“บิ๊กเต่า” นำทีมหิ้ว 8 ลูกเรือ เข้ากรุง ฝากขังศาลผลัดแรก

“บิ๊กเต่า” นำทีมหิ้ว 8 ลูกเรือ เข้ากรุง ฝากขังศาลผลัดแรก หลังสอบปากคำเครียดหนักทั้งคืน ขยายผลผู้บงการ-ผู้ว่าจ้าง สรุปแล้วนาย จ. เป็นใคร 

จากกรณี เรือน้ำมันของกลาง จำนวน 3 ลำ หายไปจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยตำรวจใช้เวลา 5 วันในการติดตามเรือน้ำมันเถื่อน 

จนต่อมาเมื่อเวลา 19.35 น. วันที่ 17 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ เรือของกลางทั้ง 3 ลำ เข้าเทียบที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลา เป็นที่เรียบร้อย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมชุดตำรวจมัจฉานุ ตำรวจน้ำ คุมตัวลูกเรือ 8 คน ผู้ต้องหาขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง พร้อมของกลางที่เป็น GPS , วิทยุสื่อสาร และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในวันหลบหนี ขึ้นเครื่องบินตำรวจ เดินทางมายังกทม.  ถึงในเวลา 22.07 น. เพื่อสอบปากคำที่ กองบังคับการปราบปราม 

โดยจะมีชุดปฏิบัติพิเศษหนุมานกองปราบ CIB รอรับตัวผู้ต้องหา เดินทางโดยรถ ต่อไปยัง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. 

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มีสีหน้าเคร่งเครียดอยากเห็นได้ชัด ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่างๆ แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใดๆ 

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำผู้ต้องหา 8 คนที่ จ.สงขลาไปบ้างแล้ว โดยผู้ต้องหาทุกคนให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของตำรวจกองปราบที่จะสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะสอบปากคำต่อทั้งคืน โดยประเด็นหลักที่จะสอบปากคำคือเรื่องการขยายผลไปถึงผู้บงการและผู้ว่าจ้าง ซึ่งในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย. 67) จะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนไปขออำนาจ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังผลัดแรก 

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ บก.ปอศ. ,ตำรวจกองบังคับการปราบปราม, และอัยการคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน มีการหารือความคืบหน้าในการดำเนินคดี ได้ข้อสรุปว่าจะยังไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เอาผิดคนสั่งการ 1 คน โดยต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ชัดเจนว่า นาย จ. เป็นใคร แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เสี่ยโจ้ ปัตตานี 

ส่วนลูกเรือที่หายไปกับเรือ 3 ลำจะต้องถูกเอาผิดทั้ง 2 คดี คือ คดีน้ำมันเถื่อน และลักเรือของกลาง ส่วนของกลางน้ำมันที่ได้กลับมาไม่ครบ ไม่กระทบต่อสำนวนคดี เพราะทางตำรวจได้ตรวจสอบน้ำมันของกลางไปแล้วก่อนที่เรือจะหายไป และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปกว่า 10 ปาก