หลายคนรู้จัก “เชอรีน ณัฐจารี” จากการเป็นน้องสาวของศิลปินดังอย่าง “นิชคุณ” หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์เกาหลีใต้ อย่าง 2PM ขณะเดียวกัน เธอก็สร้างชื่อให้ตนเองได้สำเร็จเช่นกันในฐานะ “เชอรีน The Star 9”
“เชอรีน” เกิดวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2537 ปัจจุบันอายุ 29 ปี มีพี่น้องทั้งหมด 4 คนคือ ฌาน ณิชฌาน, คุณ นิชคุณ, ญาณิน นิธิกานต์ และเชอรีนเป็นน้องสาวคนเล็ก
จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนตั้งพิรุฬห์ธรรม ระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล และระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผลงานในวงการบันเทิง เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 9 โดยเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย มีผลงานโฆษณา ถ่ายแบบ แสดงละครซีรีส์ เรื่อง เซน … สื่อรักสื่อวิญญาณ ตอน เงาของแม่ ละครเวที เช่น ปริศนา เดอะมิวสิคัล และ ออดิชั่น วันฝันตื่น ผลงานภาพยนตร์ Bangkok Dark Tales บางกอก สยอง ผลงานเพลง บอกตรงๆ รักจังเลย, รอเธอเปิด (เพลงประกอบซีรีส์ "สงครามไฮสคูล")
บนเส้นทางชีวิตที่เป็นดั่งดวงดาวดวงหนึ่งที่ประดับอยู่บนทำเนียบวงการบันเทิง “เชอรีน ณัฐจารี” เลือกชีวิตบนเส้นทางใหม่กับความฝันที่จะสร้างครอบครัว
โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 เจ้าตัวก็ได้ออกมาเซอร์ไพรส์แฟนคลับด้วยการประกาศข่าวดีว่าตนเองได้แต่งงานกับแฟนหนุ่มนอกวงการอย่าง “อัศม์กรณ์ สิงห์สีกรกุล” มาได้พักใหญ่แล้ว
ต่อมาวันที่ 2 ส.ค.2564 “เชอรีน” ก็ได้ออกมาประกาศข่าวดีอีกครั้งบนไอจีส่วนตัวว่า ตอนนี้กำลังตั้งท้อง เตรียมตัวเป็นว่าที่คุณแม่
กระทั่งวันที่ 18 พ.ค. 2567 “เชอรีน” ตัดสินใจแจ้งข่าวประกาศเลิกกับสามีนานแล้ว ตั้งแต่ ตุลาคมปี 2566
ล่าสุดวันนี้ 23 ก.ค. 2567 “เชอรีน” ตัดสินใจครั้งใหญ่อีกครั้ง กับการออกมายืนหน้าสปอร์ตไลท์ เผยเรื่องราวความเจ็บปวดเบื้องหลังชีวิตแต่งงาน ที่ถูกทำร้ายร่างกาย และถูกคุกคามส่งคนสะกดรอยตามต่อเนื่องแม้จะเลิกรากันไปแล้ว
ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า ตนถูกทำร้ายร่างกายมาทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งแรกฝ่ายชายมีอาการมึนเมาและทะเลาะกัน ตนถูกตบหน้าหลายครั้งจนปากแตก
“ครั้งแรกค่อนข้างรุนแรงมากเหมือนกัน แต่เหมือนครั้งสุดท้ายที่เขาตบเชอเกิน 10 ครั้ง ซึ่งเชอนอนอยู่บนเตียงแล้วเขานั่งอยู่ข้างๆ แล้วเขาโน้มตัวลงหาแล้วก็ตบมาที่หน้า เพื่อจะพยายามให้เชอตอบคำถามเขา และเชอก็ไม่ตอบ เพราะเคยตอบโต้ ที่ผ่านมา 3 ครั้ง เราก็รู้ว่ามันรุนแรงขึ้น ก็เลยอยู่เฉยๆ แล้วเขาก็ทำไปเรื่อยๆ”
สำหรับเหตุผลที่ไม่แจ้งความตั้งแต่ครั้งแรก เพราะอยากประคับประคองครอบครัว ไม่อยากให้เป็นข่าว และไม่อยากมีเรื่องมีราว กลัวกระทบถึงลูก
“จนกระทั่งถึงวันที่รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัยอีกต่อไป แล้วคิดว่าถ้าเกิดวันหนึ่งเราหายไป ก็จะไม่มีใครรู้ และจะอันตรายต่อตัวเองแล้วก็ลูก”
หลังจาก “เชอรีน” ก้าวออกมาจากชีวิตแต่งงานที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งทางกายและทางใจ เธอกลายเป็นคุณแม่ที่สตรองยิ่งกว่าในอดีต โดยฝ่ายอดีคสามีได้ยื่นคำขาดไว้ว่า ถ้าลูกอยู่กับ“เชอรีน” จะไม่มีการส่งเสียเงินใดๆ ซึ่งเธอก็ยินดีเพราะเธอเลี้ยงลูกเองได้ ต่อให้ตนเครียดและกลัวการออกไปข้างนอกเพราะถูกสะกดรอยตาม แต่ก็ยังออกไปทำงาน และพยายามเป็นแม่ที่สุขภาพจิตดี เพื่อที่จะเลี้ยงลูกให้ดีเหมือนกัน