ผู้ใหญ่บ้านลุยเอง! เมื่อเกิดคดีสะเทือนขวัญขึ้นในชุมชน ผู้ใหญ่บ้านรีบรวมกำลังพล บุกจับคนร้ายพาขึ้นรถกระบะส่งตำรวจ พร้อมลั่นหากมีทำเกินกว่าเหตุไปบ้างยินดีรับผิดชอบคนเดียว ได้ใจชาวบ้านและชาวเน็ตไปเต็ม ๆ
วันที่ 27 ส.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นายธนพล ลิ้มประเสริฐ หรือ โต้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายปาดคออยู่ภายในชุมชน และได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่มาดูจุดเกิดเหตุ ตามลำดับขั้นตอน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจภูธรย่อย ต.ท่าฉลอม
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ญาติของผู้บาดเจ็บได้มาขอความช่วยเหลือ ให้เข้าตรวจสอบบริเวณหอพักข้างที่เกิดเหตุ ซึ่งต้องสงสัยว่าผู้ที่ก่อเหตุน่าจะยังอยู่ภายในหอพักดังกล่าว ตนเองจึงขออนุญาตเจ้าของหอพักในการเข้าไปตรวจค้น รอบแรกเปิดประตูไปในห้องห้องหนึ่ง เจอกับกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 8 คนซึ่งกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ภายในห้อง แต่ลักษณะคนร้ายจากกล้องวงจรปิดมีรอยสักบริเวณแขนที่ค่อนข้างเข้ม แต่ตนเองยังไม่สังเกตเห็นบุคคลลักษณะเดียวกันในห้องดังกล่าว จึงสั่งให้ทุกคนถอดเสื้อ เปิดดูรูปพรรณสันฐานที่คล้ายกล้องวงจรปิด แต่ไม่พบ
จากนั้นจึงไปเจอเพื่อนของ ผู้ก่อเหตุที่เคยเล่นตะกร้อด้วยกัน จึงเข้าไปสอบถามและถามว่าผู้ก่อเหตุอยู่ที่ไหน ตนเองยอมรับว่า มีการมานานโทรศัพท์ใช้อาวุธตบที่ศีรษะของเพื่อนผู้ก่อเหตุไป ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก เพื่อนผู้ก่อเหตุยอมรับว่าผู้ก่อเหตุยังหลบซ่อนอยู่ภายในหอพักดังกล่าว จึงนำกำลังทีมงานเข้าไปตรวจค้นอีกครั้ง เมื่อเจอเจอมีการลงไม้ลงมือ กลับผู้ก่อเหตุ ซึ่งบางส่วนเป็นญาติของผู้บาดเจ็บที่อยู่ในอารมณ์โมโหด้วย หลังจากนั้น จึงจับผู้ก่อเหตุและเพื่อนส่งโรงพักทั้งหมด 9 คน
ตนเองยืนยันว่าไม่กลัวความผิดในการที่จะจับคนร้ายส่งตำรวจ เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือชุมชนช่วยเหลือชาวบ้าน ทำสิ่งที่ถูกต้องหากจะถูกดำเนินคดีก็ขอให้ดำเนินคดีกับตนเองเพียงคนเดียว ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ขึ้นมาก่อน เป็นครั้งแรกที่ตนเองอยู่มาประมาณ 50 ปีแล้ว หากวันดังกล่าวไม่จับผู้ก่อเหตุส่งตำรวจ ก็คงจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน และเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อคนในชุมชนด้วย
โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่คนร้ายพยายามเข้าบ้านไปอนาจาร เด็กอายุ 17 ปี โดยมีแม่ของเด็กเข้ามาก้าม ถูกคนร้ายปาดคอได้รับบาดเจ็บด้วย ผู้ใหญ่จึงพาทีมงานเข้าไประงับเหตุ และล็อกตัวส่งตำรวจ
ขณะที่ผู้บาดเจ็บคือ นางนันภัส นิลเพชร อายุ 41 ปี ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณคอ มือ เอ็นขาด 6 เส้น, ศีรษะ 5 เข็ม ทีมข่าวพูดคุยกับนายธานินทร์ ญาติพิจิตรไพรินทร์ อายุ 38 ปี น้องชายผู้บาดเจ็บ เผยว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 23 ส.ค. 65 ช่วงที่เกิดเหตุผู้บาดเจ็บอยู่กับลูกสาวอายุประมาณ 17 ปี พ่อและแม่ที่เป็นผู้สูงอายุอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.00 น. โดยช่วงเวลาดังกล่าวตนเองออกไปทำงาน
กระทั่งเวลา 02.00 น. แม่ตนเองโทรศัพท์บอกว่าพี่สาวถูกคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยแม่เล่าว่าคนร้ายได้เข้ามาในบ้าน และใช้อาวุธมีดบุกเข้าไปในห้องนอนของพี่สาว แต่พี่สาวตื่นขึ้นมาจึงถูกอาวุธมีดปาดบริเวณคอ พี่สาวต่อสู้โดยการนำมือไปปัดมีดออก จึงได้รับบาดเจ็บบริเวณมือ หลังจากนั้นพี่สาวร้องขอความช่วยเหลือจึงถูกคนร้ายแทงที่บริเวณศีรษะ
ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเห็นผู้ก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยพูดคุยกันประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองเคยเห็นผู้ก่อเหตุเล่นตก็อยู่ข้างบ้านพัก จึงสอบถามว่าสักที่ไหนผู้ก่อเหตุได้แต่ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ ตนเองจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวเมียนมา ที่เข้ามาทำงานเรือประมงในพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุตนเองจึงเป็นกังวลว่าหากการจับตัวคนร้ายไม่ได้ จะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก เนื่องจากที่บ้านมีผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้คำตอบกับตนเองว่าอาจจะต้องรออีก 3-7 วันเดี๋ยวก็เจอคนก่อเหตุ
ตนเองไม่เข้าใจกับคำพูดดังกล่าว จึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิก เทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก เข้ามาช่วยตรวจค้นหอพักด้านข้างซึ่งเชื่อว่าคนก่อเหตุน่าจะอยู่ที่หอพักดังกล่าว และก็เจอกับผู้ก่อเหตุจริง ๆ ล่าสุด อาการของพี่สาวยังแย่ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณศีรษะและคอด้วย ตนต้องขอขอบคุณทีมงานของผู้ใหญ่โต้งที่เข้ามาช่วยเหลือจนจับกุมตัวคนร้ายได้สำเร็จ เชื่อว่าหากวันนั้นจับตัวคนร้ายไม่ได้ ก็อาจจะเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก
Advertisement