เมื่อเวลา 13.00 น. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านยาเสพติด ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดประเภทโคเคนจำนวน 15.5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 46.5 ล้านบาท ณ ที่ทำการศุลกากรหน่วยปราบปรามยาเสพติดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีภารกิจในการปกป้องสังคมให้ปราศจากการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติดจึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกันสกัดกั้นยาเสพติดให้โทษ และมีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ป.ป.ส. บช.ปส.ศรภ. หน่วยงานศุลกากรของไทยในต่างประเทศ ศุลกากรต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่างๆ องค์การตำรวจ สากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration :DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือและดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ กรมศุลกากรร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE) ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ทำการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบนำโคเคนเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 2 คดี จำนวน 15.5 กิโลกรัม (รวมสิ่งห่อหุ้ม) มูลค่าประมาณ 46.5 ล้านบาท รายละเอียดดังนี้
เวลาประมาณ 07.00 น.เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมผู้ต้องหาเพศชายอายุ 27 ปี และเพศหญิงอายุ 22 ปี สัญชาติบราซิลเดินทางมาจากกูรีตีบาบราซิลไปยังเซาเปาโลบราซิลเพื่อต่อเครื่องที่โดฮา กาตาร์ มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประเทศไทย (CWB–GRU–DOH–BKK) ด้วยสายการบินกาตาร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QR830 โดยได้ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางทรงอ่อนจำนวน 3 ใบ ในช่องลับบริเวณด้านล่างและด้านหลังของกระเป๋าพบยาเสพติดประเภทโคเคนห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ จำนวน 9 กิโลกรัม (รวมสิ่งห่อหุ้ม) มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท
จากนั้นเวลาประมาณ 12.40 น. เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 กองสืบสวนและปราบปรามได้จับกุมผู้ต้องหาเพศชายอายุ 24 ปี สัญชาติบราซิล พบยาเสพติดประเภทโคเคนห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำจำนวน 6.5 กิโลกรัม (รวมสิ่งห่อหุ้ม) มูลค่าประมาณ 19.5 ล้านบาท ซึ่งได้เดินทางจากบราซิลด้วยสายการบินกาตาร์แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ QR836 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกระเป๋าเดินทางทรงอ่อนจำนวน 2 ใบ ซึ่งได้ซุกซ่อนยาเสพติดในลักษณะเดียวกัน
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบกับมาตรา 166 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ทั้งนี้กรมศุลกากรจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผอ.สนามบินสุวรรณภูมิกล่าวว่า สำหรับมาตรการป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดทั้งขาเข้าและขาออกเรื่องนี้ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้ให้ความสำคัญและจัดเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการหาข่าวเชิงลึกของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจเฝ้าระวังและหาการข่าวอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
Advertisement