น่าเห็นใจ เปิดสาเหตุสาวท้อง 5 เดือน ซดน้ำยาล้างห้องน้ำกลางร้านสะดวกซื้อ อาการล่าสุด ปลอดภัยแล้วทั้งแม่และลูก
เพื่อนทำงานด้วยกันที่ไต้หวัน แฉสาเหตุ สาวท้อง 5 เดือน ซดน้ำยาล้างห้องน้ำกลางร้านสะดวกซื้อ อาการล่าสุดปลอดภัยแล้วทั้งแม่และลูก
คอนเทนต์แนะนำ
จากกรณี สาวท้องแก่ ชาวบุรีรัมย์ วัย 32 ปี กินน้ำยาล้างห้องน้ำในร้านสะดวกซื้อ ที่ อ.กู่แก้ว เพื่อนสนิทเผย เจ้าตัวเครียดหลังจากกลับมาจากไต้หวัน มีปัญหาครอบครัว ถูกญาติและแม่รุมทึ้งขอเงิน โดยเฉพาะแม่ติดพนันและน้องสะใภ้ขอเงินทุกวี่ทุกวัน ขณะที่แม่ของคนเจ็บโบ้ยบอกนักข่าวลูกสาวประสาทไม่ดี ทำไปไม่รู้เรื่องและป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ลูกอยากมาเที่ยวจึงพามาคำชะโนดไหว้ปู่และหาตะกรุดติดตัวไว้ ยืนยันลูกไม่ได้เครียดเรื่องแม่ขอเงิน นั่งยันนอนยัน แม่นัดนักข่าวให้สัมภาษณ์แต่หายเข้ากลีบเมฆ ติดต่อไม่ได้
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ พร้อมแม่ นั่งรถโดยสารมาเที่ยวที่จ.อุดรธานี โดย น.ส.เอ ต้องการมาหาเพื่อนที่เคยทำงานที่ประเทศไต้หวันด้วยกัน และพักที่รีสอร์ทใน อ.กู่แก้ว ก่อนจะชวนเพื่อนเดินเข้าไปที่ร้านสะสวกซื้อที่ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี แล้วแอบกินน้ำยาล้างห้องน้ำจนล้มฟุบไปนอนกับพื้น โดยเจ้าตัวกำลังตั้งท้อง 5 เดือน ท่ามกลางความตกใจและช็อกของพนักงานร้าน
ต่อมากู้ชีพเทศบาลกู่แก้วรีบนำสาวท้องแก่คนนี้นำส่งรพ.กู่แก้ว แต่อาการหนักต้องรีบนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
เบื้องต้น จากรายงานของ ตำรวจ สภ.กู่แก้ว แจ้งว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเดินทางมากับแม่จากจ .บุรีรัมย์ เพื่อมาหาแฟนหนุ่ม อายุ39 ปี ชาว จ.อุดรธานี แต่เกิดทะเลาะกับแฟนหนุ่มจึงเดินหนีเข้าไปร้านสะดวกซื้อกินน้ำยาล้างห้องน้ำเพื่อหวังปลิดชีพตัวเอง ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้วทั้งแม่และลูก
สำหรับเรื่องนี้ยังเป็นข้อสงสัยว่าสาวตั้งท้อง 5 เดือนเดินปรี่เข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้วกินน้ำยาล้างห้องน้ำเพราะสาเหตุใด ทำไมถึงกล้าจบชีวิตไกลจากบ้านเกิดตัวเองแบบนี้
สอบถาม นายสมศักดิ์ เพื่อนที่เคยทำงานอยู่ไต้หวันที่ น.ส.เอ หญิงท้อง 5 เดือน มาหาและเล่าเรื่องราวทุกข์ใจให้ฟังก่อนจะไปกินน้ำยาล้างห้องน้ำหวิดปลิดชีพตัวเองพร้อมลูก และวอนผู้สื่อข่าวช่วยแก้ข่าวให้ตนด้วย ตนไม่ได้เป็นสามีแต่เป็นเพื่อนที่เคยทำงานประเทศไต้หวันด้วยกัน
โดยนายสมศักดิ์ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้กับนักข่าว ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่สามีของ น.ส.เอ เขามีสามีอยู่แล้วโดย น.ส.เอทักมาหาผมบอกว่าจะเยี่ยม ก็พาไปเที่ยวหลายที่ทั้งคำชะโนดและที่อื่นๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเพื่อนคนนี้เขาจะทักและเดินทางไปหาเพื่อนทุกคนที่เคยทำงานด้วยกันที่ประเทศไต้หวัน พอไปคำชะโนดและเที่ยวหลายที่แล้ว ตอนเย็นก็ให้พักที่รีสอร์ทใน อ.กู่แก้วกับแม่ของเขา พรุ่งนี้เขาก็จะเดินทางกลับบ้านตอนดึก เขาได้โทรหาชวนให้ผมพามาซื้อของร้านสะดวกซื้อเห็นบอกว่าหิวข้าวแต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว
"เราเป็นเพื่อนกันสมัยทำงานไต้หวันโดย น.ส.เอ หากมีเรื่องทุกข์ใจอะไรจะเล่าให้ผมและเพื่อนที่ทำงานฟัง บอกว่าทุกข์ใจกับแม่และญาติพี่น้องเพราะขอแต่เงิน เขาเคยคิดจะฆ่าตัวตายครั้งหนึ่งที่ประเทศไต้หวันแล้วแต่เพื่อนช่วยเอาไว้ทัน
พอกลับมาบ้าน เขามาสร้างบ้านในที่ดินของญาติพี่น้องที่รับปากจะยกให้เขา แต่พอสร้างเสร็จแล้วไม่ยอมยกที่ให้ ทำให้เขาเครียดประกอบกับน้องสะใภ้ที่ติดเกมมือถือ ขอเงินทุกวี่ทุกวัน และที่สำคัญตัวแม่ของเขาเองขอเงินทุกวันเช่นกัน
เขาเคยระบายให้ฟังว่าแม่น่าจะติดการพนัน และมาเที่ยวครั้งนี้เขาอยากมาคนเดียวแต่แม่ขอมาด้วยและจะส่งแม่ขึ้นรถกลับบ้านก่อนแต่แม่ไม่ยอมไป และพยายามขอเงินลูกสาวตลอดเวลาเ ขาเลยหนีออกจากมาจากรีสอร์ทและโทรชวนผมพาไปร้านสะดวกซื้อและก่อเหตุดังกล่าว ส่วนสาเหตุคงจะเครียดเรื่องแม่ญาติพี่น้องคิดว่าเขาไปทำงานแล้วมีเงินเก็บจึงทำให้เขาเครียดหวังจบชีวิตตัวเอง"
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง แม่ของน.ส.เอ ที่ตอนนี้เฝ้าดูอาการของลูกสาวที่รพ.ศูนย์อุดรธานี แม่ของน.ส.เอ บอกนักข่าวว่านักข่าวจะมาสัมภาษณ์อะไรหรือไม่มีอะไรแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร แม่ของน.ส.เอ ก็บอกว่าไม่มีอะไรมากลูกสาวประสาทไม่ดี ทำไปไม่รู้เรื่องและป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ลูกอยากมาเที่ยวจึงพามาคำชะโนดไหว้ปู่และหาตะกรุดติดไว้ในตัว
ยืนยันลูกไม่ได้เครียดเรื่องแม่ขอเงิน นั่งยันนอนยัน ตอนนี้อาการลูกสาวปลอดภัยแล้ว หมอน่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ขณะเดียวกันแม่นัดนักข่าวให้มาสัมภาษณ์แต่พอนักข่าวไปพบหน้ารพ.ศุนย์อุดรธานี ก็ติดต่อไปคุณแม่ก็ไม่รับสาย เดินหาจนทั่วก็ไม่เจอ
Advertisement
