นายกฯอิ๊งค์ ยันเร่งเครื่องทำงานแข่งกับเวลา ต่อยอดนโยบายเศรษฐา อยากทำงานครบ 3 ปี โอดไม่อยากมีคดี ลูกยังเล็ก ลั่นไม่ขอตอบเรื่องทักษิณแล้ว ย้ำชัดแจกเงินหมื่นมีแน่ตามไทม์ไลน์
เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 7 ก.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษว่า
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ตนและคณะรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า ขอให้พรด้วยความยินดีให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน นับเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของตนและคณะรัฐมนตรี เราจะน้อมนำพระราชดำรัสมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ตนและคณะรัฐมนตรีพร้อมที่จะทำงาน เพื่อประเทศอย่างเต็มที่ เราจะทำงานแข่งกับเวลาในทุกนาทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราคือตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ทั้งประเทศ เรามาจากหลากหลายพรรคการเมืองหลายที่แต่เราจะใช้ความหลากหลายนี้ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน เราจะใช้ความหลากหลายให้เป็นจุดแข็งให้รู้ปัญหาที่แท้จริงและสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และทันเวลา
ตนมั่นใจว่าตนจะสามารถประสานพลังของทุกคนให้มีพลังที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ และจะทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคนโอกาส คือสิ่งที่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ ตนและคณะรัฐมนตรีขอยืนยันว่าเราจะทำให้สิ่งนี้ เข้าถึงพี่น้องคนไทยอย่างเท่าเทียม วันนี้ตน คณะรัฐมนตรีและข้าราชการทุกภาคส่วนพร้อมทำงานอย่างแน่วแน่มั่นคง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน และในวันนี้ก็พร้อมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่า พวกเราพร้อมที่จะทำงานกันเป็นทีม และสร้างโอกาสเท่าเทียมให้กับประชาชนทุกคน เราจะไม่เริ่มพรุ่งนี้ แต่เราจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ได้มีการแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทุกท่านทราบว่า จะต้องเตรียมการตอบคำถาม และการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงช่วยสื่อสารนโยบายที่แต่ละรัฐมนตรีรับผิดชอบ เพื่อให้ข้าราชการและประชาชนสามารถเข้าใจนโยบายรัฐบาลได้ชัดเจนมากขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วนโยบายที่จะแถลงก็เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องมาจากสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และเรารับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองทุกพรรคว่ามีความเห็นอย่างไรในการแถลงนโยบาย ก็มีการปรับแก้กันเพื่อนำข้อคอมเมนต์ต่างๆ ไปปรับให้เข้ากับสถานการณ์ และเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ทุกวันนี้ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาเรื้อรัง และท้าทายเราจะนำปัญหาต่างๆ มาแก้ไขอย่างเร่งด่วน และมีนโยบาย ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยนโยบายเร่งด่วน เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การช่วยเหลือเอสเอ็มอี กระตุ้นเศรษฐกิจ และการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ส่วนนโยบายระยะกลาง และระยะยาวจะต่อยอด เช่น การต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม การเสริมสร้างด้านการสร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานทางสังคมคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน ส่วนรายละเอียดขอให้ติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 12 -13 ก.ย. นี้
ขอให้คณะรัฐมนตรีทุกคนดำเนินการงานต่อเนื่องของอดีตนายกเศรษฐา โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเน้นย้ำมาตลอด และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวที่จะส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบของเราได้ ส่วนการดูแลสินค้าเกษตรก็ยังอยู่ในสิ่งสำคัญที่เราจะเน้นย้ำต่อไป พร้อมเน้นย้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมมากยิ่งขึ้น เพราะทางคณะรัฐมนตรีก็เล็งเห็นตรงกันว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกปี และกระทบต่อชีวิตประชาชนจริงๆ เราอยากให้รัฐบาลในแก้ไขปัญหาได้อย่างเข้มข้นและจริงจัง พร้อมทั้งขอให้กระทรวงดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาหกรอบตลอดทั้งปี
เมื่อถามว่า นายกฯมีเวลา 3 ปี จะประเมินการทำงานของคณะรัฐมนตรีอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประเมินต่างๆ คิดว่าเราต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าเราต้องประเมินตลอดเวลา แต่ในส่วนนโยบายของกระทรวงต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร คิดว่าจะต้องสรุปให้ประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน และขอนัดรัฐมนตรีมาพูดคุยกันทุกสัปดาห์ โดยจะสลับกระทรวงกันไ ปเผื่อบางทีรัฐมนตรีอยากจะปรึกษา หรือทางเราเองอยากจะปรึกษาซึ่งกันและกัน ก็อยากให้ทำงานอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้มอบหมายอะไรไปแล้วเราไม่สามารถตามได้ว่าอยู่ตรงไหน ตนคิดว่าทุกท่านมีความตั้งใจทำทุกนโยบายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดผลงานได้เร็วขึ้น
เมื่อถามว่าในนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างไปจากรัฐบาลนายเศรษฐาหรือไม่ และนายกจะสู้รบกับนิติสงครามการเมืองตรงนี้อย่างไร มีทีมกฎหมายอย่างไรให้ทำงานครบ 3 ปี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกท่านมีความตั้งใจ เรื่องกฎหมายต่างๆเรามีทีมกฎหมาย และคณะรัฐมนตรีเป็นผู้มีประสบการณ์ และมีรัฐมนตรีใหม่ ดังนั้นเราปรึกษากันและกันด้วย เพราะประสบการณ์เหล่านี้ต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย ยืนยันว่ามีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบ รัดกุม และขอความร่วมมือว่าเราอยากทำงานให้ครบ 3 ปี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน เมื่อมีการเป็นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเราก็พยายามตอกย้ำว่านายกเศรษฐาเป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ดังนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมมาแล้วก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม และนโยบายครั้งนี้เราก็ได้ปรึกษาพรรครวมเช่นกัน ก็เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากของอดีตนายกเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมแ ละคณะรัฐมนตรีทุกท่าน เพื่อปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และนโยบายที่แถลงก็เป็นนโยบายที่เราใช้ในการหาเสียง จากนั้นได้มีการตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายเหมือนเดิม แต่ปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันแ ละมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ
เมื่อถามว่า นายกฯกังวลกับคิวกฐินที่รอมากมายในตอนนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้มก่อนกล่าวว่ว “คิวกฐินเลยเหรอคะ อันนี้คือคำเปรียบเทียบใช่ไหมคะ” ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า “หมายถึงมีนักร้อง เตรียมที่จะร้องนายกรัฐมนตรีในหลายคดีตามมา” ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดี ก็จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด และไม่อยากมีคดี เนื่องจากลูกยังเล็ก
เมื่อถามว่า ปฏิเสธไม่ได้ระหว่างความเป็นพ่อลูกกับนายทักษิณชินวัตร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้มีคนมองว่าระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้ว และปรามาส ว่ายังไงนายกฯก็หนีไม่พ้นเงานายทักษิณ จะลบคำปรามาสตรงนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้ว เพราะเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้นะคะ”
เมื่อถามว่า ที่นายกฯบอกจะเริ่มทำทันทีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เดือนก.ย.นี้เห็นได้ทันทีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องไทม์ไลน์จะขอให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พูดรายละเอียด แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันทีแน่นอน เพราะเป็นข้อแรกที่เราจะต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป