สุดเวทนา นักศึกษา ปวส. ฝึกงาน ซ่อมเรือระเบิด แผลไหม้เกือบทั่วร่าง บริษัทเรือ-สถานศึกษา ไร้การเยียวยา ต้องใช้ชีวิตทุกข์ทรมาน
จากกรณีที่มี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ นันทพงศ์ ปานมาศ ซึ่งเป็นทนายความ โพสต์ภาพ นักศึกษาฝึกงานชายรายหนึ่ง ในพื้นที่จ.พังงา ชื่อน้องฟิล์ม พร้อมข้อความระบุว่า
“ความเป็นธรรมต้องมี ความยุติธรรม ความถูกต้องต้องมี และที่สำคัญอย่าแล้งน้ำใจ อย่าใจดำ ผู้ประกอบการ และสถานศึกษา”
“น้องฟิล์ม นักศึกษาชั้น ปวส. สาขาช่างยนต์ วิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา น้องฝึกงานในปีสุดท้าย ฝึกงาน ณ บริษัทเรือแห่งหนึ่ง ในจ.พังงา ขณะเกิดเหตุน้องและเพื่อนได้เข้าซ่อมเรือสปีดโบ๊ท และในเวลานั้นสปีดโบ๊ทเกิดระเบิด น้องและเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส น้องฟิล์มอาการหนักสุด รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานเกือบ 4 เดือน”
“หลังจากออกจากโรงพยาบาลจนถึงปัจจุบันน้อง ยังต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และยังมีอาการปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย น้องมีบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย ตามใบหน้า หัว แขนขา ใบหูขาด และแผ่นหลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นแผลเป็นทั่วทั้งร่างกาย สิ่งที่เกิดขึ้น ในการรักษาตัวนอนที่โรงพยาบาล ครอบครัวไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่าย แต่หลังจากออกจากโรงพยาบาล ไม่มีการช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้นแก่น้อง”
“ผู้ประกอบการไม่มีการเยียวยา บริษัทประกันก็ไม่มีการติดต่อแจ้งเรื่องเงินเยียวยา และที่สำคัญ เงินประกันอุบัติเหตุที่ทำกับสถานศึกษา วิทยาลัยการอาชีพแห่งนั้นก็ไม่ได้สักบาท น้องเคยไปติดต่อ แต่ครูคนนั้นก็โยนไปครูคนนี้ ครูโยนกันไปกันมา จนถึงบัดนี้น้องยังไม่ได้รับเงินประกันจากสถานศึกษาสักบาท เพราะทุกสถานศึกษาต้องมีประกันภัยให้นักเรียนนักศึกษาอยู่แล้ว”
“เวลาผ่านมานับขวบปี หลังจากเกิดเรื่อง เหตุการณ์วันนั้นยังตามหลอกหลอน น้องฟีล์มยังต้องทนทุกข์กับบาดแผลที่มีทั่วร่างกาย และยังคงต้องไปพบหมออยู่เรื่อยๆ และต้องออกค่าใช้จ่ายเอง โดยที่ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่เคยสนใจใยดี เรื่องนี้ผมและสำนักงานกฎหมายทานตะวัน เราจะติดตามรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาเพื่อให้เกิดความถูกต้องความยุติธรรม ให้ได้ สถานศึกษาอย่าใจดำ ผู้ประกอบการบริษัทเรือสปีดโบ๊ทแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา และบริษัทประกันภัย อย่าใจดำจนเกินไป”
“บาดแผลทั่วร่างกายที่เกิดขึ้น มันส่งผลทำให้น้องฟีล์ม ไม่กล้าเจอผู้คน ไม่กล้าคุยกับใคร จากคนร่าเริง กลายเป็นคนนิ่งเงียบไม่อยากเจอใคร บาดแผลที่ใบหน้าทำให้น้องฟีมพยายามไม่อยากเจอใคร เพราะทำให้เขาเสียความมั่นใจในตัวเองไปจนหมดสิ้น”
ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค. 67 นายสามารถ แสงช่วง พ่อของน้องฟิล์ม ซึ่งเป็นน้องนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุเรือระเบิดจากน้ำมันรั่ว กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 62 ระหว่างที่น้องไปฝึกงานที่บริษัท เรือนำเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ผ่านมาได้รับเงินช่วยเหลือประมาณ 30,000 บาท และเงินบางส่วนจากการช่วยเหลือของ อาจารย์ภายในวิทยาลัย
ส่วนตัวมองว่ายังไม่สมเหตุสมผลกับความเจ็บปวดที่ลูกชายต้องเผชิญ เนื่องจากช่วงนั้น ลูกชายอาการสาหัส มีแผลไหม้เกือบทั่วทั้งร่างกายและใบหน้า ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ไม่กล้าออกไปไหนมาไหน เพราะอายคน แต่ละคืนต้องทนความทุกข์ทรมานจากบาดแผลที่ถูกไฟไหม้ โดยตอนนี้ลูกชายไปพักอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช