พ่อแม่เด็กเชื่อมจิตมอบหลักฐาน ปอท. พร้อมขอบคุณ สน.ทองหล่อที่เห็นความน่ารักของน้องและให้ความเป็นธรรม ชวนพิสูจน์เชื่อมจิตออนไลน์ 15 มิ.ย.นี้
หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (4มิ.ย.67)ครอบครัวเด็กเชื่อมจิต พร้อมด้วย ทนายธรรมราช สาระปัญญา เดินทางมาที่กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน และร้องขอความเป็นธรรมให้กับ น้องไนซ์ และร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ พม.สุราษฎร์ธานีบางราย ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขอให้ลงโทษทางวินัย เจ้าหน้าที่พม.ท่านนั้น
ล่าสุด ครอบครัวเด็กเชื่อมจิต พร้อมด้วย ทนายธรรมราช สาระปัญญา เดินทางไปยื่นหลักฐานต่อที่ บก.ปอท.
โดยทนายธรรมราช ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีทนายท่านหนึ่งมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับน้องไนซ์ และครอบครัวรวมถึงทีมนิรมิตทิวาจุติ เกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมคอมพิวเตอร์และฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งสิ่งที่เขานำมาแจ้งความนั้นมีแค่น้อยนิดเป็นเรื่องความเชื่อ โดยวันนี้นำญาติธรรมมายืนยันว่าเขาไม่ได้ยึดในที่มาของน้องไนซ์ แต่ยึดในหลักคำสอน วันนี้จึงมามอบพยานหลักฐานชุดนี้ให้กองปราบนำไปประกอบสำนวนคดี
ด้านแม่น้องไนซ์ บอกว่าที่ไปพม.เพราะอยากให้ช่วยดูแลน้อง ที่น้องถูกคุกคาม โดย พม.มีโอกาสคุยกับน้องแล้วก็สอบถามว่าความรู้ได้มาจากไหน น้องก็บอกตามไปปกติ เป็นความรู้ที่ติดตัวมาจากข้างบน ซึ่งก่อนจะกลับจาก พม.เป็นภาพประทับใจ น้องได้มีการสวมกอดท่านพม. และพม.ก็รับปากที่จะดูแลให้
ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าคุณแม่ใช้ลูกเป็นเกราะกำบัง ในเหตุการณ์ที่สน.ทองหล่อ เมื่อวานนี้นั้น
แม่บอกว่าเหตุการณ์เมื่อวาน คือ พ่อแม่และน้องไนซ์โดนเรียกสามคน ให้รับทราบข้อกล่าวหา จริงๆเราตั้งใจจะไปวันที่ 4 มิ.ย. แต่พอลงจากเครื่องบิน น้องบอกว่าน้องจะไปวันนี้เลย ปกติน้องจะเป็นคนบอกอยู่แล้วว่าต้องทำยังไงบ้าง เราก็เลยเข้าไปวันนี้ น้องบอกว่าเดี๋ยวจะได้เห็นว่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วแม่ก็จะได้เอาสิ่งที่เห็นไปใช้ในชั้นศาลได้ แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงๆ ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวานทำเห็นอะไรหลายหลายอย่างที่แสดงออกมา
นักข่าวถามว่า แม่หมายถึงน้องมีนิมิตรู้ล่วงหน้าเหรอว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ สน.ทองหล่อ ก่อนที่แม่จะตอบว่า ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร แต่น้องบอกมาแบบนี้
ต้องขอบคุณสน.ทองหล่อมาก มันเป็นความประทับใจ เป็นบรรยากาศที่น่ารัก ขอบคุณสน.ทองหล่อที่ให้ความเป็นกลาง ดูแลอย่างดี ให้ความเป็นธรรม แม่เชื่อว่าตำรวจเห็นความน่ารักของน้องก็เลยให้ความเป็นธรรม
และที่สำคัญมีประโยคบางประโยคที่มีการแจ้งความน้อง แล้วน้องยืนยันว่าน้องไม่ได้พูดตรงนี้ ซึ่งเดี๋ยวเราจะแจ้งความกลับ
ส่วนกรณีที่ว่าสน.ทองหล่อ 2 มาตรฐานนั้น แม่ไม่รู้แต่ที่ไปออกข่าวว่าน้องก้าวร้าวกับตำรวจนั้น ไม่มีเลย น้องพูดคุยปกติ เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กในมุมมองที่น่ารัก ส่วนทำไมช่วงปั๊มลายนิ้วมือ ทำไมไม่ขึ้นชั้นสองนั้น น้องเป็นเด็ก น้องพูดเองว่าไม่ว่าพ่อกับแม่จะอยู่ตรงไหนน้องจะอยู่กับพ่อกับแม่ด้วย
ก่อนที่ทนายธรรมราชจะเสริมว่า การจดพิมพ์ลายนิ้วมือมีสองจุด ไม่ได้มีการเจาะจงว่าตรงไหน กฎหมายไม่ได้ห้าม
แม่ระบุอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แค่มีคนคนหนึ่งมาแจ้งความเราหมิ่นประมาท ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตหรือร้ายแรงอะไร เราไม่ใช่เป็นอาชญากร เราแค่มารับทราบข้อกล่าวหา มันไม่ได้มีอะไรที่น่ากลัว เป็นแค่คดีหมิ่นประมาท เราเตรียมจะฟ้องกลับแล้วด้วย ซึ่งเป็นสาระสำคัญ เรามารับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการ เราจะมาวันไหนก็เป็นสิทธิ์ของเรา
แล้วเมื่อวานนี้น้องก็โดนคุกคาม เพราะตอนที่น้องคุยกับตำรวจ จะมีเสียงตะโกนเข้ามาตลอดเป็นคำด่าต่างๆ ซึ่งตำรวจที่อยู่ที่นั่นก็รู้ดีเพราะอยู่กันหลายคน พอให้การเสร็จประมาณ 5 โมงเย็น ก็เลยร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกลับ และให้ตำรวจไปเรียกเขามารับทราบข้อกล่าวหา แต่ออกมาไม่เจอเขาแล้ว มันมีหลายหลายคำที่ข่มขู่ คุกคามจนทำให้แม่และน้องกลัวได้รับอันตราย
ด้านพ่อน้องไนซ์บอกว่า อย่างคำสอนที่พูดง่ายๆที่พอถามว่าวิปัสสนา คืออะไร คำตอบน้องบอกว่าคือการ "ซูม" พิจารณาของคำว่าซูม ซูมคือภาษาอังกฤษคำเดียว วิปัสสนากรรมฐานอธิบายด้วยคำเดียว ซึ่งจริงๆแล้วเป็นการอธิบายได้ยากมากว่าวิปัสสนากรรมฐานคืออะไร แต่น้องสามารถทำในสิ่งที่ยากให้มันเป็นสิ่งที่ง่ายด้วยคำว่า ซูม คำเดียว สั้นที่สุดในโลกและสามารถใช้ได้ทั่วโลก
วิปัสสนากรรมฐานคือการซูม ซูมคืออะไร น้องบอกว่าซูมคือการใช้จิตซูมเข้าไปดูรายละเอียด เหมือนเราดูมือถือเรามองไม่เห็นเราก็ขยายดู ก็คือการซูมดูรายละเอียดข้างใน นี่คือรายละเอียดและความหมายของคำว่าวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งความหมายมันเช่นเดียวกับพระไตรปิฎก เพียงแต่ทำให้กระจ่างแจ้ง ง่ายและเข้าใจง่ายกว่า ก่อนที่แม่จะเสริมว่า ซูมเพื่ออะไร ซูมให้เกิดความกระจ่างรู้ และให้ปิ๊ง ปิ๊งก็คือปัญญา
ทีนี้ตอนนี้มีคำพูดที่น้องออกมาพูด ก็คือคำว่า "วิเคราะห์ทิพย์" จริงๆแล้วน้องบอกว่าน้องจะขอให้สัมภาษณ์เอง มีการทำบันทึกข้อตกลงไว้ แต่แม่ดูแล้วสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ได้ แม่จะขอพูดนิดหนึ่งว่าน้องอยากจะบอกทุกคนว่า ขออย่าให้ทุกคน อย่าใช้การวิเคราะห์ทิพย์ อยากให้ทุกคนเข้ามาดูว่าความเป็นจริงคืออะไร วันที่ 15 มิถุนายน น้องจะมีการพูดเรื่องการสอนธรรมะและมีการเชื่อมจิตทางออนไลน์ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทุกคนได้เข้าไปร่วมกันนั่งสมาธิกับน้อง และดูว่าสิ่งที่น้องทำมันมีอะไรที่นอกเหนือจากที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนไหม อยากให้ดูตรงนี้พิสูจน์ด้วยตัวเอง เชื่อมจิตออนไลน์ วันที่ 15 มิถุนายน ตอน 19.30 น.นี้