ฆาตกรรมหมู่ 6 ศพชาวเวียดนาม คาดเลียนแบบคดี แอม ไซยาไนด์

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

อดีตหน.อาจารย์วิชาอาชญาวิทยา ตั้งข้อสังเกต ฆาตกรรมหมู่ 6 ศพชาวเวียดนาม เลียนแบบคดี แอม ไซยาไนด์-ฆาตกรรมต่อเนื่อง 13 ศพในเวียดนาม 

จากกรณีพบ ผู้เสียชีวิตเป็น ชาวเวียดนาม 6 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 รายถือสัญชาติอเมริกัน ภายในห้องพักโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพฯ ถูกวางยาไซยาไนด์จาก 1 ใน 6 ของผู้เสียชีวิต เป็นผู้กระทำการวางยาทั้งหมด สาเหตุมาจากปมหนี้สิน 10 ล้านบาท ที่ชักชวนมาลงทุน แต่กลับไม่มีการดำเนินการจริงๆ  ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ต่อมาวันที่ 18 ก.ค. 67 ศาสตราจารย์ พล.ต.ท.พิศาล มุขแจ้ง อดีตหัวหน้าอาจารย์วิชาอาชญาวิทยา โรงเรียนนายร้อยสามพราน วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความสมเหตุสมผลในคดีนี้ว่า ตัวผู้ก่อเหตุน่าจะจงใจ หรือเจตนาฆ่าผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงตัวเองนั้นอาจจะต้องการให้หนี้สินทุกอย่างจบลงที่ตัวเขา ไม่ต้องการหนี้ตกไปถึงทายาท 

ส่วนเรื่องการใช้สารพิษ ไซยาไนด์ในเครื่องดื่มนั้น คนเวียดนามรู้จัก ไซยาไนด์ เหมือนกับคนไทย และรู้จักมานานแล้ว รู้จักเป็นอย่างดี อย่างกรณีของคนไทยนั้น เคยมีคดี แอม ไซยาไนด์ ดังนั้น คนไทยจะรู้ดีว่า หากมีการวางยาฆาตกรรม จะมีการใช้ ไซยาไนด์ และ ไซยาไนด์ยังมีขายและหาซื้อได้ง่ายในอินเทอร์เน็ต 

ศาสตราจารย์ พล.ต.ท.พิศาล กล่าวต่อว่า คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเคยเรียนรู้วิธีนี้ จากเคสที่เกิดขึ้นในเวียดนาม โดยมีฆาตกรรมต่อเนื่อง 13 ศพ ในช่วงหลายปีก่อน ซึ่งพฤติกรรมไม่แตกต่างจากคดี แอม ไซยาไนด์เลย มีมูลเหตุจูงใจ และพฤติกรรมคล้ายกัน 

ซึ่งการใช้ยาพิษ ไซยาไนด์ คือการเรียนรู้พฤติกรรมอาชญากร แผนประทุษกรรมของคนร้ายที่เร็วและได้ผล ตามลักษณะนิสัยของคนเวียดนามแล้วคนเวียดนามจะมีความเป็นอัตลักษณ์อย่างหนึ่ง คือจะมีหัวจิตหัวใจที่เด็ดเดี่ยวและที่ผ่านมา เคยมีรายงานของ FBI เกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในชุมชนเวียดนาม ที่สหรัฐฯ พบว่า สถิติการก่ออาชญากรรม และใช้ความรุนแรงสูงกว่าชุมชนประเทศอื่นๆ ในคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ส่วนหนึ่งเพราะเขาผ่านสงครามมาเยอะ ผ่านประสบการณ์การต่อสู้ ยากลำบาก และอาจจะเคยเห็นการสังหารหมู่ 

ศาสตราจารย์ พล.ต.ท.พิศาล ยังกล่าวอีกว่าการแถลงข่าวของตำรวจเป็นเพียงการแถลงข่าวเบื้องต้นเท่านั้น แต่หลังจากนี้ คงต้องมีการพิสูจน์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ เช่น

- ในกระเพาะอาหาร นอกจาก ไซยาไนด์นั้น มีสารพิษตัวอื่นร่วมด้วยหรือไม่

- มีเหตุหรือปัจจัยอื่น ที่ทำให้ตายอีกหรือไม่

- แต่ละคนมีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่ ต้องชัดมากกว่านี้ เกี่ยวข้องกันอย่างไร

- หามูลเหตุจูงใจอื่นอีก นอกจากเรื่องหนี้สิน

- ทำไมต้องโรงแรมใหญ่ กลางใจเมืองไทย ใกล้ สตช. 

ศาสตราจารย์ พล.ต.ท.พิศาล กล่าวต่อว่า นี่คือเรื่องแปลกมากอย่างหนึ่งในความรู้สึก เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโรงแรมนี้ หรูหราขนาดนี้ เพราะถ้าเป็นคนเวียดนามทั่วไป หรือนักท่องเที่ยวทั่วไป จะไม่เลือกพักโรงแรมนี้ คนที่พักโรงแรมหรูระดับนี้ได้ ต้องเป็นคนที่ร่ำรวยมากๆ เศรษฐีชาวอเมริกัน คนที่ทำธุรกิจใหญ่โต หรือคนที่มีเงินเหลือเยอะมากๆ 

ศาสตราจารย์ พล.ต.ท.พิศาล ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคดีนี้เกี่ยวกับการเข้าออกประเทศของหญิงรายหนึ่งที่มีการเข้า-ออก ประเทศไทย ถึง 17 ครั้งนั้น การเข้าออกแต่ละครั้งเป็นอย่างไร หากมีธุรกิจในประเทศไทย การเข้าออกในประเทศก็คงไม่แปลก แต่ถ้าไม่มีถือว่าเป็นเรื่องผิดสังเกต  ทำไมถึงเลือกลงมือก่อเหตุในช่วงที่กำลังจะ เช็กเอาท์มีการรวมกระเป๋ากันแล้ว นี่ก็คือเรื่องที่น่าฉุกคิดว่าเรื่องน่าจะเคลียร์กันได้แล้ว แต่เหตุใดถึงเลือกลงมืออีก ซึ่งจากข้อมูล คือทุกคนเคยมารวมกันที่ห้องนี้แล้วรอบหนึ่ง เหตุใดไม่ฆ่ากันตอนนั้น แต่กลับเลือกฆ่าตอนกำลังจะแยกย้าย