ย้อนดูระเบียบกระทรวงศึกษาฯ การไปทัศนศึกษา รถบัส 3 คัน ควรต้องมีรถนำขบวน

2 ต.ค. 67

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. 2562-2563 เขียนไว้เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในการเดินทางพักแรมของนักเรียนนักศึกษา

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา พ.ศ. 2562 และ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับ 2 พ.ศ. 2563 ลงนามโดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น สำหรับการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษา จำแนกเป็น 3 ประเภท คือ การพาไปนอกสถานศึกษาไม่พักแรม, การพาไปนอกสถานศึกษาพักแรม และการพาไปนอกราชอาณาจักร หลักๆ สามารถจำแนกคำแนะแนำได้ 10 ข้อ ดังนี้

1. การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาให้เป็นไปตามความสมัครใจของนักเรียนและนักศึกษา โดยความยินยอมของผู้ปกครอง

2. การพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาทุกประเภทต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก หัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสถานศึกษา 1 คนเป็นผู้ควบคุม และจะต้องมีครูหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าสถานศึกษา 1 คนต่อนักเรียนไม่เกิน 30 คน เป็นผู้ช่วยผู้ควบคุม กรณีที่มีนักเรียนและนักศึกษาเป็นหญิงไปด้วยให้มีครูสตรีควบคุมไปด้วยตามความเหมาะสม

3. ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้พิจารณาเลือกเส้นทางที่จะเดินทาง ยานพาหนะที่จะใช้ต้องอยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมถึงพนักงานขับรถหรือควบคุมยานพาหนะที่มีความรู้ความชำนาญ

4. การเดินทางให้พิจารณาขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอคำแนะนำหรือขอความร่วมมืออื่นๆ เท่าที่จำเป็น รวมถึงจัดให้มีป้ายข้อความที่ระบุโครงการ กิจกรรม และสถานศึกษาแสดงให้เห็นเด่นชัดติดที่ด้านข้างรถ

5. กรณีการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาโดยใช้รถโดยสารไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่ง จำนวน 3 คัน ขึ้นไป ควรจัดให้มีรถนำขบวน แลเพื่อการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของนักเรียนและนักศึกษา ให้สถานศึกษาจัดให้มีการประกันภัยการเดินทาง

6. ให้ผู้ควบคุมและผู้ช่วยผู้ควบคุมมีหน้าที่ดูแลนักเรียนและนักศึกษาให้ได้รับความปลอดภัย และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจะต้องให้ความช่วยเหลือ

7. เมื่อปรากฏว่ามีกรณีเกิดอุบัติเหตุที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของนักเรียนและนักศึกษา ให้ผู้ควบคุมและผู้ช่วยผู้ควบคุมดูแลนักเรียนและนักศึกษาดำเนินการรายงานต่อหัวหน้าสถานศึกษาทราบโดยเร็ว และเมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไปให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง

8. ผู้ควบคุมและผู้ช่วยผู้ควบคุมต้องกำกับให้พนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยจราจรอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบสภาพรถหรือยานพาหนะและอุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพดี ขับรถด้วยความระมัดระวัง

9. เมื่อเดินทางถึงสถานที่จัดกิจกรรมต้องจัดให้มีการปฐมนิเทศ เพื่อแจ้งกฎระเบียบข้อปฏิบัติในการใช้สถานที่ จัดให้มีระบบดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดช่วงเวลาจัดกิจกรรม จัดเจ้าหน้าที่หรือบุคคลผู้มีความรู้ในการด้านการรักษาพยาบาลเพื่อดูแลนักเรียนนักศึกษาระหว่างกระทากิจกรรม รวมทั้งจัดรถรับ - ส่ง กรณีมีเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีเหตุฉุกเฉินให้รีบรายงานด้วยวาจาต่อผู้อนุญาตโดยด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และเมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไปให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่งโดยเร็ว

10. เมื่อกลับจากการพานักเรียนและนักศึกษาไปนอกสถานศึกษาแล้ว ให้รายงานให้ผู้อนุญาตทราบ และประเมินผลการจัดกิจกรรมทุกครั้ง เพื่อนำไปปรับปรุงกิจกรรมในอนาคต

* สำหรับสถานศึกษาเอกชนประเภทโรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตการพาไปนอกสถานศึกษาไม่พักแรม ส่วนการพาไปนอกสถานศึกษาพักแรม ให้ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตการพาไปนอกสถานศึกษาพักแรม และการพาไปนอกราชอาณาจักร ให้ผู้รับใบอนุญาตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาตการพาไปนอกราชอาณาจักร และสำหรับการพาไปนอกสถานศึกษาพักแรม หรือการพาไปนอกราชอาณาจักร ต้องรายงานผลการพานักเรียนไปนอกสถานศึกษาให้กับผู้อนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนทราบ ภายใน 15 วันหลังจากการพานักเรียนไปนอกสถานศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส