การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA จัดพิธีมอบตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ปีที่ 6 และสรุปผลการดำเนินโครงการ พร้อมมอบเงินลงทุนในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงให้กับอาคาร 50 แห่ง รวมมูลค่า 10.67 ล้านบาท เผยตลอดระยะเวลาโครงการปีที่ 6 ประสบความสำเร็จเกินคาด อาคารสมัครเข้าร่วม 145 แห่ง มีอาคารผ่านเกณฑ์มาตรฐานตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ประจำปี 2021 จำนวน 110 แห่ง ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลง 6.87 ล้านหน่วยต่อปี ลดค่าไฟฟ้ากว่า 26 ล้านบาท และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 2,954 ตันต่อปี
นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า MEA ได้เริ่มจัดทำโครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารนับตั้งแต่ พ.ศ. 2555 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นโครงการปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และได้พัฒนาต่อยอดก้าวสู่การเป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในปีที่ 6 นี้ ได้มีแนวคิดที่จะสะท้อนประโยชน์มายังผู้ใช้สอยอาคารให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของคุณภาพอากาศภายในอาคาร และปรับปรุงค่าเกณฑ์ด้านพลังงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ดังนั้น MEA จึงได้เปิดตัวตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS รูปแบบใหม่ มีเกณฑ์การประเมินที่เข้มข้นเพื่อจัดทำเป็นเกณฑ์มาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานของ MEA ให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งอาคารที่จะได้รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS จะต้องผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานทั้ง 2 เงื่อนไข คือ ต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า MEA Index (Management of Energy Achievement Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดระดับการใช้พลังงานที่ MEA พัฒนาขึ้นใหม่ และมาตรฐานด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ซึ่งจะตรวจวัดในพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น CO, CO2, PM2.5, PM10, TVOC, Formaldehyde ตามหลักมาตรฐานสากลซึ่งเป็นที่ยอมรับได้ในระดับประเทศ
สำหรับโครงการดังกล่าว MEA ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะที่ปรึกษาจัดทำเกณฑ์ประเมินมาตรฐาน MEA ENERGY AWARDS โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เจ้าของอาคารเกิดแรงจูงใจในการอนุรักษ์พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างเครือข่ายอาคารประหยัดพลังงานของ MEA ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือที่เรียกว่า Carbon Neutrality ให้เกิดขึ้นได้จริงภายในปี 2593 ตามกรอบนโยบายของประเทศอีกด้วย
ผู้ว่าการ MEA กล่าวต่อไปว่า จากการเปิดรับสมัครกลุ่มอาคารที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือน มกราคม 2564 ถึงปัจจุบัน มีอาคารสนใจเข้าร่วม 145 แห่ง มีอาคารผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MEA ENERGY AWARDS ประจำปี 2021 จำนวน 110 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียน 2 แห่ง โรงแรม 4 แห่ง โรงพยาบาล 11 แห่ง มหาวิทยาลัย 2 แห่ง ไฮเปอร์มาร์เก็ต 3 แห่ง ร้านสะดวกซื้อ 19 แห่ง ศูนย์การค้า 28 แห่ง และ สำนักงาน 41 แห่ง (ดูรายชื่อได้ที่
https://www.meaenergyawards.info/about/m-mea-energy-awards ) ในจำนวนนี้ MEA ได้สนับสนุนเงินลงทุนในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเป็นเงินทั้งสิ้น 10.67 ล้านบาท (10,673,104 บาท) โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุนในอัตราอาคารละไม่เกินร้อยละ 20 ของเงินลงทุน (สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่ออาคาร) และยังมีสิทธิพิเศษด้านการอบรม, การตรวจวัดพลังงาน, การติดตั้ง EV Charger, ส่วนลดการใช้บริการ MEA BETTER CARE, และการล้างแอร์เพิ่มเติมอีกด้วย โดยอาคารที่มีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนและสิทธิพิเศษ ต้องเป็นอาคารที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน MEA ENERGY AWARDS เท่านั้น
ผลสำเร็จที่ได้รับจากโครงการ MEA ENERGY AWARDS ปีที่ 6 มีอาคารดำเนินการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ 50 แห่ง คิดเป็นเงินลงทุนรวม 86.74 ล้านบาท (รวมเงินลงทุนของอาคาร) ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลง 6.87 ล้านหน่วยต่อปี (6,869,932kWh/ปี) คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 26.14 ล้านบาทต่อปี (26,140,916บาท/ปี) ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 2,954 ตันต่อปี โดยมีระยะเวลาคืนทุน 3.32 ปี
ผลจากความร่วมมือในการดำเนินโครงการ MEA ENERGY AWARDS ของทุกอาคารที่ประสบความสำเร็จ จะช่วยผลักดันเจ้าของอาคารให้เกิดแรงจูงใจและสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และนำนวัตกรรมด้านพลังงานใหม่ ๆ มาใช้พัฒนาอาคารตนเองต่อเนื่องไปในอนาคต เพื่อช่วยกันลดผลกระทบด้านพลังงานและช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่อาคารต้นแบบที่มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพอากาศได้มาตรฐานต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับ MEA ที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรม ขับเคลื่อนระบบพลังงานอัจฉริยะ เพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง