เสื้อแดงขอนแก่นเฮ กินหมูกระทะฉลอง "ทักษิณ" รอดคุก หลังศาลให้ประกันตัว วอนนักเลงคีย์บอร์ดอย่าเที่ยวพูดเอาสนุกปาก
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 18 มิ.ย.2567 ที่ร้านเดอะนัวหมูกระทะ บ.โนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผศ.ดร.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษาเครือข่ายกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน และอดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายอำเภอ ของจ.ขอนแก่น มาร่วมกันกินหมูกระทะเพื่อร่วมพูดคุยและแสดงความยินดี ภายหลังจากศาลได้พิจารณาอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการประกันตัว ภายหลังจากอัยการได้มีคำสั่งฟ้องตามความผิดมาตรา112
โดยกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 30 คนได้พร้อมใจกล่าวแสดงความยินดีกับ นายทักษิณ คนไทยไม่ทิ้งกันและร่วมพูดคุยกันถึงการดำเนินงานร่วมกันในระดับพื้นที่ ภายหลังจากที่ทุกคนรอคอยให้วันนี้มาถึง และการเข้าสู่การต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
ผศ.ดร.พรรณวดี กล่าวว่าวันนี้ทุกคนคลายความอึดอัดและต่างต้องการที่จะพูด จึงนัดกันมากินหมูกระทะ เพื่อร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แสดงความยินดีกับนายทักษิณ ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญอย่างมาก เพราะร้านเดอะนัวนี้ คุณอุ๊งอิ๊งค์และคณะได้มารับประทานเป็นอาหารเย็นร่วมกันกับสส.ของพรรคเพื่อไทยและคณะทำงาน เพราะหมูกระทะเป็นอาหารยอดนิยมของคนอีสาน เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ด้านอาหารที่รู้จักกันทั่วทั้งโลก
ดังนั้นทุกคนที่ได้มาทานหมูกระทะร่วมกันวันนี้ นอกจากจะพร้อมใจกันใส่เสื้อสีแดงแล้ว ยังคงได้พูดคุยกับคลายความอัดอั้นตันใจ โดยเฉพาะช่วงก่อนหน้านี้ที่แต่ละคนก็วิจารณ์และพูดกันไปต่างๆนานาทั้งว่านายทักษิณจะไปต่างประเทศบ้าง ไม่มารายงานตัวต่อศาลบ้าง หรือแม้กระทั่งการพูดถึงการกระทำการต่างๆเพื่อที่จะไม่มาศาล แต่พอนายทักษิณมาจริง มาสู้คดีจริงและมาเข้าสู่กระบวนการของศาลจริง ถือว่าท่านเป็นคนจริงที่มารับโทษ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่หลายคนควรเอาเป็นตัวอย่าง
ผศ.ดร.พรรณวดีกล่าวต่ออีกว่าไม่อยากบอกว่าไม่มีตัวหรือไม่มีใครที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาปากท้องให้กับประชาชนต่อจากนี้ไปได้เหมือนคุณทักษิณ ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะมีความหวังและจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในอาเซียน ส่วนแรงกระเพื่อมทางการเมืองจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้นไม่ขอพูดถึง เพราะภาคประชาชนนั้นทำงานเคียงข้างกับนายทักษิณมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย และจะอยู่ด้วยกันและเคียงข้างกันตลอดไป และที่สำคัญพรรคเพื่อไทย มีการประเมินผลงานสส.และรัฐมนตรี จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ทุกวัน.
Advertisement