ความเชื่อโบราณสร้างเมรุหลังใหม่เสร็จต้องเผาหลอก ศพแรก "ยายกล้วยรวยทรัพย์" อายุ 109 ปี ชาวบ้านแห่ส่อง เลขเด็ด ฝาโลงเสี่ยงโชค
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ก.ค.2567 ที่วัดสำนักบก ชาวบ้านตำบลสำนักบก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี นางสาวนงนภัส เดชะองอาจ อายุ 57 ปี แม่งานเจ้าของพิธีพร้อมด้วยผู้นำชุมชนชาวบ้านรวม 300 คน ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ "ยายกล้วยรวยทรัพย์" ซึ่งพิธีดังกล่าวมีความเป็นมาว่า เมื่อทางคณะกรรมการวัดสำนักบกได้จัดสร้างเมรุขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จ และก่อนที่จะทำการเปิดใช้ฌาปนกิจศพหรือเผาศพคนตายจริงจะต้องมีการเผาหลอก
ที่ว่าเผาหลอกคือ ชาวบ้านได้นำเอาต้นกล้วยแทนคนตายมานอนตาย มีผ้าดิบคลุม ตั้งเครื่องเซ่นไหว้ศพ มีรูปต้นกล้วยประกอบเสร็จเรียบร้อยเหมือนงานศพคนตายโดยทั่วไป โดยจะทำเสมือนจริงทุกอย่าง เหมือนกับศพคนตายจริงๆ โดยใช้ชื่อว่างานฌาปนกิจ "ยายกล้วยรวยทรัพย์ ไปไม่กลับ อายุ 109 ปี" โดยชาวบ้านได้ช่วยออกเงินคนละเล็กละน้อยทำบุญถวายพระ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารชาวบ้านที่มาร่วมงาน
จากนั้นชาวบ้านก็จะนำศพมาตั้งไว้ สวดศพตามประเพณีทุกอย่าง รวมทั้งจัดตกแต่งไฟ ดอกไม้ พวงหรีด จุดธูปเทียนคารวะศพ และบรรจุลงโลงโดยตั้งบำเพ็ญส่วนกุศลที่วัดและพระสวดพระอภิธรรมสวดมาติกาบังสุกุลให้กับผู้ตายเหมือนงานศพคนตายโดยคนทั่วไป หลังจากนั้นก็จะได้ทำการนำศพเข้าบรรจุเมรุที่สร้างขึ้นใหม่และจะได้ทำการฌาปนกิจหรือเผา
การกระทำเช่นนี้เพราะเป็นความเชื่อของชาวบ้านมาแต่โบราณว่า หากสร้างเมรุหลังใหม่เสร็จก่อนที่จะทำการเปิดใช้เผาจริงก็ต้องให้มีการเผาหลอกก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย เรียกขวัญให้ชาวบ้านชาวบ้านจะได้อยู่เย็นเป็นสุขและไม่ให้เกิดอาถรรพ์ เป็นสิริมงคลแก่ชาวบ้านโดยทั่วไป เป็นที่สนใจของชาวบ้านไม่น้อยที่จะส่องดูเลขฝาโลงของยายกล้วยเพื่อที่จะนำไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ และเลขฝาโลงของยายกล้วยคือ 726
สอบถาม น.ส.นงนภัส แม่งานเจ้าของพิธีเล่าว่า พิธีนี้เป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณกาล ตามความเชื่อว่าเมื่อมีเมรุใหม่เปิดเตาใหม่ก็จะต้องทำพิธีเผาหลอก เหตุที่ต้องใช้กล้วยตานีเพราะต้นกล้วยเปรียบเหมือนเทพนารีขึ้นสวรรค์เลยเพราะไม่ได้ทำบาปทำกรรม และต้นกล้วยมีน้ำถือเป็นการทดลองเตาใหม่เมื่อเผาก็จะคล้ายกับเลือดเนื้อของมนุษย์ และต้นกล้วยก็จะต้องใช้ต้นกล้วยที่ยังไม่มีลูกยังไม่ตกเครือ หากว่าใช้ต้นกล้วยที่มีลูกที่ตกเครือก็จะถือว่าต้นนั้นจะตายทั้งกลม โดยต้นจะต้องอวบสมบูรณ์ดี มีกิ่งก้านสวยคล้ายร่างกายมนุษย์ พิธีนี้มีมาแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยเชื่อกันว่าผู้ที่ได้ร่วมทำพิธีก็จะเหมือนการสะเดาะเคราะห์ โดยจะมีการเขียนจดหมายฝากไปกับยายกล้วยหลังไปสวรรค์ ขอให้ผู้ที่ร่วมพิธีโชคดีคนในหมู่บ้านมีแต่ความสุขไม่มีอาถรรพ์ใดๆ เกิดขึ้นในหมู่บ้าน
