จากกรณี ผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวเดินทางมากินหมูกระทะแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี แต่พนักงานของร้านนำเก้าอี้เหล็ก ซึ่งเพิ่งนำเตาร้อนไปวางทับมาให้นั่ง จนทำให้เกิดแผลไหม้พุพองบริเวณขาอ่อน
วันที่ 22 ธ.ค. 65 น.ส.ออย ผู้เสียหาย เล่าว่า ไปกินบุฟเฟต์ชื่อดังย่านนนทบุรี ราคาก็พอสมควร แต่สิ่งที่เจอคือเอาเก้าอี้เหล็กที่วางเตาร้อน ๆ มาให้ลูกค้านั่ง ซึ่งเก้าอี้นั้นพนักงานได้วางเตาไว้ คือแผลใกล้จุดสำคัญมาก ๆ แผลใหญ่มากเท่าฝ่ามือ แรก ๆ ไม่ติดใจเอาความอะไร คิดว่าเป็นแผลเล็ก ๆ ก็เลยนั่งกินต่อ เพราะเราขับรถมาไกล กว่าจะถึงรถติดมาก ขับรถมาจากลาดกระบัง เลยนั่งกินไปก่อนก็ได้ แต่พอนั่งกินไปเรื่อย ๆ จนแผลพุพองใหญ่ขึ้น พนักงานก็ซื้อยามาให้ทาและประคบน้ำแข็งแต่กินไปสักพัก รู้สึกปวดแสบปวดร้อนกว่าเดิมเลยไม่สามารถกินต่อได้ จึงไปเช็กบิลแล้วกลับ
แต่ก่อนกลับได้บอกพนักงานว่าให้พาไปโรงพยาบาลหน่อยได้ไหม เพราะแผลใหญ่ขึ้นมาก กลัวแผลติดเชื้อ แต่ผู้จัดการบอกไม่มีรถ จึงไม่สามารถพาไปได้ แฟนเราเลยพาไปโรงพยาบาลตอนนั้นที่ใกล้ที่สุด ค่ารักษา 4,047 บาท พนักงานบอกว่า "ผมรับผิดชอบเองครับ ผมเป็นคนสะเพร่าเอง"
ซึ่งน้องเขาขอผ่อนจ่ายรอเบิกทางร้านก่อนครับ ทางร้านเบิกได้แค่ 2,000 บาท แต่น้องมีเงินเก็บ 1,000 บาท และหายืมเพื่อน ๆ มาอีก 1,047 บาท ซึ่งเราก็เห็นอกเห็นใจน้องพนักงาน แต่การรักษาการดูแลแผลใช้เวลานาน ซึ่งตอนนี้เราคุยกับทางร้านแล้ว ทางร้านก็ออกมาชดใช้ค่ารักษาพยาบาล 15 วัน รวมเป็นเงินไม่ถึง 20,000 บาท
ด้านนายสิทธิกร (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี หุ้นส่วนร้าน บอกว่า หลังจากเกิดเหตุทางร้านไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยพนักงานของร้านได้พาผู้เสียหายไปพบแพทย์แล้ว พร้อมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้จำนวน 4,047 บาท จากนั้นทางร้านได้มีการนัดเจรจากับผู้เสียหายอยู่ตลอด การเจรจาครั้งที่ 1 ผู้เสียหายขอเงินค่าเยียวยา วันละ 10,000 บาท เป็นเวลา 15 วัน รวมเป็น 150,000 บาท และค่าทำขวัญอีก 50,000 บาท รวมทั้งสิ้น 200,000 บาท แต่ทางร้านคิดว่าเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป
การเจรจาครั้งที่ 2 ทางร้านเสนอว่าจะมอบเงินเยียวยาให้ 50,000 บาท ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลและค่าน้ำมันเดินทางต่าง ๆ แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม ยังไม่มีการนัดเจรจากันในครั้งที่ 3 ขณะนี้ทางร้านได้จ่ายค่าล้างแผล ค่ายาที่ผู้เสียหายไปซื้อเองนอกเหนือจากแพทย์สั่ง (ยาวิตามิน ยาทาแผลเป็น) ค่าน้ำมันในการเกินทางไปล้างแผล และค่าน้ำมันเดินทางมาเจรจา รวมทั้งหมดประมาณเกือบ 20,000 บาท
โดยเมื่อผู้เสียหายโพสต์เรื่องราวลงโซเชียลฯ ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะทางร้านไม่ใช่ไม่ใส่ใจ แต่ขณะนี้เพียงยังตกลงกันไม่ได้ จากนี้ตนคิดว่าทางร้านน่าจะได้รับผลกระทบ แต่ทางร้านก็อยากชี้แจงในมุมของร้าน อยากให้มีคนกลางเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เพื่อยืนยันว่าผู้เสียหายมีรายได้วันละ 10,000 บาทจริง และหาค่าเสียหายที่เหมาะสมที่ทุกฝ่ายรับได้
ทั้งนี้ พนักงานพาร์ตไทม์ที่วางเตาบนเก้าอี้ที่ผู้เสียหายนั่ง จะต้องแชร์ค่าเสียหายร่วมกับทางร้าน แต่ยังไม่ได้ตกลงรายละเอียดกัน ซึ่งตนได้ตำหนิพนักงานคนดังกล่าวไปแล้ว เพราะทางร้านไม่อนุญาตให้วางเตาในจุดใด นอกจากห้องครัวและหลุมวางเตาบนโต๊ะของลูกค้า
Advertisement