พี่คนโตคดียาออกคุกแต่ไม่สำนึก ชวนเมีย-ญาติพี่น้อง ค้ายาบ้า ตำรวจบุกรวบ ของกลางกว่า 2 หมื่นเม็ด

13 ม.ค. 65

หนองบัวลำภู ตำรวจรวบครอบครัวพี่น้องร่วมกันค้ายาเสพติดทั้งบ้านได้ 4 คน โดย พี่ใหญ่ เคยมีประวัติถูกจำคุกคดียาเสพติดมาแล้วแต่ไม่เข็ดหลาบ มาร่วมกับภรรยาและญาติพี่น้องขายยาบ้าให้วัยรุ่นและแรงงานในพื้นที่

วันที่ 13 ม.ค. 65 พล.ต.ต.กิตติศักดิ์จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สืบสวนภ.จว.หนองบัวลำภู พร้อมชุดสืบสวนได้นำหมายค้นศาลจังหวัดหนองบัวลำภูที่ ค.4/2565 ลงวันที่11ม.ค. 65 เพื่อทำการค้นบ้านเลขที่ 105 ม.11 ต.ป่าไม้งาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู โดยมี นายฉกรรณ์ สูนทอง เป็นผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว ซึ่งนายฉกรรณ์สูนทองเคยมีประวัติถูกจำคุกคดียาเสพติดและปัจจุบันมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นผู้ใช้แรงงานในเขต ต.ป่าไม้งาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู และพื้นที่ใกล้เคียงจึงได้วางแผนประชุมวางแผนเพื่อออกออกตรวจสอบ

หลังจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงไปตรวจสอบบ้านพักของ นายฉกรรณ์ สูนทอง เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจไปถึงจึงได้เรียกนายฉกรรณ์ สูนทอง ให้ออกมาพบ แต่พบเพียง น.ส.ดวงสมร นมภูเขียว และน.ส.เรวดี หรือ ดี สูนทองอยู่ ภายในบ้านจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและได้ทำการแสดงหมายค้นให้ น.ส.เรวดี หรือดีฯ พบยาบ้าจำนวน 6 ถุง รวม 65 ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนด้านหน้าภายในบริเวณบ้านใกล้กับที่นอนของ น.ส.เรวดี หรือ ดีฯ พบยาบ้าจำนวน 1 ถุงรวม 7 เม็ดซ่อนอยู่ในกล่องข้าวเหนียวใต้โต๊ะในห้องครัวในบ้านของ น.ส.เรวดี หรือ ดีฯ

และพบยาบ้าอีก 11 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ข้างบ้านพักในชายคาบ้านของ น.ส.เรวดี หรือดีฯ รวมยาบ้าทั้งหมด 83 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพและสมุดฝากบัญชีธนาคารกสิกรไทยชื่อบัญชี น.ส.เรวดี สูนทอง จำนวน 1 เล่มโดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย,เสพยายาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามหาสามีของนางเรวดีให้การว่า นายฉกรรณ์ สูนทอง สามีไปนอนอยู่ที่คอกเลี้ยงแพะ ท้ายหมู่บ้านจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ทำการไปตรวจสอบกระท่อมนาข้างคอกเลี้ยงแพะทางด้านทิศใต้ของบ้านโคกศรีเจริญ หมู่ 11 ต.ป่าไม้งาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู

เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจไปถึงกระท่อมนาดังกล่าวพบ นายนิธิกร หรือบาส สูนทอง และนายฉกรรณ์ หรือ โซ่ สูนทอง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 105 ม.11 ต.ป่าไม้งาม อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู นอนอยู่บนเปลในกระท่อมที่เกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ทำการแสดงตัวและทำการขอตรวจค้นตัวนายฉกรรจน์หรือโซ่ พบของกลางยาบ้าซ่อนในกระเป๋าสะพายผ้าลายช้างคาดอยู่บนตัวของนายฉกรรณ์ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายสีดำวางอยู่ข้างตัวนายฉกรรณ์ รวมยาบ้าทั้งสิ้น 21,448 เม็ด และยาไอซ์ 6.04 กรัม ซุกซ่อนอยู่รวมกับยาบ้า

1642070310619

นอกจากนั้นยังพบ.อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม.พร้อมแม็กกาซีนจำนวน 1 กระบอกซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายผ้าลายช้างคาดอยู่บนตัวของนายฉกรรณ์หรือโซ่ฯ กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 8 นัดบรรจุในแม็กกาซีนอาวุธปืนแก็ปยาวไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก.เงินสดจำนวน 4,500 บาท ซุกซ่อนในกระเป๋าสะพายผ้าลายช้างซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การว่าของทั้งหมดเป็นของตนเอง
หลังจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจได้แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนานทะเบียน”

เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ควบคุมตัวมาที่ กก.สืบสวนภ.จว.หนองบัวลำภู เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเมทแอมเฟตามีนมีผลเป็นบวก
และได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด นายนิธิกร หรือบาส สูนทอง อายุ 24 ปี และ น.ส.ดวงสมร หรือ ดวง นมภูเขียว อายุ 42 ปีพบว่ามีสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายเจ้าพนักงานตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คนพร้อมของกลางและผลตรวจปัสสาวะนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองบัวลำภูเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส