วันนี้ที่รอคอย! "ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์" และ "มาวิน ทวีผล" จัดงานฉลองมงคลสมรส ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ เผยคำมั่นสัญญา ชีวิตหลังแต่งงานมีความสุขยิ่งกว่าตอนเป็นแฟน ลั่นพร้อมมีทายาทแล้ว!
โดยวันนี้ 9 ต.ค. เจ้าสาว "ตู่ ปิยวดี" เผยว่า "วันนี้เปลี่ยนทั้งหมด 4 ชุดค่ะ ซึ่งจะเป็นแบรนด์ไทยทั้งหมดเลย เป็นความตั้งใจตั้งแต่ตอนเลือกชุดแต่งงานว่าจะใช้แบรนด์ไทย ตู่รู้สึกว่าคนไทยน่าจะรู้จักสรีระของเรามากที่สุด ถ้าเกิดเป็นของฝรั่งจะต้องมานั่งแก้โน้นนี่นั้น ก็จะมีชุดนี้ที่ให้สัมภาษณ์สื่อ และชุดที่ยืนหน้าแบคดรอป ชุดที่เดินเข้างาน แล้วก็ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้"
เล่าชุดเจ้าสาวมูลค่า 100 ล้าน ?
ตู่ : "คือตอนที่ตู่เริ่มทำชุดแต่งงาน ก็คุยกับสไตลลิสท์ที่เป็นเพื่อนกัน ก็แชร์ประสบการณ์การปักชุดด้วยเพชรจริง ซึ่งเราไม่เห็นคนอื่นทำ เราได้ไอเดียจากการปักเพชรจริงลงในชุดซึ่งในไทยไม่เคยมี เลยปรึกษาดีไซเนอร์ สรุปใช้ 200 เม็ดขึ้นไป แล้วก็ได้ปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้การเทรดเพชร เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรา พอใช้ไปจริงๆ 200 ไม่พอ เลยเพิ่มเป็น 300 กว่าเม็ด ก็ชุดนั้นชุดเดียวก็มูลค่า 100 ล้านค่ะ"
ความตั้งใจของวันนี้?
ตู่ : "ตู่ว่างานแต่งงานเป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน ตู่เลยอยากจะหาจุดจำ ที่ทุกคนสามารถจำงานเราได้ ก็เลยคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้คนไม่ลืมงานเรา"
ตอนเป็นแฟนกับตอนแต่งงาน ชีวิตต่างออกไปแค่ไหน ?
ตู่ : "ต่างมาก เพราะว่าไม่ได้ทะเลาะกันเลย โทรไปไม่รับสายคือประเด็นใหญ่ที่สุด พอแต่งงานแล้วก็รู้สึกว่าไม่ทะเลาะกันแล้ว ก็คุยกันมากขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตเราน่าจะไปอีกสเต็ปหนึ่งที่ไม่พอใจแล้วก็คือเลิก เหมือนเราข้าม เราเลยจุดนั้นมาแล้ว มันเป็นจุดที่เราต้องใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ แล้ว"
มาวิน : "ผมมีความสุขทุกเช้าครับ ตื่นมาต้องจับแขนเขา ต้องหอมแก้มเขาทุกวัน ผมมีความสุขมาก แต่คุณตู่จะเป็นคนขี้รำคาญ แต่ถ้าแมวกอดจะถ่ายคลิปมาอวด แต่ถ้าสามีกอดจะรำคาญ"
ต้องปรับตัวมากแค่ไหน ?
ตู่ : "เนื่องจากก่อนแต่งงานเราคบกันมา 17 ปี ตู่กับวินเป็นคู่ที่คุยกันเยอะมาก มีอะไรเราก็จะไม่เก็บ พูดเลยว่าไม่ชอบอันนี้ แก้ได้ไหม ถ้าแก้ไม่ได้เราจะถามตัวเองว่าเราอยู่กับสิ่งนี้ได้ไหม หรือเขาปรับตัวเองได้ไหมเพื่อให้เราอยู่กันได้ ถ้าด่าก็คือด่าเลย ด่าจริง ถ้าเวลาเขาไม่สติก็จะบอกเขาว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาถามว่าฉันพูดอะไรไปบ้าง"
ภรรยาดุมาก ?
มาวิน : "จะเหลือหรือครับ ที่เขาเล่ามานี่คิดว่าเขาใจดีเหรอครับ เขาโชว์ความใจดีอยู่เหรอครับ แต่ดุก็รักมากครับ เชื่อเมียแล้วเจริญ"
มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กัน ?
มาวิน : "เคยให้ไว้ตั้งแต่ตอนยังไม่แต่งงานว่าเขาจะอยู่ข้างผม ผมจะอยู่ข้างเขา แต่พอแต่งงานแล้วรู้สึกว่ามันมีความสุขจัง ทุกวันมันดีกว่าที่เราคิด เหมือนเราโตไปด้วยกัน ทำงานไปด้วยกัน และไม่ต้องแยกจากกันเลย ก็คงจะอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตด้วยกัน แต่ที่อยากตอนนี้คืออยากมีลูก"
ตู่ : "แต่เราก็คุยกันไว้แล้วว่าถ้าไม่มีเราก็ต้องมีความสุขนะ มีความสุขแบบที่ไม่มี แต่ถ้ามีก็ถือว่าเป็นโชคดีของเรา"
วางแผนมีลูกกี่คน ?
ตู่ : "ตอนนี้ก็ปรึกษาคุณหมอค่ะ ทั้งหมอและหมอดูด้วย เราก็จะเริ่มจริงจังหลังจากงานวันนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้กังวล โควิดด้วย คุณหมอก็บอกว่าเคสเราเป็นเคสที่ยาก เพราะอายุเยอะแล้วและก็ไม่เคยมีแพลนที่จะเก็บไข่ไว้ก่อนเลย เพราะก่อนหน้านี้เราไม่รู้ว่าจะได้แต่งงานหรือเปล่า พอมาถึงจุดที่จะต้องเริ่มทำ อายุเราก็ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เลยไปเยอะแล้ว คุณหมอเลยบอกค่อนข้างยาก ก็น่าจะใช้วิทยาศาสตร์หรือทุกวิธี
มาวิน : "ใช้ทุกวิธีครับ อยากได้ลูกผู้หญิง"
ตู่ : "ตอนแรกไม่ได้อยากแฝด แต่ด้วยเวลามันเลยไปเยอะ เราก็รู้สึกว่ามีทีละคนไม่ทัน ก็อาจจะลูกแฝด ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนว่าร่างกายเราไหวหรือเปล่า"
วางแผนฮันนีมูนที่ไหน ?
ตู่ : "ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ แต่หลังแต่งงานมีแพลนจะไปญี่ปุ่นสิ้นปีนี้"
มาวิน : "ส่วนปีหน้าอยากไปยุโรป"
อยากพูดอะไรถึงกันและกัน ?
มาวิน : "คนนี้หรอครับ ผมโชคดีที่ได้เขามาจริงๆ เขาน่ารักมาก ผมบอกเลยว่าผมรักเขามากๆ เขาเป็นกำลังใจที่สำคัญให้ผม ใช่เขาดุ แต่เพราะเขาอยากให้เราดีขึ้น เหมือนได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งเมีย ได้ทั้งแม่ ในคนเดียวครบมากเลยครับ 3 in 1 จริงๆ (หัวเราะ) ผมดีใจครับ ผมรู้สึกว่ามีเขาเป็นผู้นำในชีวิตของผม (หัวเราะ) ผมชัดเจนมากครับ ผมมีความสุขมากๆ ครับ"
"รักนะที่รักเนอะ ปีที่ 14 สุดท้ายก็ฝันเป็นจริงเนอะ แล้ววันที่จะเกิดงานนี้ผมบอกเขาเลยว่างานนี้มันต้องเกิดนะ อยากให้เขาตามใจฝัน อยากทำอะไรเต็มที่เลย ผมพร้อมซัพพอร์ต แล้ววันนี้ ผู้ชายคนนี้ทำให้ได้แล้ว มาถึงตรงนี้แล้ว รักนะคะ (จูบมือภรรยา)"
ตู่ : "อย่างที่บอก ตู่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้แต่งงาน เพราะวันที่เขาขอ คนที่เห็นคลิปจะถามว่าทำไมร้องไห้เร็ว คือน้ำตาหยดเลย ไม่ได้คิดเลยว่าจะมีวันที่เขามาขอเราแต่งงาน รู้สึกว่าตั้งแต่แต่งงานกับเขามา ความสุขในชีวิตเรามันขึ้นง่ายจัง กินข้าวอร่อยมื้อหนึ่งตู่มีความสุขมากเลย รู้สึกว่าความสุขของเราเกิดขึ้นง่ายได้มาก และไม่ต้องดิ้นรนหามัน มันอยู่ข้างๆ เรา"
Advertisement