นายกฯ ชวนคนไทยประหยัดพลังงานเพื่อชาติ รัฐบาลเผยวิธีประหยัดน้ำมัน-ไฟฟ้า แนะเปิดแอร์ 27 องศา ควบคู่พัดลม
วันที่ 18 มี.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า จากผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลต่อวิกฤตราคาพลังงานโลกเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ รวมถึงยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตราคาพลังงาน ดังกล่าว จึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนให้มากที่สุด โดยในเบื้องต้น กระทรวงพลังงานได้แนะนำวิธีประหยัดพลังงานน้ำมันและไฟฟ้า ให้ประชาชนสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ตัวเองและครอบครัว
นายธนกร กล่าวอีกว่า ข้อแนะนำของกระทรวงพลังงานในการประหยัดน้ำมันจากการเดินทางด้วยรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ขอให้มีการเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง วางแผนการเดินทาง ตรวจสอบสภาพรถ ตรวจสอบเครื่องยนต์ให้ปลอดภัย เช็คน้ำมันเครื่องก่อนการเดินทาง อุปกรณ์ประจำรถต้องพร้อมใช้งาน ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด พักเครื่องยนต์ระหว่างเดินทาง รวมทั้งควรเช็กให้ชัวร์อย่างมั่นใจก่อนออกเดินทาง ด้วย 6 เช็คลิสต์ ได้แก่
1.แบตเตอรี่และสายไฟ ตรวจระดับน้ำกลั่น ขั้วต่อและสายไฟให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2.ตรวจสภาพยางล้อรถยนต์ ลมยางต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ดอกยางต้องไม่มีรอยฉีดขาด เนื้อยางไม่แข็งกระด้าง หรือบวม และยางอะไหล่ต้องพร้อมใช้งาน
3.ระบบเบรก ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกและผ้าเบรกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
4.ระบบไฟส่องสว่างทั้งคันรถต้องพร้อมใช้งาน
5.ไม่บรรทุกน้ำหนักเกินจำเป็น เพราะจะทำให้รถใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น
6.วางแผนก่อนออกเดินทางเพื่อช่วยประหยัดน้ำมันและย่นระยะเวลาถึงที่หมาย
นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานยังมีข้อแนะนำการประหยัดพลังงานในส่วนของ Work From Home ให้ประหยัดพลังงาน โดยให้ปิดสวิทช์หรือถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ ตั้งค่าคอมพิวเตอร์ในโหมด Sleep ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่มีการใช้งานนานกว่า 15 นาที ไม่เปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ เปิดใช้ตู้เย็นเท่าที่จำเป็น ปิดตู้เย็นให้สนิททุกครั้ง ละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่การใช้เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศา พร้อมกับเปิดพัดลมตั้งพื้นควบคู่กัน ช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศในห้อง และช่วยลดอุณหภูมิลงได้ประมาณ 2 องศา โดยจะช่วยให้ประหยัดไฟมากกว่าการเปิดแอร์ที่ 23-24 องศาอย่างเดียว รวมทั้งควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุกเดือนและล้างแอร์ทุก 6 เดือน จะช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์และประหยัดไฟ ซึ่งวิธีใช้แอร์ดังกล่าวจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้ 10-30% ทั้งนี้ ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตารีด ภายในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศด้วย
“ท่านนายกฯ กำชับให้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบประชาชนให้มากที่สุด พร้อมกับขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันประหยัดการใช้พลังงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำมันและไฟฟ้าในทุกรูปแบบ ซึ่งจะเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้ตัวเองและครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการร่วมแรงร่วมใจกันลดภาระโดยรวมให้กับประเทศชาติ เพื่อให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตการณ์พลังงานไปได้ด้วยกัน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯ สั่งผู้ว่า กทม. เร่งแก้การเปิดระบบรับผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ
-นายกฯ ห่วงราคาปุ๋ย-อาหารสัตว์ พุ่ง! รัสเซียงดส่งออกตอบโต้คว่ำบาตร สั่งหาแหล่งนำเข้าอื่นเพิ่ม
-นายกฯ เคาะมาตรการเยียวยาน้ำมันแพง 9 มี.ค. นี้