พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ เผย กรณีจับเด็ก 14 ก่อเหตุยิงในห้างสยามพารากอนได้ถือเป็นโชคดีในวิกฤตครั้งนี้ เพราะจะได้นำมาเป็นกรณีศึกษา ยืนยันเด็กใช้แบลงค์กันก่อเหตุ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีเหตุเด็ก 14 ปี ก่อเหตุภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ต.ค.66) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 1 ราย ชาวเมียนมา 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 ราย ว่า ที่ครั้งนี้สามารถจับเป็นได้ ถือเป็นโชคดีในวิกฤตคราวนี้ เพราะปกติไม่เคยได้ผู้ก่อเหตุแบบมีชีวิตเลย ส่วนใหญ่จะถูกวิสามัญทั้งหมด ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ถือเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญที่จะนำมาเป็นข้อมูลศึกษาต่อไป
เมื่อวานนี้จึงเข้าไปพูดคุยเพื่อให้ผู้ก่อเหตุผ่อนคลาย เพราะยังมีอาการหูแว่วอยู่ แต่ในการสอบสวนจะต้องมีสหวิชาชีพเข้ามาร่วมทำงานด้วย ทำให้ต้องชะลอการสอบสวนไปก่อน ส่วนการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ต้องฝากบอกไปถึงทุกครอบครัวเยาวชนทั่วประเทศว่าต้องมีการสังเกต การโพสต์ของบุตรหลานว่ามีข้อความรุนแรงหรือไม่ รวมถึงพฤติกรรมทั่วไปว่ามีความกร้าวร้าวหรือไม่เช่นกัน
ส่วนเรื่องของอาวุธที่ใช้ก่อเหตุยืนยันว่า เป็นปืนแบลงค์กัน ที่ใช้ปล่อยตัวนักกีฬา หรือที่เอาไว้ถ่ายหนัง ตามสถิติ ปืนพวกนี้เด็กเยาวชนชอบใช้ก่อเหตุมากขึ้นในประเทศไทย ตำรวจได้ประสานทางกระทรวงมหาดไทยแล้วว่าปืนชนิดนี้ต้องมีการควบคุมการซื้อ เพราะตอนนี้ซื้อได้เลยไม่มีกฎหมายควบคุม กฎหมายไม่ถือว่าเป็นอาวุธ
จากสถิติมีการก่อเหตุจากปืนแบลงค์กันมากขึ้น ซึ่งปืนชนิดนี้ถ้ายิงจริงเลยถ้าจ่อศรีษะแล้วยิงด้วยกระสุนแบลงค์กันสามารถเสียชีวิตได้เลย แต่ที่เอามาก่อเหตุมีการดัดแปลงลำกล้องและแม็กกาซีน ทำให้สามารถใช้กระสุนจริงได้เลย ตอนนี้จึงมีการประสานให้ออกกฎหมายควบคุม
ผบ.ตร. ยังกล่าวต่อว่า ในสื่อออนไลน์ มีการสอนการดัดแปลงแบลงค์กัน หรือวิธีใช้ปืนแบลงค์กันแพร่หลาย ซึ่งควบคุมสื่อยาก เพราะจะเข้าเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ปัจจุบันถือว่ามีปัญหาในเรื่องนี้มาก เป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะข้อมูลพวกนี้เข้าถึงได้ง่ายมาก