ช็อกวงการบันเทิง! "แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง พลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ระหว่างล่องเรือกับเพื่อน ๆ คืนวันที่ 24 ก.พ. 65 กระทั่งพบร่างของแตงโม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. 65 ล่าสุด 27 ก.พ. 65 ผู้จัดการของดาราสาว เปิดเผยถึงสาเหตุเพราะไปปัสสาวะท้ายเรือทำให้พลัดตกนั้น
อ่านข่าว
กระติก-แซน เปิดใจครั้งแรก โต้รับงานเอนฯ ยืนยัน แตงโม ปัสสาวะเป็นเหตุพลัดตกเรือ
ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 25 ก.พ. 65 เวลา 01.11 น. ตามเวลาในกล้อง หลังจากเกิดเหตุ กลุ่มเพื่อนของแตงโมกลับมาที่อู่เรือ โดยมีโฮโซปอกำลังโทรศัพท์หาใครบางคนอยู่ ซึ่งบุคคลที่แตงโมเรียกว่าเพื่อนไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุรอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เลย
"ต่าย สายธาร" หนึ่งในจิตอาสาของมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหาแตงโม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Saitharn Niyomkarn โดยระบุว่า การสนทนาสรุปสั้นๆแบบได้ใจความมาให้นะคะ
เเซน: กู้ภัยมาช้า (เน้น)ว่ามาช้ามาก โทรหลายรอบ มีหลักฐานด้วย.. (ปล.กู้ภัยเวลาออกเหตุเค้ามีแจ้งเวลาเข็มไมล์กับทางศูนย์วิทยุพระนครนะคะ)
กู้ภัย : ผมไปถึงก็สอบถามข้อมูล ตามขั้นตอน แต่เค้าก็ไม่บอกรายละเอียดอะไร แถมยังถามผมด้วยคำ(สุภาพ) ว่า มาทำเฮียอะไร??!!
อืมม...พี่ขอพูดได้ไม๊???!!!"
พร้อมระบุคอมเมนต์ใต้โพสต์ว่า "เเซนลองป่วยดู หรือลองวิ่งชนสิบล้อเล่นๆ แล้วให้ใครโทรเเจ้งกู้ภัยดูซิว่าจะช้าอย่างที่เราสัมภาษณ์ไหม"
สำหรับไทม์ไลน์ที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 22.39 น. หลังจากเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามคำกล่าวอ้างที่มีเพียงคนบนเรือเท่านั้นที่รู้เวลาจริง เจ้าหน้าที่ชุดแรกไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเรือของกลุ่มเพื่อนแตงโมขับวนหา โดยไม่มีใครมาให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ ก่อนกลุ่มเพื่อนจะหายไปจากที่เกิดเหตุ
ข้อมูลจากหนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่เดินทางเข้าไปช่วยเหลือในช่วงที่เกิดเหตุ กลุ่มไลน์ของอาสาด้วยกัน แจ้งมาจากทางหน่วยแพทย์กู้ชีพวชิระ ว่ามีเหตุพบคนตกน้ำในช่วงเวลาที่แจ้งจากไลน์ โดยบันทึกได้ช่วงเวลา 22.39 น. หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดแรกได้ลงพื้นที่ถึงจุดเกิดเหตุ แต่ตอนนั้นกลับพบว่าเพื่อนของแตงโมยังขับเรือวนหาอยู่ ตามคลิปที่ถ่ายไว้ได้สอดคล้องกับเวลา 23.37 น.
กระทั่งต่อมาเวลา 23.50 น. ทางเรือลำดังกล่าวได้ขับมาเทียบฝั่ง แต่ไม่มีใครให้ข้อมูล นอกเหนือจากชายชุดดำ ตามภาพคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังสุด พอจะพูดรู้เรื่อง ได้เดินมาคุย ก่อนที่เวลา 24.09 น. ทางชายคนดังกล่าวได้ขึ้นเจ็ตสกีของเจ้าหน้าที่เพื่อพาไปชี้จุดที่บริเวณสูญหาย หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำชุดแรกได้เดินทางพร้อมเครื่องมือลงพื้นที่ปฏิบัติการค้นหา ในช่วงเวลา 24.41 น. ก่อนที่เรือของกลุ่มเพื่อนเเตงโมได้ขับหายไป ทิ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฎิบัติการค้นหาด้วยตัวเอง
"ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์" ดารานักแสดง ในฐานะอาสามัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าไปค้นหาทางนักแสดงสาวจนเจอร่าง เปิดใจเล่าว่า ช่วงที่เจอศพของแตงโมยืนยันว่าแตงโมใส่ชุดลักษณะคล้ายบอดี้สูท สีคล้ายเนื้อชมพู ลักษณะบอดีสูทยังคงอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีร่องรอยขาด ตลอดจนบริเวณด้านล่างก็ไม่พบว่ามีร่องรอยการถอดออก จะมีแค่สภาพร่างของน้องเองอาจจะบวมน้ำ ทำให้บอดี้สูทที่สวมใส่เกิดการรัดตัว บริเวณร่างของเจ้าตัวได้
ส่วนลักษณะเสื้อคลุมตามภาพที่เห็นตอนที่เจ้าตัวถ่ายที่ร้านอาหาร เสื้อคลุมตัวดังกล่าวยังคงอยู่ผูกมัดที่เอวของแตงโม ส่วนผ้าริ้วสีขาวที่คล้ายผ้าลายลูกไม้ กลับไม่พบเจอ คาดว่าคงตกหล่นลงไปในน้ำขณะที่ร่างจมลงไป
เมื่อถามถึงร่องรอยบาดแผลลึกที่ต้นขา ตามที่หลายคนสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากใบพัดเรือช่วงที่แตงโมพลัดตกนั้น ส่วนนี้มองว่าในใจตอนแรกที่พบศพก็คิดว่าร่องรอยดังกล่าวอาจจะมาจากใบพัดเรือช่วงที่น้องตกน้ำ แต่คิดไปคิดมา จากสภาพที่ตนเห็นพบว่ารอยบาดแผลค่อนข้างใหญ่และลึก เทียบง่าย ๆ สามารถเอาฝ่ามือยัดเข้าไปในร่องแผลได้ รวมไปถึงเป็นรอยแผลที่ไม่น่าจะใช่ลักษณะของใบเรือฟัน เพราะเป็นรอยเดียวเฉียง หากเป็นใบพัดเรือจริงเนื้อจะต้องกระจายหรือกระจุย ไม่ได้เป็นรอยบาดตามที่ตนเห็น ในส่วนนี้ตนเองเลยสงสัยเหมือนทุกคนว่าคือร่องรอยอะไร สุดท้ายคนที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คงเป็นสถาบันนิติเวช
ส่วนปมดราม่าภายหลังที่ผู้จัดการแตงโมและเพื่อนที่อยู่ในเรือให้สัมภาษณ์ โดยมีประเด็นที่ทางทั้งคู่อ้างว่าติดต่อกู้ภัยค่อนข้างยาก กว่าจะประสานมาค่อนข้างช้า ตลอดจนเครื่องมือไม่พร้อม ตามหลักความเป็นจริงแล้วกู้ชีพหรือกู้ภัยไม่ว่าจะเป็นของมูลนิธิร่วมกตัญญู หรือของหน่วยงานอื่น ๆ ล้วนมีทีมงานสแตนบายตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับแจ้งจะมีการประสานทางเครือข่ายเพื่อแจ้งไปยังทีมงานที่แสตนบายในจุดที่ใกล้ที่สุดทันที ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ก็พร้อมเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าที่ล่าช้าใช่เป็นเพราะการให้ข้อมูล หรือการให้รายละเอียดไม่ชัดเจนหรือเปล่า เพราะปกติทีมกู้ชีพที่เข้าไปก่อนการช่วยเหลือจะต้องมีการสอบถามข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อความรวดเร็วในการช่วยเหลือ หากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่แม่นยำได้ ทีมงานเองก็ไม่สามารถลงพื้นที่ตามจุดที่มีการสูญหายได้ ยืนยันว่าที่ช้าคงไม่ใช่ทีมกู้ชีพแน่นอน
ด้านนายสุพจน์ สวดมาลัย ชุดกู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เข้าในพื้นที่เกิดเหตุเป็นชุดแรก เล่าว่า ตอนนั้นตนเองไปถึงเกือบจะ 22.00 น. หลังได้รับแจ้งว่ามีคนตกน้ำ ไปถึงตนเองได้ประสานติดต่อกับทางกลุ่มเพื่อนของผู้สูญหาย โดยที่ถามข้อมูลเบื้องต้น แต่อีกฝ่ายกลับไม่ให้ข้อมูล ตอนนั้นทุกคนขับเรือวนอยู่กลางน้ำโดยที่ไม่ยอมเข้ามาเทียบท่า ทีมกู้ภัยพยายามเรียกอีกฝ่ายก็กลับไม่สนใจ
ผ่านไปประมาณ 15-20 นาที ทางกลุ่มเพื่อนก็ได้ขับเรือเข้ามาเทียบท่าด้วยอาการไม่พอใจ ก่อนที่ตนพยายามจะสอบถามข้อมูลเพื่อวางแผนในการค้นหา แต่กลับมีทางด้านผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในเรือ เดินออกมาพร้อมอาการคล้ายคนเมา ก่อนจะพูดว่า "พวกมึงจะมาถามอะไรหนักหนา จะช่วยหรือไม่ช่วย จะเอาแต่ข่าวเหรอ ไม่ช่วยชีวิตคนเหรอ" ก่อนที่จะเดินลงเรือไป ทางผู้ชายในเรือยังมีการตะโกนโวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ถึงขั้นจะเกือบขึ้นมาต่อย แต่ทีมงานกลับหลบก่อน
ทั้งนี้ จริง ๆ แล้วตามหลักแล้วการที่ทางกู้ภัยจะเข้าไปช่วยเหลือได้นั้น ทางกู้ภัยเองต้องได้ข้อมูลประสานกับทางร้อยเวรเข้าตรวจสอบ เพราะบางเคสอาจจะเป็นเคสฆาตกรรม จึงต้องแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบด้วย ยอมรับว่าส่วนตัวพอทราบข่าวค่อนข้างเสียใจ แต่ไม่ท้อเพราะการช่วยเหลือคนคือหน้าที่ แค่อยากจะบอกอีกฝ่ายว่าจริง ๆ แล้วควรจะมีสติ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อผลดีในการค้นหา ไม่ใช่มาโวยวายหาว่าหิวข่าว ทั้งที่ความจริงเราเองอยากจะช่วยเหลือ แต่เพื่อเซฟความปลอดภัยทางทีมงาน ขอให้คิดถึงใจกู้ชีพที่ยอมทำงานเพื่อผลดีต่อคนสูญหายด้วย