แฟนคลับมารอต้อนรับ "จักรภพ เพ็ญแข" ที่กองปราบแต่เช้า

แฟนคลับ “จักรภพ” มารอต้อนรับและให้กำลังใจตั้งแต่ 6 โมงเช้าที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธินจตุจักร กทม.

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 มี.ค.67 ที่ อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธินจตุจักร กทม. นางสำเนียง สุรินทร์ อายุ 62 ปี (แม่บ้าน) และ น.ส.ณัชเบญา ชื่นจิตร 55 ปี (อดีตขับแท็กซี่) 2 แฟนคลับของนายจักรภพ มาพร้อมช่อกุหลาบสีแดง บอกว่า ทราบข่าวจาก Facebook ของคุณจักรภพปกติติดตามผลงานจากหนังสือของเขาเห็นคุณจักรพจน์โพสต์ Facebook เมื่อคืนว่าจะเดินทางมาประเทศไทยเวลา 7 โมงครึ่ง วันนี้ตนมาถึงกองปราบตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อรอต้อนรับและให้กำลังใจ โดยที่ไม่พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับคดีความที่เขาถูกดำเนินคดีจากไปหลายปีก็ยังคิดถึงอยู่จึงมาต้อนรับและสาย ๆ น่าจะมีคนอื่น ๆ ตามมาเพิ่ม

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ การ ได้จัดเตรียมกำลังรักษาความสงบและความปลอดภัยรอบพื้นที่บริเวณอาคารประชาอารักษ์

โดยเมื่อวานนี้ 27 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามหนึ่งในคน สนิท ของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนาย จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก ได้ประสานต่อ ตำรวจกองปราบปราม เพื่อจะขอเข้ามอบตัวและต่อสู้คดีในมาตรา 112 โดยคาดว่าหลังจากตำรวจกองปราบเข้าไป รับตัวนายจักรภพ เพ็ญแข จากฝั่งชายแดนระหว่างไทยกับเขมร แล้วจะส่งตัวไปขึ้นศาลอาญา รัชดาฯ ในกรณีมาตรา 112 เพิ่มการฝากขัง ซึ่งเจ้าตัวจะขอมาสู้คดีในมาตรา 112 ที่ถูกกล่าวหา

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตพิธีกรชื่อดัง และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้ลี้ภัยทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า...

“วันที่ 28 มี.ค.67 เวลา 07.35 น. กลับไปรับใช้เมืองไทยครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายจักรภพ เป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช พ.ศ.2551 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร พ.ศ.2546 - 2548

ส่วนบทบาทด้านสื่อมวลชน เป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย อดีตผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี อดีตผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์

ทั้งนี้เคยโดนฟ้องร้องคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษในหัวข้อเรื่อง “ระบบอุปถัมภ์ ในฐานะที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2550 ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (เอฟซีซีที) แต่อัยการสั่งยกฟ้อง เมื่อช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2554