ตำนานความรัก ชรินทร์-เพชรา เมื่อ หยาดเพชร ร่วงลงกลางใจกลายเป็น รักแท้
ตำนานความรัก ชรินทร์ นันทนาคร และ เพชรา เชาวราษฎร์ เมื่อ หยาดเพชร ร่วงลงกลางใจกลายเป็น รักแท้
คอนเทนต์แนะนำ
"เปรียบเธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า
หยาดเพชรเกล็ดแก้วแววฟ้า
ร่วงมาจากฟ้าหรือไรหยาดมาแล้วอย่าช้ำโศก
ปล่อยคนทั้งโลกร้องไห้
หยาดเพชรเกล็ดแก้วผ่องใส
นั้นอยู่ไกลเกินผูกพันแม้ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมาฟ้าคงไหวหวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้าโศกศัลย์
มิอาจกั้นน้ำตาอาลัยเอื้อมมือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอรักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาดเพชรหยาดละอองผ่องใส
แม้อยู่ในความมืดมน"
บทเพลงรักอมตะ "หยาดเพชร" ที่แม้จะผ่านมานานเกือบ 60 ปี แต่ก็ยังคงขับขานอยู่ในหัวใจของคนไทยแบบไม่เคยเลือนหายไปกับกาลเวลา เฉกเช่นเดียวกับความรักของ "ชรินทร์ นันทนาคร" ที่มอบให้กับ "เพชรา เชาวราษฎร์" หญิงผู้เป็นที่รัก ที่ไม่เคยจางหาย และผ่านบทพิสูจน์มากมายจนทุกคนต่างบอกว่านี่คือ "รักแท้"
หยาดเพชร เป็นเพลงแนวลูกกรุง ขับร้องโดย "ชรินทร์ นันทนาคร" แต่งคำร้องโดย "ชาลี อินทรวิจิตร" และทำนองโดย "สมาน กาญจนะผลิน" เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "เงิน เงิน เงิน" ที่ออกฉายในปีพุทธศักราช 2508 นำแสดงโดยคู่ขวัญจอเงินในยุคนั้นอย่าง มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์
ชาลี อินทรวิจิตร ผู้แต่งเคยเปิดเผยว่า เพลงนี้มีที่มาจาก เพชรา เชาวราษฎร์ นางเอกสาวเจ้าของฉายา "นัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง" เนื่องจากมีดวงตาที่กลมโต สวยหวานปานน้ำผึ้งจนติดตาตรึงใจแฟนหนังทั้งประเทศ และ ชรินทร์ นันทนาคร ก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบความงามและนิสัย น้ำใจไมตรี ของเพื่อนนักแสดงร่วมจอที่เขามารับบทเป็นพระรองในหนัง เงิน เงิน เงิน จนเอ่ยปากขอร้องให้ ชาลี แต่งเพลงนี้เพื่อจีบ เพชรา ซึ่งชาลีทนการขอร้องไม่ไหวจึงเขียนเพลงนี้ขึ้นมา แล้วเดินไปกระซิบข้างหูชรินทร์ก่อนเข้าห้องอัดว่า "ร้องให้ดีนะ ร้องแล้วคงรู้ว่าผมหมายถึงใคร" ก่อนที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ จะประทานชื่อเพลงนี้ให้ว่า "หยาดเพชร"
เส้นทางความรักของทั้งคู่นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต้องเผชิญข่าวลือต่างๆ มากมาย รวมทั้งต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้สื่อมวลชนหรือแฟนหนังรับรู้ แต่ทั้งคู่ก็ประคับประคองกันฝ่าฟันมาได้ จนกระทั่งได้แต่งงานกันในปีพุทธศักราช 2518 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการเป็น "ราชินีจอเงิน" เนื่องจากเพชราประสบปัญหาทางด้านสายตาตั้งแต่ปี 2513 ปีเดียวกับที่พระเอกคู่ขวัญ มิตร ชัยบัญชา เสียชีวิต แต่เธอยังกัดฟันต่อความเจ็บปวดแสดงภาพยนตร์มาอีกหลายปี ก่อนจะตัดสินใจแสดงภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ ไอ้ขุนทอง ที่เธอเป็นผู้อำนวยการสร้าง ออกฉายเมื่อปี 2521
หลังจากนั้นนางเอกสาวผู้สร้างความสว่างไสวในใจของประชาชนมายาวนาน ก็จำต้องก้าวลงจากบัลลังก์เข้าสู่โลกที่ค่อยๆ มืดมนอย่างเงียบๆ โดยมี ชรินทร์ นันทนาคร คู่ชีวิตเจ้าของเสียงร้องเพลง “หยาดเพชร” เพลงที่กลายเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ คอยดูแลอยู่เคียงข้างไม่ห่าง ซึ่ง "ชรินทร์ " ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ในอดีต วันที่ทราบข่าว ในงานเลี้ยงฉลอง ร่วมแสดงความยินดี เพชรา เชาวราษฎร์ ได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาภาพยนตร์ ประจำปี พ.ศ. 2561 ว่า
"เหตุการณ์ในวันนั้น เพชรา เดินเข้ามากอดผมและร้องไห้
พร้อมบอกว่า ฉันมองไม่เห็นแล้ว
ผมบอกกับเธอว่า เธอจำไว้อย่าง เป็นยังไงฉันก็จะไม่ทิ้งเธอ"
ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ทั้งคู่ต่างไม่เคยทอดทิ้งกัน แม้แฟนภาพยนตร์ชาวไทยจะไม่ได้เห็นการปรากฏตัวสู่สาธารณะของนางเอกยอดนิยมตลอดกาลนานหลายสิบปี แต่ทุกคนก็จะได้รับรู้และซาบซึ้งถึงความรักที่ไม่เสื่อมคลาย เช่นในคอนเสิร์ตเมื่อปี 2541 ชรินทร์ นันทนาคร ได้กล่าวถึงบทเพลง "หยาดเพชร" บนเวทีว่า
"ผมร้องเพลงๆ นี้ให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง
ตั้งแต่วันที่เธอได้รับฉายาว่า ผู้หญิงนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง
จนวันนี้ ไม่มีแสงสว่างในดวงตาของเธออีกต่อไปแล้ว
ผมก็ยังร้องเพลงให้กับผู้หญิงคนนี้ฟัง"
นับตั้งแต่เข้าพิธีวิวาห์ในปี 2518 จนกระทั่งภรรยาเข้าสู่โลกของความมืด และเขากลายเป็นดวงตาของเธอ จวบจนถึงช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต ชรินทร์ นันทนาคร ที่จากไปด้วยโรคชราในวัย 91 ปี ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกได้ว่า เพชรา คือ "หยาดเพชร" ที่ร่วงหล่นจากฟ้ามาสู่กลางใจของเขา ก่อเป็นความรักที่ส่องประกายฉายแสงท่ามกลางความมืดมนตลอดมาและตลอดไป
Advertisement
