วันที่ 11 มี.ค. 63 ที่บ้านเลขที่ 101/2 บ้านเกาะเคี่ยม หมู่ที่ 4 ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง นางสมพร เตะเส็น อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมลูกหลาน ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านกว่า 10 คน ช่วยกันยกก้อนหินน้ำหนัก 180 กิโลกรัม ความสูงเกือบ 80 เซนติเมตร ไปลอยในทะเล ห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร เพื่อเป็นการทำความสะอาดและต้องการพิสูจน์ให้ชาวบ้านได้เห็นว่าก้อนหินประหลาดลอยน้ำได้ ซึ่งลอยอยู่กลางทะเลเมื่อปี 2549 แม้เวลาจะผ่านมานานเกือบ 14 ปีแล้ว
ซึ่งก้อนหินก้อนดังกล่าว นายเริงศักดิ์ มิเละ อายุ 43 ปี สามีของนางสมพรพบลอยอยู่ในทะเล โดยมีงูจงอางความยาวกว่า 4 เมตรนอนขดอยู่บนก้อนหิน ครั้งแรกก็ไม่สนใจ แต่พอกลับมาบ้านนางสมพร ฝันว่ามีคนให้เอามาเก็บรักษาไว้ เพราะเป็นของดีที่หายาก นายเริงศักดิ์จึงชวนเพื่อน ๆ ออกเรือไปหา เมื่อยกมือไหว้งูจงอางตัวดังกล่าวก็ได้เลื้อยหายไป แต่เมื่อจะกลับขึ้นฝั่ง ต้องใช้แรงคน 7-8 คนยกขึ้นมา โดยนำมาบูชาไว้ภายในบ้าน ซึ่ง 14 ปีที่ผ่านมา ได้พาไปลอยน้ำเพียง 1 ครั้ง แต่หลังจากนี้ต่อไปตั้งใจว่า จะนำก้อนหินก้อนนี้ไปลอยน้ำให้ได้ทุกปี ตามที่ได้ฝันเห็นโต๊ะอิหม่าม ขอให้ตนพาก้อนหินท่านไปอาบน้ำทะเลให้ได้ปีละครั้ง
สำหรับก้อนหินก้อนนี้ เคยมีนักธรณีวิทยามาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นหินอุกกาบาต ที่มีลักษณะเป็นมันวาว ผิวหยาบและมีรูพรุนจำนวนมาก แต่แปลกที่หนักอึ้งเกือบ 200 กิโลกรัมและพบเพียงก้อนเดียว โดยตกลงมาเป็นทางยาว ทำให้ต้นไม้ในบริเวณดังกล่าวไหม้เกรียม ก่อนชาวบ้านจะไปพบลอยน้ำอยู่ ซึ่งตามความเชื่อถือว่าหินอุกกาบาตมีความเข้มขลัง สามารถป้องกันศัตรู แคล้วคลาด และให้โชคลาภกับผู้บูชาได้
นางสมพร ยอมรับว่า ตนมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก หลังนำอุกกาบาตก้อนนี้กลับมาบูชา และไม่เคยคิดจะขาย แม้จะมีคนมาขอซื้อในราคาหลักล้านก็ตาม ส่วนชาวบ้านหลังทราบข่าวว่าจะมีการนำหินอุกกาบาตไปลอยทะเลเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 14 ปี ต่างก็พากันมาช่วยยกก้อนหินดังกล่าวไปอาบน้ำพร้อมเช็ดถู และลูบคลำเผื่อจะมีโชคลาภในงวดต่อไป ซึ่งเมื่อนำขึ้นจากน้ำเค็มแล้วก็นำมาล้างน้ำจืด ก่อนจะประพรมน้ำหอมและทาแป้งให้เย็นชื่นใจ
"ทุกคนเชื่อเหมือนกันว่าเป็นของแปลก และจะมาให้โชคให้ลาภ เพราะชีวิตมีแต่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหินก้อนนี้เคยมาเข้าฝัน ขอของกิน ขอแป้ง และของสวย ๆ งาม ๆ โดยหลังจากนี้จะพาอาบน้ำทุกปีแล้ว" นางสมพร กล่าว