ครบรอบ 32 ปี การจากไปของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ 32 เรื่องในชีวิต ของดวงจันทร์ที่ยังอยู่ในดวงใจของคนไทยตลอดกาล
ครบรอบ 32 ปี การจากไปของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสียงเพลงของเธอยังคงถูกเปิดและขับขานมาจนถึงปัจจุบัน และนี่คือ 32 เรื่องในชีวิต ของดวงจันทร์ที่ยังอยู่ในดวงใจของคนไทยตลอดกาล
1.กำเนิดดวงจันทร์ในดวงใจ
พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีชื่อจริงว่า รำพึง จิตรหาญ เป็นบุตรคนที่ 5 จาก พี่น้องทั้งหมด 12 คน เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ที่ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ก่อนครอบครัวจะย้ายไปปักหลักที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
2.อ่านหนังสือไม่ออกแต่จำบทเพลงได้หมด
พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้เรียนหนังสือเพียงแค่ชั้นประถมปีที่ 2 แม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ความจำเป็นเลิศ เพียงแค่ได้ยินการร้องและเนื้อเพลงจากครูเพลงก็สามารถจดจำได้ทันที
3.ฉายแววความดังตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง
พุ่มพวง เริ่มประกวดร้องเพลงตามงานวัดในนาม น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ คว้ารางวัลมากมาย เรียกได้ว่าบางครั้งถ้าเธอมาประกวดก็จะโดนกรรมการบอกว่าให้พอก่อน เพราะถ้าลงแข่งเมื่อไหร่ คว้าตำแหน่งชนะเลิศมาได้ทุกที
4.เพชรในตม ร้องเพลงหลังเวที สะกดทุกคนให้หันมามอง
ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เคยเล่าว่า ตอนที่พ่อแม่ของพุ่มพวงนำตัวมาหาหลังเวทีนั้น พุ่มพวงได้ก้มกราบที่ตัก เขาจึงให้ลองร้องเพลงให้ฟัง หลังจากที่เปล่งเสียงออกมา ทุกคนหันมามองหมดเลย ตอนนั้นนึกในใจกูเจอแล้ว เจอเพชรในตมแล้ว เดี๋ยวไปขัดเอา ก็ให้พุ่มพวงขึ้นเวทีเลย
5.เริ่มต้นชีวิตในวงการลูกทุ่งด้วยการเป็นหางเครื่อง
ด้วยความที่เสียงดีมีพรสวรรค์ทำให้ พุ่มพวง ได้รับการเอ็นดูจาก ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ รับเป็นลูกบุญธรรมและให้มาทำงานอยู่ในวงดนตรี พุ่มพวงรอโอกาสเป็นนักร้องอยู่นานแต่ยังไม่ได้เป็นเสียที โดยเธอให้สัมภาษณ์ในรายการจันทร์กะพริบว่า เปรี้ยวปากอยากร้อง แต่เขาไม่ให้ร้อง เลยไปขอเขาเต้น แต่ก็ได้แต่ซ้อมยังไม่ได้ขึ้นเวที จนวันหนึ่งครูสอนเต้นไม่มาเลยสบโอกาสขึ้นไปเต้น ได้ค่าตัวมา 80 บาท เธอออกลีลาการเต้นจนเข้าตาได้เป็นหางเครื่องสมใจ
6.บทเพลงแรกในชีวิต
หลังสู้อดทนฟันฝ่าเก็บประสบการณ์ในวงการลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ก็ได้รับโอกาสให้ขับร้องและได้บันทึกอัดลงแผ่นเสียงเป็นชุดแรกคือเพลง "แก้วรอพี่" ในปี 2519
7.ชื่อแรกในวงการ ที่หลายคนไม่คุ้นหู
ไวพจน์ เพชรสุพรรณ แต่งเพลง “แก้วรอพี่” ให้ร้องเป็นเพลงแรก และตั้งชื่อให้ว่า "น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ" แม้เพลงแก้วรอพี่จะมีคนรู้จักบ้างพอสมควรแต่ก็ยังไม่ส่งให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกสมใจ
8.นักร้องบ้านนอก แต่งจากชีวิตจริง
พุ่มพวงเคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่จากบ้านเข้ามาเป็นนักร้อง คนข้างบ้านแซวว่า "คนบ้านนอกน่ะนะ โธ่! นักร้องน่ะเหรอ จะเป็นนักร้องให้เขาล้วงไปอัดแผ่นน่ะนะ สามแผ่นบาทหรือเปล่า มันจะดังได้ยังไง หนังสือจบแค่ ป.2 ป.3" ทำให้เรื่องนี้กลายมาเป็นเพลง นักร้องบ้านนอก พร้อมท่อนที่หลายคนจำได้ว่า "ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย ไม่เด่นไม่ดัง จะไม่หันหลังกลับไป ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี"
9.รักครั้งแรกของ น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ
หลังจากบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกในเพลง “แก้วรอพี่” ปีเดียวกันนั้นเอง เธอตกลงปลงใจอยู่กินกับ “ธีระพล แสนสุข” นักดนตรีและนักแต่งเพลง ลูกวงดนตรีไวพจน์ หลังจากแต่งงานแล้วได้แยกตัวออกจากวงไวพจน์ไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ก่อนที่จะเลิกรากันไปในภายหลัง
10.ที่มาของชื่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์
“มนต์ เมืองเหนือ” ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังตั้งชื่อใหม่ในวงการลูกทุ่งให้ว่า “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ตอนแรกจะใช้ชื่อ "พุ่มพวง เพชรอีสาน" เพราะช่วงนั้นลูกทุ่งอีสานมาแรง แต่เธอแย้งว่า หนูไม่ใช่คนอีสาน เดี๋ยวใครมาพูดอีสานด้วยแล้วหนูพูดไม่ได้คนจะว่าเอา ครูเพลงเลยเปลี่ยนเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ พุ่มก็ใหญ่ พวงก็ใหญ่ ดวงจันทร์ก็อยู่สูง ชื่อเสียงจะได้ยิ่งใหญ่สูงกว่าใคร สุดท้ายก็เป็นจริง
11.ดวงจันทร์เริ่มฉายแสงความดัง
พุ่มพวง ดวงจันทร์ เริ่มมีเพลงติดหูคนฟังจากอัลบั้ม สาวนาสั่งแฟน (ปี 2526) ตามติดด้วย นัดพบหน้าอำเภอ (2526) และ คนดังลืมหลังควาย (2528)
12.ขึ้นสู่จุดพีก ยอดขายล้านตลับ
อัลบั้ม "อื้อฮือ หล่อจัง" (ปี 2528) มีเพลงดังมากมายที่ผู้คนยังเปิดฟังกันอยู่ถึงทุกวันนี้ เช่น กระแซะเข้ามาซิ, อื้อฮือหล่อจัง นอนฟังเครื่องไฟ, อายแสงนีออน, สุดแค้นแสนรัก ฯลฯ สามารถทำยอดขายได้ถึง 1.5 ล้านตลับ นับว่าเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ พุ่มพวง ดวงจันทร์
13.ศิลปินเพลงลูกทุ่งคนแรกที่ได้ขึ้นแสดง โลกดนตรี
วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2528 พุ่มพวง ดวงจันทร์ ขึ้นแสดงลานโลกดนตรีครั้งแรก (โลกดนตรี เป็นรายการเพลงที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น) และยังสร้างตำนานเป็นศิลปินเพลงลูกทุ่งคนแรกที่ได้ขึ้นแสดง แฟนๆ แห่กันเข้ามาดูจนรายการต้องงดออกอากาศถึง 10 นาทีเพื่อเคลียร์คนดู ซึ่งพุ่มพวงถือว่าเป็นคนเปิดทางให้วงดนตรีลูกทุ่งอื่นๆ ได้ขึ้นโชว์หลังจากนั้นเป็นต้นมา
14.งานแสดงเรื่องแรกในชีวิต
หลังเริ่มประสบความสำเร็จในวงการเพลง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต รับบท “พุ่มพวง” ในภาพยนตร์เพลง “สงครามเพลง” ที่ออกฉายเมื่อปี 2526 กำกับโดย ฉลอง ภักดีวิจิตร นอกจากนั้นผลงานอื่นๆ เช่น นักร้องนักเลง, รอยไม้เรียว, คุณนายป.4, เสน่ห์นักร้อง, หลงเสียงนาง, ผ่าโลกบันเทิง, สาวนาสั่งแฟน, ขอโทษที ที่รัก, มนต์รักนักเพลง
15.พบรักกับ ไกรสร แสงอนันต์ พระเอกรูปหล่อ
พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง "มนต์รักนักเพลง" เป็นโอกาสให้ได้พบกับพระเอกหนุ่มรูปหล่อในเวลานั้นอย่าง "ไกรสร แสงอนันต์" ก่อนจะปลูกต้นรักกันในเวลาต่อมา และมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ น้องเพชร ลีละเมฆินทร์ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เพชร พุ่มพวง
16.ตั้งครรภ์ตอนออกอัลบั้ม ตั๊กแตนผูกโบว์
พุ่มพวงทำอัลบั้ม ‘ตั๊กแตนผูกโบว์’ ปี 2529 โดยอัลบั้มนี้ยกกองไปถ่ายมิวสิควิดีโอกันถึงประเทศจีน แต่ยังไม่ทันออกขายก็ตั้งครรภ์เสียก่อน ซึ่งสมัยนั้นการเป็นดารานักร้องเรื่องมีครอบครัวจะต้องปกปิด แต่พุ่มพวงไม่ทำแบบนั้น เธอคิดว่าการที่มายืนจุดนี้ได้ก็เพราะความสามารถ การที่แฟนเพลงจะรู้เรื่องมีลูก มีครอบครัวก็ไม่แปลก จึงตัดสินใจเดินหน้าทำงานต่อ ปรากฏว่าแฟนเพลงยิ่งให้ความสนใจ เวลาไปเดินสายก็มีคนแห่มาดู ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากมาดูท้องพุ่มพวง ร้องจนถึง 6 เดือนถึงได้ขอพักงาน
17.กลับมาเปรี้ยงปัง เพราะคำว่า "หนูไม่รู้"
ชื่อเสียงของพุ่มพวงซบเซาไปช่วงนึงหลังมีลูก ต้นสังกัดปฏิเสธทำเพลงให้อีกเพราะมีครอบครัวแล้ว เธอจึงโทรไปขอให้ ‘ครูลพ บุรีรัตน์’ ครูเพลงคู่บุญแต่งเพลงให้ อาจารย์ก็ถามกลับมาว่าจะไม่มีปัญหาเหรอ เธอก็ตอบคำเดียว หนูไม่รู้ๆ จนกลายเป็นเพลง ‘หนูไม่รู้’ ที่โด่งดังสุดในปี 2531
18.เพลงนี้ไม่ต้องร้องเพราะ ขอสำเนียง "แรด"
ลพ บุรีรัตน์ ครูเพลงคู่บุญของพุ่มพวง เคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีว่า พุ่มพวงเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์และเนื้อเสียงที่ดี แต่บางครั้งบางเพลงก็ต้องบอกให้ร้องใหม่ ไม่ต้องร้องเพราะมาก และให้มีสำเนียงการร้องที่ "แรด" นั่นจึงเป็นที่มาของเพลงดังหลายเพลงที่ฟังแล้วสนุกสนาน ฟังดูมีจริตจก้านแพรวพราวนั่นเอง
19.ยิงยาวความดัง ด้วยเพลงฮิตติดหูคนไทย
หลังจากเพลง หนูไม่รู้ พุ่มพวงสานต่อด้วยบทเพลงที่คนไทยยังร้องตามได้ถึงทุกวันนี้ เช่น หนูไม่เอา ฉันเปล่านาเขามาเอง อีกหน่อยก็ลืม ขอให้โสดทีเถอะ (2531) พี่ไปดูหนูไปด้วย เงินน่ะมีไหม (2532) ขอให้รวย รู้แล้วรู้แล้ว (2533)
20.ห้อยพระเป็นพวงเสริมดวงช่วงเบญจเพส
พุ่มพวงเชื่อเรื่องเบญจเพส ว่าเมื่ออายุ 25 ปีจะเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทำให้ช่วงนั้นพุ่มพวงแขวนหลวงพ่อเต็มคอ ช่วงปี 2529 ในการทำงานแต่ละครั้ง พุ่มพวงไม่เคยถอดพระออกจากคอ ไม่ว่าจะถ่ายมิวสิควิดีโอ หรือขึ้นคอนเสิร์ต เพื่อความสบายใจ
21.ตัวแม่แฟชั่น นักร้องลูกทุ่งที่ได้ขึ้นปกนิตยสารดัง
พุ่มพวง ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่แฟชั่น ทุกครั้งที่ไปทำการแสดงที่ต่างประเทศ ก็จะแวะไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินต่างๆ เธอได้นำมาสไตล์ปรับใช้กับโชว์ของตัวเอง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รูปแบบการแสดง ความดังของเธอทำให้นิตยสารหลายฉบับต้องเปิดใจให้มาขึ้นปก เช่น ดิฉัน ขวัญเรือน สตรีสาร ฯลฯ ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน โดยพุ่มพวงเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า การขึ้นปกทำให้คนที่ไม่รู้จักเพลงลูกทุ่งได้รู้จักพุ่มพวง พร้อมกล่าวติดตลกว่า พอคนเห็นก็อาจจะคิดว่า ลูกทุ่งคนนี้หน้าตาก็พอไปวัดเช้าๆ ได้
22.ตั๊กแตนผูกโบว์ ได้แรงบันดาลใจจาก "มาดอนน่า" ไอดอลคนโปรด
"มาดอนน่า" ขึ้นชื่อว่าเป็นไอดอลสุดโปรดของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทั้งการแต่งตัว เสื้อผ้า หน้าผม ล้วนแต่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "มาดอนน่า" เกือบทั้งหมด พุ่มพวงสะสมผลงานและสิ่งของต่างๆ มาพัฒนาโชว์ และมีครั้งหนึ่ง พุ่มพวงได้นำแฟชั่นต้นแบบชุดแต่งงานผูกโบสีขาวของมาดอนน่า ในคอนเสิร์ต "The Virgin tour" มาเป็นชุดขึ้นคอนเสิร์ตตั๊กแตนผูกโบ บนคอนเสิร์ต โลกดนตรี ในปี 2529 อีกด้วย
23.เปิดประตูสู่ไฮโซ ตำนานชุดลายเสือ ได้แสดงสดที่โรงแรมดุสิตธานี
โรงแรมดุสิตธานี เป็นโรงแรมที่โก้หรูมากในสมัยนั้น และไม่เคยมีศิลปินลูกทุ่งคนไหนเคยไปเปิดการแสดง แต่ด้วยความดังแบบสุดขีด ในปี 2529 พุ่มพวง ดวงจันทร์ จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักร้องลูกทุ่งหญิงคนแรกที่ขึ้นไปเปิดคอนเสิร์ตร้องเพลงลูกทุ่งที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี ท่ามกลางกลุ่มไฮโซเมืองไทย และที่นี่ยังเป็นสถานที่สร้างอีกหนึ่งภาพจำของพุ่มพวง นั่นคือ ชุดลายเสือ โดยพุ่มพวงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อโค้ทกันหนาวลายเสือดาวของมาดอนน่า
24.รางวัลของความสำเร็จ
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเพลง "อกสาวเหนือสะอื้น" เมื่อปี 2521 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 เพลง “สาวนาสั่งแฟน” ปี 2532 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2 เพลง “สยามเมืองยิ้ม” ปี 2534
25.เกียรติสูงสุดของในชีวิต
"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้รับเลือกเป็นผู้ขับร้องเพลง "ส้มตำ" เพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี 2534 ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต ความสำเร็จในวงการเพลงทำให้พุ่มพวงได้รับฉายาว่า "ราชินีลูกทุ่ง" สืบต่อจาก "ผ่องศรี วรนุช"
26.เริ่มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง
ปี 2534 "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เริ่มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือ โรคแพ้ภูมิตนเอง ที่ทุกคนต่างสงสัย และปัจจุบันผู้คนยังเรียกโรคเอสแอลอีว่า โรคพุ่มพวง
27.พุ่มพวงได้กราบพระพุทธชินราชสมความตั้งใจ
พุ่มพวงเคยพูดกับคนใกล้ชิดว่า อยากจะมากราบไหว้พระพุทธชินราชเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะไม่เคยมีโอกาสมาสักครั้ง จนกระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิตครอบครัวได้นำพุ่มพวงเดินทางออกจากบ้านพักในกรุงเทพฯ โดยมีกำหนดการว่าหลังจากไหว้พระแล้วจะไปเยี่ยมน้องเพชรที่เชียงใหม่ แต่หลังจากกราบไหว้พระพุทธชินราชเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เกิดอาการช็อกและหมดสติ ญาตินำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช
28.ในวันที่ดวงจันทร์จากไป
พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสียชีวิต ในเวลา 20.55 น. ของคืนวันที่ 13 มิ.ย. 2535 ที่จังหวัดพิษณุโลก ขณะอายุเพียง 31 ปี
29.งานศพที่มีคนมาร่วมอาลัยนับแสนคน
วันที่ 25 มิ.ย. 2535 ครอบครัว "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพขึ้นที่ วัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธี มีประชาชนมาร่วมอาลัย ส่งราชินีลูกทุ่งขึ้นสู่สวรรค์นับแสนคน
30.มรดกของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ทิ้งไว้
ในวันที่พุ่มพวงจากไป มรดกที่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ อาคารชุดที่สยามคอนโดมิเนียม ราคา 4 ล้านบาท, อาคารชุดที่สีลมคอนโดมีเนียม ราคา 5 ล้านบาท, อาคารชุดที่จุลดิศแมนชั่น ราคา 6 ล้านบาท, บ้านพักที่ซอยราชครู ราคา 8 ล้านบาท, บ้านพักที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ดิน จ.ลำพูน จำนวน 22 ไร่, ที่ดินรกร้างบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ 22 ไร่, ที่ดินใน อ.ชะอำ หัวหิน จำนวน 30 ไร่, เครื่องเพชร-ทอง ในตู้เซฟธนาคารกสิกรไทย สาขาเชียงใหม่
31.หุ่นพุ่มพวง ตัวแทนความรักและศรัทธา
ปัจจุบัน หุ่นพุ่มพวงมีทั้งหมด 13 จุดทั่ววัดทับกระดาน มีการตั้งหุ่นตัวที่ 13 เป็นตัวสุดท้าย ที่น้องสาวและลูกสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวบอกไว้ว่าจะงดรับหุ่นแล้ว ขอให้จบที่หุ่นที่ 13 พราะเกี่ยวกับพุ่มพวงคือ เสียชีวิตวันที่ 13 ตอนอายุ 31
32.ปริยศิลปิน "พุ่มพวง ดวงจันทร์"
ราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ไม่ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ เนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์ แต่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2552 กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีมติประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็น "ปริยศิลปิน" หรือ ศิลปินอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊กเพจ พุ่มพวง ดวงจันทร์
Advertisement