ภายหลังนำเสนอเกี่ยวกับประเด็นเจ้าของอู่เรือ NBC ซึ่งเป็นที่จอดเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุ ในคดีแตงโม เกี่ยวกับการออกมาชี้แจง ที่โซเชียลตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพิรุธ จนทำให้ล่าสุดยังคงมีทวิตเตอร์ทยอยออกมาจับผิดเจ้าของอู่เรือ ทำนองว่าเคยให้สัมภาษณ์กับรายการโหนกระแสว่า กลุ่มเรือสปีดโบ๊ตนำมาจอดที่อู่ช่วงเวลาตี 3 ตั้งข้อสังเกตว่าเรือหยุดการค้นหาหลังเวลา 01.30 น. ทำไมถึงนำเรือไปจอดช่วงเวลาตี 3 เรือมีการถูกนำไปใช้งานหรือนำไปทำลายหลักฐานหรือไม่นั้น
วันที่ 31 มี.ค. 65 นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ เจ้าของอู่เรือ NBC ชี้แจงว่าจากกรณีคลิปดังกล่าวที่ตนเองไปร่วมรายการโหนกระแส คลิปดังกล่าวได้มีการพูดถึงรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่ตนเองไปดูบางช่วงบางตอนที่ถูกนำไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ปรากฏว่ามีการตัดต่อ ซึ่งประโยคเต็มตนเองอยากให้ไปดูในรายการเอาเองว่าพูดอะไรไปบ้าง
เพื่อให้สังคมคลายข้อสงสัย ส่วนตัวขออนุญาตย้อนให้ฟังว่า ในคืนวันเกิดเหตุ 24 ก.พ. 65 เวลา 22.39 น. ได้รับโทรศัพท์จากคนบนเรือคือปอ ซึ่งได้มีการโทรหาลูกชายคือ นายเบียร์ ต้องการให้นำเรือสปีดโบ๊ตไปช่วยค้นหาแตงโมหลังจากตกน้ำ จากนั้นตนเองและลูกชายก็ได้ขับเจ็ตสกีไปช่วยค้นหา เมื่อไปถึงเวลาประมาณ 22.57 น. หลังจากที่ทราบพิกัดและรายละเอียดแล้ว ก็ได้รีบช่วยกันค้นหา จนกระทั่งเรือของเจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองจึงตัดสินใจย้อนกลับมาที่อู่เรือเพื่อนำเรือไปเพิ่มในการค้นหา กลับมาที่อู่ 2 รอบ รอบแรกที่นำออกไปช่วยค้นหามีเจ็ตสกี 2 ลำ และรอบที่ย้อนกลับมาที่อู่เรือนำสปีดโบ๊ตไปช่วยอีก 1 ลำ รวม 3 ลำ
หลังจากนั้นตนเองก็มัวแต่ช่วยค้นหาและอ่อนเพลียจากการขับเรือวน ก็ได้เดินทางกลับบ้าน พร้อมทั้งได้รับโทรศัพท์หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณตี 3 จากพ่อบ้านคือ นายเต้ย โทรมาแจ้งว่า นายปอได้นำเรือไปจอดที่อู่แล้ว เป็นการได้รับโทรศัพท์หลังจากที่เรือนำไปจอด แต่ความจริงแล้วเรือสปีดโบ๊ตของนายปอนำไปจอดที่อู่เรือช่วงเวลาประมาณตี 1 เศษ ๆ โดยพ่อบ้านโทรมาแจ้งทีหลัง
สำหรับเหตุผลที่ทำให้ตนเองทราบช้าว่าเรือของนายปอนำไปจอดที่อู่เรือตั้งแต่ตี 1 เศษ แต่มาทราบตอนตี 3 เป็นเพราะว่าวันนั้นนายปอได้พยายามโทรหาที่เบอร์ของตนเองและลูกชาย แต่ปรากฏว่าตอนนั้นกำลังวุ่นกับการออกค้นหาจึงไม่ได้มีใครรับโทรศัพท์ จึงได้โทรไปหาพ่อบ้านคือนายเต้ย เพื่อบอกกับพ่อบ้านว่าเปิดประตูฝั่งริมน้ำเจ้าพระยาให้หน่อย เพราะนายปอจะนำเรือขึ้น แต่ด้วยตัวพ่อบ้านกำลังนอนอยู่ ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือมีคนตกน้ำตอนไหน ก็ไม่ได้สนใจ รับโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้รีบนำเรือขึ้นทันที พ่อบ้านเข้านอนตั้งแต่ 21.00 น. ตอนที่ตนเองนำเรือออกไปค้นหาและเกิดเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ พ่อบ้านไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเขานอนไปแล้ว จากนั้นพ่อบ้านก็ไปดูที่โป๊ะริมน้ำ จนกระทั่งรู้ว่ามีการนำเรือไปผูกเอาไว้จริง จึงได้โทรมาแจ้งตนเองตอนเวลาตี 3 หลังจากที่โทรมาตนเองก็กำชับว่าให้ดูเชือกที่ผูกเรือเอาไว้ให้ดี กลัวว่าเชือกจะหลุดและเรือจะลอยออกไปในน้ำ
ดังนั้น จากเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น คือเรื่องที่เล่าให้ฟัง ก็เกิดจากเรื่องที่พูดจริงในรายการที่ไปออกอากาศ แต่คลิปที่ถูกตัดบางช่วงบางตอน และเป็นการตัดต่อ ถูกนำไปลงในทวิตเตอร์ จนทำให้แชร์และถูกเข้าใจผิด ฉะนั้นจึงยืนยันว่าคำพูดในวันนั้น เป็นการพูดทำนองว่า เรือของนายปอนำไปผูกที่โป๊ะของอู่ตอนเวลาช่วงประมาณตี 1 รับแจ้งจากพ่อบ้านเวลาประมาณตี 3 ตนเองยุติการค้นหาช่วงเวลาประมาณตี 4-5 เมื่อไปถึงตนเองก็เป็นคนนำเรือขึ้นจากน้ำไปไว้บนอู่ด้วยตัวเอง เป็นคนขับเอง และมีลูกชายพร้อมทั้งพนักงานในอู่ช่วยกันนำขึ้นเช่นเดียวกัน