หญิงหน่อย ชี้ ทักษิณ อำนาจล้น เป็นซุปเปอร์นายกฯ ที่เศรษฐาต้องฟัง

1 ส.ค. 67

 

หญิงหน่อย ชี้ ทักษิณ อำนาจล้น เป็นซุปเปอร์นายกฯ ผู้มีอำนาจสูงสุดที่เศรษฐาต้องฟัง มั่นใจพ้นโทษกลับมาช่วยพรรค-รัฐบาลเต็มที่ 

วันที่ 1 ส.ค. 67 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ “อมรินทร์ทีวี ออนไลน์” ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า “หลังจากนี้จะเห็นผลงานรัฐบาลมากขึ้น”ว่า 

เรื่องนี้ยังไม่ชัดว่านายทักษิณจะผลักอะไร แต่พรรคเพื่อไทยเสียฟอร์ม เพราะแต่ก่อนสมัยเป็นพรรคไทยรักไทย คิดใหญ่ทำเป็นจริง แต่ครั้งนี้กลายเป็นคิดไป ทำไป แก้ไป และแก้ไม่ตรงจุด ตนไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรมาสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หลายโครงการที่ออกมายังไม่สามารถช่วยคนชั้นกลางลงไปถึงรากหญ้าให้ฟื้น แต่สิ่งที่นายทักษิณพูดถูก ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้สอน และตนได้จำมาใช้ตลอด คือต้องสร้างความมั่นใจ แต่รัฐบาลนี้ไม่สามารถทำได้ 

เริ่มจากการเมืองที่ข้ามขั้วไม่รักษาคำพูด ถือเป็นจุดยืนทางการเมืองที่หมุน 360 องศา  เรื่องของนโยบายที่ไม่สามารถรักษาคำพูดตามสัญญา ผลงานไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะเป็นเหมือนในยุคไทยรักไทย แต่เราจะยินดีปรีเปรมหากนายทักษิณพูดว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศ และคนรากหญ้าได้ เพราะขณะนี้เสมือนเดินลงสู่ขุมนรก หนี้ท่วมหัว ชักหน้าไม่ถึงหลังและบ้านรถกำลังจะถูกยึด 

ส่วนที่เดือน ส.ค.นี้ นายทักษิณจะพ้นโทษ หลังจากนี้จะมีบทบาททางการเมือง และเข้ามาช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยอย่างไรนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สำหรับนายทักษิณจะกลับมามีบทบาทหรือไม่นั้น ไม่ใช่ที่ตนมองแต่สะท้อนจากคำพูดของเขาที่ประกาศจะกลับมาช่วยพรรค และรัฐบาลอย่างเต็มที่ ผลงานจะทยอยออกมาให้เห็น ซึ่งตนเชื่อตามคำพูดว่าจะกลับมาช่วยงานรัฐบาลหรือพรรคอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันผลงาน ซึ่งอาจจะรู้สึกเหมือนหลายคนว่า หนึ่งปีที่ผ่านมาไม่มีผลงานออกมา แล้วเขาเป็นคนทำงานเร็ว ดังนั้นหลังจากพ้นโทษคงจะลงมาช่วยอย่างเต็มตัว และตนคิดว่าคงไม่รับตำแหน่งใด เพราะหากรับอาจถูกตีความกฎหมาย ดังนั้น คงไม่เสี่ยงเพราะอยู่แบบนี้ก็ใหญ่ และการจะให้เดินเข้าทำเนียบพร้อมกันระหว่างนายเศรษฐา กับนายทักษิณ ก็ประเมินดูเองว่านักข่าวจะวิ่งหาใคร 

ส่วนการมาของนายทักษิณ จะทำให้งานรัฐบาลดีขึ้นหรือไม่นั้น ตนไม่รู้ว่านายเศรษฐา จะฟังนายทักษิณแค่ไหน และหากฟังแล้วทำได้แค่ไหน เพราะต้องฟังด้วยและต้องเข้าใจกลไกของรัฐ นายเศรษฐาอาจจะเก่งเรื่องธุรกิจ แต่เราจะเห็นจากหนึ่งปีที่ผ่านมา เรื่องของระบบการเมืองและรัฐราชการไม่ค่อยรู้ จึงได้เห็นการสัมภาษณ์และเข้าตัว รวมถึงเสี่ยงต่อกฎหมายหลายครั้ง ดังนั้นขึ้นอยู่กับสองปัจจัยว่านายเศรษฐาจะฟังหรือไม่และมีความสามารถที่จะดีลเลอร์งานหรือไม่ และหากเกิดทำไม่ได้ขึ้นมา หากเป็นนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายทักษิณคงจะทำงานได้เต็มที่มากกว่า 

นอกจากนี้ สิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ บอกว่านายทักษิณไม่มีอำนาจแล้วนั้น ตนขอมองต่างและมองว่าขณะนี้อำนาจมีเยอะมาก และนายทักษิณคือศูนย์กลางอำนาจของประเทศ ส่วนสส. รู้สึกอึดอัดหรือไม่คงมีบ้าง เพราะเคยพูดคุยสส. บางคนเพราะเคยช่วยหาเสียง ซึ่งได้ยินเสียงบ่นอึดอัด เพราะบางคนเป็น สส. มา 8-9 สมัย ประธาน กมธ. บางครั้งยังไม่ได้ ส่วนจะมีการรวมตัวยกไปคุยกับพรรคอื่นๆ หรือไม่นั้นเรื่องนี้ตนไม่ทราบ 

หลังจากที่ได้สะท้อนคำพูดของนายทักษิณ จะถือว่าเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ที่ก่อนหน้านี้บอกจะกลับประเทศมาเลี้ยงหลาน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นายทักษิณเป็นคนขยันขยัน อยู่นิ่งไม่ได้ ดังนั้นเมื่อมีอำนาจล้นฟ้า มีอำนาจสูงที่สุดในประเทศ ดังนั้นย่อมอยากทำงาน และตนไม่อยากใช้คำว่ากลืนน้ำลายตัวเอง เพราะเหตุการณ์อาจจะมีความเปลี่ยนแปลง โดยขณะนั้นอาจจะอยากกลับมาอยู่สงบสุขแต่เมื่อมาถึงมีอำนาจมหาศาลและสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างและขณะนี้ประเทศมีปัญหารัฐบาลทำงานไม่ได้งานไม่ออกซึ่งตามประสาคนขยันอาจจะรู้สึกคันไม้คันมือจึงอยากลงไปทำเอง โดยนิสัยนายทักษิณ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่แปลก 

ส่วนที่มองว่านายทักษิณ มีอำนาจล้นมือ เขาอาจเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า แน่นอน ตนขอเรียกว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดที่นายกรัฐมนตรีต้องฟัง ซึ่งหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นนโยบาย หรือที่นายเศรษฐากำลังโดนคดีคงไม่ได้มาจากเขาเอง ซึ่งนายเศรษฐาต้องฟังผู้มีอำนาจเหนือกว่า หรือเรียกได้ว่า “ซุปเปอร์นายกฯ”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม