดูที่ร่างกายของสุนัข ไม่พบบาดแผลหรือรอยถูกชน

ก่อนหน้าที่จะมากล่าวอ้างสุนัขของตน ผู้เสียหายได้โยนความผิดไปให้สุนัขข้างบ้านอีกหลังที่ไม่ใช่หลังของตน แต่เจ้าของบ้านหลังนั้นได้บอกกับผู้เสียหายว่าสุนัขตัวนั้นไม่มีเจ้าของ ผู้เสียหายจึงโยนความผิดให้ตนหรือไม่ เพื่อให้ตนและแฟนรับผิดชอบ ถ้าเกิดมาของตนทำร้ายผู้เสียหายให้ไปหาหลักฐานมายืนยัน ไม่ใช่แอบมาถ่ายรูปที่บ้านของตน ที่ผ่านมาตนไม่เคยติดต่อไปยังผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายเคยส่งญาติมาเจรจา หากสุนัขของตนทำผิดจริงตนยินดีจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหาย ไม่เคยคิดหนี

นางรวงทอง กองแก้ว อายุ 47 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า ตนเคยเห็นสุนัขทั้ง 2 ตัวตั้งแต่ที่อายุอายุประมาณ 11 เดือนได้ เจ้าของสุนัขนำสุนัขมาอยู่ด้วยตอนนั้นยังเล็ก จนกระทั่งสุนัขเริ่มโตขึ้น มีการกวดไล่คนที่ผ่านไปมา ตนก็ใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางไปที่ตลาดเหมือนกัน โดยตนโดนสุนัขของบ้านนี้ไล่กวดประมาณ 3 ครั้ง นอกจากนี้ลูกสาวของตนโดนสุนัขไล่ 2 ครั้ง แต่ไม่เคยโดนกัด ตนแค่ไล่สุนัข และขี่รถจักรยานยนต์หนี หลังจากนั้น ตนและลูกสาวไม่เคยไปผ่านถนนเส้นนั้นอีกเลย เวลาเดินทางไปตลาดจะอ้อมไปอีกเส้นทางหนึ่ง