ทนายเดชา ยันเหตุถังดับเพลิงระเบิด ผู้เกี่ยวข้องทุกคนมีความผิดต้องเยียวยาคนเจ็บและคนตาย

ทนายเดชา ยันผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด มีความผิดและต้องเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้ตาย ไล่ตั้งแต่ ผู้ปฏิบัติงานสาธิต ผู้อนุญาต อนุมัติการสาธิต หน่วยงานราชการ โรงเรียน ครูอาจารย์ ทุกส่วน ยันผู้สาธิตสอนนักเรียน ผิด 2 ข้อหา มาตรา 291 และ 390

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้พูดถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่นำการสาธิตดับเพลิง แต่ถังดับเพลิงเกิดระเบิดใส่นักเรียนที่นั่งดูสาธิต เป็นเหตุให้เสียชีวิต และนักเรียนอื่นๆ ได้รับบาดเจ็บนั้น ระบุว่า จากเหตุการณ์ทั้งหมด ถามว่าผู้ใดเกี่ยวข้องผิดกฎหมายนั้น ต้องดูว่าผู้ใดเป็นผู้ประมาท ผู้ใดเป็นผู้ทำละเมิด กลุ่มแรกคือ เจ้าหน้าที่ ที่ทำการมาสาธิตให้กับน้องนักเรียน (ผู้กระทำละเมิดโดยตรง) ส่วนต่อมา ก็ระดับผู้สั่งการ ใครเป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดนี้มาสาธิตสอนนักเรียน และต่อมาก็เจ้าของสถานี ผู้อำนวยการโรงเรียน โรงเรียน ครูควบคุมดูแล ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันรับผิดชอบทั้งหมด

คนเริ่มต้นคือผู้ที่มาสาธิตต้องตรวจสอบตรวจดูอุปกรณ์ทั้งหมด มีความประมาทหรือหละหลวมในหน้าที่หรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ชุดนี้ต้องได้รับความผิดอันดับแรก เพราะอุปกรณ์ดับเพลิงเป็นอุปกรณ์อันตราย ถ้าไม่ตรวจสอบ แล้วเกิดอุบัติเหตุเกิดความสูญเสีย ก็จะเป็นความผิดทางแพร่งและอาญา ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสาธิตการดับเพลิงตั้งแต่ ระดับสถานศึกษา ผู้อำนวยการ ครู และหน่วยงานจะต้องร่วมเข้ามา เยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่มีเจตนาไม่ได้เด็ดขาด เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นคือการไม่ใช้การระมัดระวัง เป็นเหตุประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุกไม่เกิน 10 ปี และมาตรา 390 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส

ทนายเดชา ระบุุว่า การให้เด็กใช้ถังดับเพลิงนั้น จริงๆ เด็กไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไปศึกษาลงมือด้วยตัวเอง อาจจะเพียงแค่ศึกษาเท่านั้นก็พอ เพราะเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะยังเด็กเกินไป อาจจะเพียงแค่สอนวิธีการอพยพเหตุการณ์เพลิงไหม้ก็เพียงพอ ส่วนใหญ่วิธีการสอนการดับเพลิงนั้นก็จะอยู่ในกระบวนการของวัยบรรลุนิติภาวะ วัยทำงาน หน่วยงานบริษัทต่างๆ หรือโรงงาน ที่จำเป็นต้องศึกษา ตนเองมองว่า หน่วยงานรัฐ โรงเรียน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ต้องเข้าไว้วางมาตการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ซ้ำ