สรุปดราม่า คัลแลน-พี่จอง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ "เกาะปันหยี" สะเทือนปากท้องชาวบ้าน

24 ก.ค. 67

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ "เกาะปันหยี" หลังชาวเน็ตรับไม่ได้ คัลแลน-พี่จอง ไปเที่ยวเจอแต่ข้าวของราคาแพง ด้าน รองนายก อบต.เกาะปันหยี ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด ค่าเรือ ค่าอาหาร ของฝากสร้อยหอยมุก น้อมรับคอมเมนต์วิจารณ์สร้างสรรค์ "ติเพื่อก่อ" แต่ในแง่ "หมิ่น" ชาวไทยมุสลิม เตรียมดำเนินการทางกฎหมาย

จุดเริ่มต้นดราม่า คัลแลน-พี่จอง เที่ยวเกาะปันหยี จ.พังงา ค่าเรือยันของฝาก ราคาจึ้ง

กรณีปมดราม่า เกาะปันหยี พี่จอง-คัลแลน ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ลงคลิป EP. พาพี่จองเดิน(หลง) เล่นรอบเกาะปันหยี แฟนๆ ที่ดูแล้วต่างสงสัยว่าของแพงเกินไปหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ค่าเรือ 1,000 บาท ตกคนละ 500 บาท แพงกว่าค่าแรงขั้นต่ำไปอีก หรือ ของฝากเป็นพวกเครื่องประดับ เปลือกหอยมุก แม่ค้าบอกราคา สร้อยข้อมือ 300 บาท เปลือกหอยมุก 500 บาท รวมราคาทั้งหมดแล้ว 800 บาท พอพี่จองถาม ลดได้ไหมครับ? กลับกลายเป็นว่า แม่ค้าเจ้าของร้านหยิบของให้เพิ่มแล้วพูดว่า "แถมให้" รวมเงินที่ต้องจ่ายทั้งสิ้น 1,000 บาท

จุดนี้แฟนๆ ต่างสงสัยว่า แถมให้แบบใดทำไมจ่ายแพงกว่าเดิม และดราม่ายิ่งโหมหนักขึ้น เมื่อมีสาวรายหนึ่งออกมาแชร์ประสบการณ์ไม่ประทับใจเมื่อครั้งไปเที่ยวเกาะปันหยี

1721794285479

1721794332170

ดราม่าของแพงเกินไปหรือไม่ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เกาะปันหยี

กระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ ตั้งข้อสังเกต "ของที่ระลึก" ราคานี้แพงเกินเหตุไปหรือไม่? และยังพบว่ามีการคอมเมนต์ไปต่างๆ นานา ในลักษณะของการขายของแพง ทั้งเรื่อง อาหาร ที่พัก ดราม่าร้อนฉ่านี้สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี และบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา

นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี เผยกับผู้สื่อข่าว อมรินทร์ทีวี ออนไลน์ ว่าตนเองเป็นผู้นำในพื้นที่หลังจากได้ทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจจึงรีบสอบถามข้อมูลทันที ซึ่งพบว่าในเรื่องของ

- ค่าเรือ 1,000 บาท พบว่าใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบเป็นการเหมาเรือไปส่งและไปรับกลับอีกวันหนึ่ง ซึ่งขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ซึ่งปกติถ้าตนเองใช้บริการเหมาเรือก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ ขณะราคากลางของทางราชการนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท จึงขอบอกว่าเป็นราคาปกติ

- ของฝากจากหอยมุก สอบถามจากคนขายพบว่า คนซื้อเลือก 2 ชิ้น 800 บาท และ อยากได้ของแถม จึงเพิ่มสร้อยข้อมืออีก 1 ชิ้น รวมราคา 1,100 บาท และลดเหลือ 1,000 บาท ไม่ได้มีการยัดเยียดขายแต่อย่างใด

สำหรับ เกาะปันหยี มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากว่า 70 ปี แต่ละวันจะมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคน ทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสมอมา ในเรื่องของกินต่างๆ ราคาไม่ต่างจากในเมือง 

"เราไม่อยากจะแก้ตัวหรือแก้ต่างกับกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ถือเป็นบทเรียนที่ พวกเรา ชาวเกาะปันหยี จะต้องทำอย่างไรต่อไป เราน้อมรับในกระแสข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริง และกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลก์ และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป"

นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี


นางยาวาเราะห์ ประสานพันธ์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด ชี้แจงในเรื่องของอาหารแพงนั้น ทางร้านอาหารส่วนใหญ่จะมีการแจ้งราคาไว้แล้ว ทั้งแบบรายหัวบุฟเฟ่ต์ หรือเมนูตามสั่ง ในส่วนของปลาแพงก็อาจจะเกี่ยวกับการสั่งปลาเป็นๆ ที่มีราคาสูงในกระชังขึ้นมาปรุงก็ได้

ยืนยันว่าทางร้านไม่มีการบวกราคาเพิ่มกับลูกค้า ขณะที่ร้านขายของฝากก็เป็นงานฝีมือ ซึ่งแต่ละร้านก็ตั้งราคากันเองและมีอยู่หลายร้านซึ่งผู้ซื้อผู้ขายต่อรองราคากันตามพอใจ จึงขอเรียกร้องให้โซเชียลหยุดการแชร์ และคอมเมนต์สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี เพราะหากกระทบต่อการท่องเที่ยวจะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบนเกาะที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมง

นางยาวาเราะห์ ประสานพันธ์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด

รู้จัก เกาะปันหยี จ.พังงา

เกาะปันหยี เป็นเกาะเล็ก ๆ มีที่ราบประมาณ 1 ไร่ มีบ้านเรือน 200 หลังคาเรือน ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีอาชีพประมงเป็นหลัก

บรรพบุรุษของชาวเกาะปันหยี เป็นชาวชวาจำนวน 3 ครอบครัว อพยพจากอินโดนีเซียโดยเรือใบ 3 ลำ เมื่อปลายศตวรรษที่ 18 และตกลงกันว่าหากพบพื้นที่เหมาะสมแล้ว ให้ปักธงเป็นสัญลักษณ์ไว้ คำว่า "ปันหยี" (Pulau Panji) แปลว่า "ธง" เมื่อมาตั้งถิ่นฐานบนเกาะแห่งนี้แล้ว ก็ได้ดำเนินวิถีชีวิตอยู่ภายใต้บริบทวัฒนธรรมอิสลามมานานกว่า 300 ปี

เกาะปันหยี จ.พังงา ธรรมชาติท้องทะเลได้เอื้ออำนวยต่อการทำประมงน้ำตื้น เลี้ยงหอยแครง เลี้ยงปลาในกระชัง เป็นรายได้หลักของชาวบ้าน
และเมื่อความสะดวกด้านการเดินทางมีมากขึ้น นักเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างอยากมาที่นี่เพื่อมาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ รวมถึงวิถีชีวิต "ชุมชนมุสลิมกลางทะเลแหล่งเดียวในโลก" ทำให้ชาวบ้านหันมาประกอบอาชีพเสริม เป็นรายได้อีกทาง

โดยมีทั้ง ร้านอาหาร รับจ้างขับเรือ และขายสินค้าที่ระลึก ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลตากแห้งและแปรรูป อีกทั้งเกาะปันหยี ยังเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับที่ทำจากหอยมุกที่มีชื่อเสียงมาก จึงสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างดีในช่วงปลอดมรสุม

เกาะปันหยี จ.พังงา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม