นายจ้างชาวเมียนมา เหยื่อเหตุยิงกลาง พารากอน ลั่นเอาผิดผู้ก่อเหตุ
นายจ้างชาวเมียนมา เหยื่อเหตุยิงกลาง พารากอน ลั่นเอาผิดผู้ก่อเหตุ ไม่สนจะเป็นเด็กหรือไม่ ชี้ต้องเอาเงินเยียวยาให้ครอบครัว ผู้เสียชีวิต
คอนเทนต์แนะนำ
สำหรับความคืบหน้า จากกรณีที่มีผู้ก่อเหตุวัย 14 ปี ใช้อาวุธปืนยิงประชาชน กลางห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายนั้น
เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 3 ต.ค. 66 ที่ สน.ปทุมวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจ้างของหญิงชาวเมียนมา ที่เป็น 1 ในผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ และติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยนายจ้างให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เมื่อตอนเย็นน้องบอกจะไปฝากเงินที่ห้าง พอตนได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ ก็พยายามติดต่อผู้เสียชีวิต แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตอนนั้นยอมรับว่า ใจไม่ดี
จากนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งว่า เจ้าของเบอร์นี้ถูกยิง ตนจึงได้ถามกลับว่าอาการเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้รับคำตอบ โดยแจ้งเพียงว่า ให้รีบเดินทางมาพร้อมญาติ ซึ่งก็ทำให้พอจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจึงรีบเดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน
เมื่อถามว่า มองว่าทางห้างหละหลวม เรื่องของความปลอดภัยหรือไม่ นายจ้าง บอกว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องของความหละหลวม น่าจะเป็นเด็กลักลอกเข้ามามากกว่า ตนยังไม่รู้ความจริงอะไรเลย
สำหรับการช่วยเหลือตนตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า จะแจ้งความกับบุคคลที่ก่อเหตุยิง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้กับผู้เสียชีวิต แต่ส่วนตัวก็จะจ่ายให้พ่อแม่ของน้อง เดือนละ 10,000 บาท ตามพี่น้องเคยทำมา ให้เสมือนน้องเขามีชีวิตอยู่
นายจ้าง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาน้องผู้เสียชีวิตเป็นคนดี ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เป็นเด็กน่ารัก มีความสามารถพูดได้หลายภาษา ดังนั้นผู้ที่ทำให้เขาเสียชีวิตต้องรับผิดชอบ แต่ยังไม่ได้คิดว่าเขาจะต้องรับผิดชอบอย่างไร ตอนนี้อยากทราบว่ายิงเพราะอะไร แต่มั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องของการโกรธแค้นแน่นอน เขาเป็นเด็กไม่มีเรื่องกับใครช่วยเหลือคนมาตลอด
“ตอนนี้ยังไม่กล้าบอกแม่เขาเลย ตอนเห็นคลิปผู้ก่อเหตุบอกปลอดภัยแล้ว อยากย้อนถามว่าใครปลอดภัย น้องคนยิงปลอดภัย อาจจะปลอดภัย เพราะน้องของพี่ยังไม่ได้ปลอดภัยเลย ถ้าไม่ได้เงินจากตรงนี้ จะมาแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ ไม่สนใจว่าจะเป็นเด็กหรือไม่เด็ก” นายจ้าง กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากให้คนไปฝากเงินที่ห้างอีก นายจ้าง กล่าวว่า กังวลอยู่แล้ว เพราะเป็นชีวิตคน ไม่ว่าต่างชาติหรือคนไทย หากหาแนวทางที่รัดกุมได้ ก็เป็นเรื่องดี
Advertisement
