สุโขทัย เตรียมรับน้ำเหนือจากแพร่ คาดพีกสุดคืนนี้ เร่งบรรจุกระสอบทราย เตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ บริหารจัดการน้ำตามเกณฑ์
วันที่ 24 ส.ค. 67 สำหรับสถานการณ์น้ำ ที่จ.สุโขทัย ยังคงต้องเฝ้าระวังมวลน้ำจากบริเวณ จ.แพร่ และตอนบนของจ จ.สุโขทัย ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ อ.ศรีสัชนาลัย จุดวัดน้ำ Y14 A ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,088 ลบ.เมตรต่อวินาที มีการบริหารจัดการน้ำที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก ซึ่งประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ คือปัจจัยหลักที่จะชี้วัดว่าน้ำจะท่วมตัวเมืองสุโขทัยมากน้อยเพียงใด
เนื่องจากประตูระบายน้ำแห่งนี้ทำหน้าที่กันแม่น้ำยม และบริหารจัดการน้ำ เพื่อผันน้ำออกไปตามคลองต่างๆ ทั้งฝั่งซ้าย ฝั่งขวา ก่อนจะปล่อยตรงลงมายังเมืองสุโขทัย
โดยในวันนี้เปิดประตูระบายน้ำ 5 บานสูง 2.50 เมตร ปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน 645 ลบ.ม.ต่อวินาทีทำให้ อ.สวรรคโลก และอ.ศรีสำโรง ที่จัดการปริมาณน้ำให้ไหลผ่านได้ไม่เกิน 700 ลบ.เมตรต่อวินาที และระดับน้ำ ณ Y 4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยอยู่ที่ 7.66 ม. สูงขึ้นต่อเนื่องปริมาณน้ำไหลผ่าน 440ลบ.ม.ต่อวินาที
นายโสภัญญ์ ศรีสว่างวรกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุโขทัย ระบุว่า แม่น้ำยมที่ไหลมาจาก จ.แพร่ มีปริมาณมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา คาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้น และอาจล้นตลิ่งภายในคืนนี้ และให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในปีที่ผ่านมา เช่น บริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ หน้าวัดวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง พบว่ามีการเรียงกระสอบทราย พร้อมปูผ้ายางป้องกันการกัดเซาะอย่างแข็งแรง
ส่วนพื้นที่หมู่ 9 ต.ยางซ้าย และพื้นที่หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้มีการเตรียมความพร้อมแล้วเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยยังคงไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการขนย้ายข้าวของพาหนะ และสิ่งจำเป็นไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจบริเวณตัวเมืองสุโขทัย โดยหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะมีการบูรณาการในการบริหารจัดการน้ำร่วมกันอย่างเคร่งครัดเร่งด่วน และมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ที่บริเวณสะพานพระแม่ย่า อ.เมืองสุโขทัย นายสมศักดิ์ เวชสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี เร่งประสานชลประทานนำบิ๊กแบ๊กวางสองฝั่งสะพานพระแม่ย่า ระยะทาง 35 เมตร เพื่อเปิดเป็นทางน้ำให้มวลน้ำจากแม่น้ำยมที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นไหลผ่านผิวสะพาน ซึ่งคาดว่ามวลน้ำก้อนนี้จะมาถึงในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ส.ค. และเป็นการเตรียมการณ์เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านผิวสะพานสูงถึง 2 ฟุต
ส่วนการกั้นสองฝั่งของสะพานนั้น เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ในการเรียงบิ๊กแบ๊กนั้น ทีมช่างเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีร่วมกับชลประทานจังหวัดสุโขทัยวางเรียงบิ๊กแบ๊กด้านละ 10-15 ลูก จากนั้นปูทับด้วยไวนิลขนาดใหญ่ และใช้กระสอบทรายปิดทับทั้งด้านข้าง และด้านบน เพื่อสร้างเป็นผนังกั้นน้ำเสริมจากผิวสะพานสูง 1 เมตร 50 เซนติเมตร คาดว่าจะสามารถเสริมให้น้ำไหลลงด้านท้ายของแม่น้ำได้ ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีน้ำไหลผ่านสะพานพระแม่ย่าแล้ว
คาดว่ามวลน้ำจากแพร่จะเดินทางมาถึง Y 14 A อ.ศรีสัชนาลัยเย็นนี้ ความเร็วน้ำ 1,450ลบ.ม.ต่อวินาที และจะเดินทางมาถึงประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์คืนนี้ ซึ่งจุดนี้จะทำการหน่วงน้ำไว้ก่อนจะผันน้ำออกไปยังฝั่งขวาลงยม-น่านและผันลงมายัง อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และอ.เมืองในเที่ยงวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.)
