กรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก อายุ 21 ปี ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) ขี่รถบิ๊กไบก์ยี่ห้อ ดูคาติ พุ่งชนพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จักษุแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้า รพ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท กรุงเทพฯ ที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร หนึ่งในผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ดูทางม้าลายจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเดินมาจาก BTS พญาไท พบกับนักศึกษาคนหนึ่งพูดว่า "ต้องระวังตัวเอง" ทำให้ตนรู้ทันทีว่า "เป็นความเสี่ยงจนเคยชิน" สุดท้ายรถชนคนก็จะบอกว่า "คุณไม่ระวังตัวเอง" สรุปแล้วปัญหานี้กลับถูกผลักมาที่ประชาชน แต่คนดูแลเมือง คนที่ดูแลประชาชน ทำให้ดีมากกว่านี้ไม่ได้ใช่หรือไม่
สำหรับตนมองเรื่องนี้ 2 ทางคือ 1.ต้องเห็นใจคนข้ามทางและคนขับขี่ เพราะจากความเห็นในโซเชียลฯ มีคนเห็นด้วยว่า "ติดสัญญาณไฟ" แต่คอมเมนต์กลับขัดแย้งว่า "ถ้าติดอย่างนี้ คนขับก็เสียเวลา" แต่ตนมองว่าจะติดหรือไม่ติดก็ไม่เสียเวลา ถ้าต่างคนก็ต่างรอ ขอให้ปลูกจิตสำนึก “เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน” ดังนั้น ตนมองว่าตามหลักวิศวกรการติดสัญญาณไฟคนข้ามจะทำให้สังคมน่าอยู่
“ส่วนการสร้างสะพายลอย ผมมองว่าเหมือนเป็นการยอมแพ้ อยากให้นึกถึงทุกคนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ว่าเขาต้องข้ามได้ด้วย หากออกแบบให้มีลิฟต์ขึ้นลง ก็เปลืองงบประมาณ และต้นทุนสูง ดังนั้น ต้องเกิดความปลอดภัยก่อน อย่าบีบให้คนหลบรถ ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นไฟล์สุดท้าย ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด ให้ทุกคนใช้ ใช้หัวใจในการคิด แล้วจะเกิดค่านิยมใหม่” นายวิโรจน์ กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อนหมอกระต่ายวางดอกไม้อาลัยจุดมรณะ สื่อบุกทางข้ามเจอจัง ๆ รถจอดทับเส้น (คลิป)
- เปิดใจเจ้าของบิ๊กไบก์ ตร.ซิ่งชน "หมอกระต่าย" ขาย 4 ปีก่อน ยันไม่เกี่ยวคดี (คลิป)
- นรวิชญ์ ตร.ซิ่งชน หมอกระต่าย อ้างขับมา 80 แต่รถตู้บังมองไม่เห็น
Advertisement