ทัศนศึกษา เปิดโลกการเรียนรู้นอกห้องเรียน ควรมีต่อหรือต้องยกเลิก

ทัศนศึกษา กิจกรรมเปิดโลกการเรียนรู้นอกห้องเรียน ควรมีต่อหรือต้องยกเลิก จากเหตุการณ์สลดไฟไหม้รถบัส สู่ญัตติด่วนในสภาหาทางป้องกัน และย้อนดูตั้งแต่ต้นปี 2567 เกิดอุบัติเหตุกับรถทัศนศึกษามาแล้วกี่ครั้ง?

เป็นเรื่องสะเทือนใจสังคมอย่างมาก สำหรับกรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี หน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดีรังสิต จ.ปทุมธานี จนเป็นเหตุให้เด็กนักเรียนสูญหาย 22 คน และครูสูญหาย 3 คน

เรื่องนี้ทำให้เกิดการถกเถียงกันขึ้นในสังคมเป็นวงกว้าง ถึงความสำคัญของการมีอยู่ของกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งอยู่ในส่วนของกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามงบที่แต่ละโรงเรียนจะได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ.

ประเด็นนี้สังคมบางส่วนมองว่าควรยกเลิกกิจกรรมทัศนศึกษา เพราะเสี่ยงต่อการสูญเสียที่ไม่อาจคาดคิดได้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน ขณะที่บางส่วนมองว่าไม่ควรยกเลิก เพราะถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กได้เห็นโลกและเรียนรู้สิ่งที่อยู่นอกห้องเรียนได้กว้างขึ้น โดยเฉพาะเด็กในโรงเรียนต่างจังหวัด แต่ควรมองไปที่ต้นตอของปัญหาอย่างคุณภาพและความปลอดภัยของรถและคนขับ รวมถึงความรู้เบื้องต้นในการเอาตัวรอดในสถานการณ์เช่นนี้

 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน มีข่าวเด็กนักเรียนอายุ 8 ปี ที่ จ.บุรีรัมย์ ตื่นเต้นและดีใจจะได้ไปทัศนศึกษาดูช้างที่ จ.สุรินทร์ สะดุ้งตื่นกลางดึกและคิดว่าเช้าแล้ว กลัวจะไปไม่ทันรถ จึงแต่งตัวออกเดินเท้าออกจากบ้านไปโรงเรียน ซึ่งห่างจากบ้าน 3 กม. แต่โชคดีมีคนพบเห็นก่อนและนำตัวมาส่งให้

ทั้งนี้เด็กหญิงคนดังกล่าวเล่าว่าด้วยความที่อยากเห็นช้างตัวเป็นๆ เพราะในชีวิตไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนแรกแม่ให้นอนจึงนอน แต่เกิดสะดุ้งตื่น คิดว่าเช้าแล้ว จึงแต่งตัวออกเดินเท้าออกมาจากบ้านเพราะกลัวจะไม่ทันรถ

แม้จะมองว่าเป็นเรื่องน่าเอ็นดู แต่อีกมุมหนึ่งก็สะท้อนอย่างชัดเจนว่า กิจกรรมทัศนศึกษาเป็นความฝันของเด็กต่างจังหวัดที่อาจจะไม่ได้มีโอกาสได้เข้าถึงการเรียนรู้นอกห้องเรียนบ่อยนัก โอกาสให้เด็กได้สัมผัสประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่ภาพและข้อความในหน้าหนังสือ แม้จะต้องแลกด้วยความไม่สบายใจของผู้ปกครองหลายคน ที่มักมีความกังวลใจเกิดขึ้นทุกครั้งที่ต้องเซ็นใบอนุญาตให้ลูกออกไปเรียนรู้นอกบ้านและพื้นที่โรงเรียนก็ตาม

 

 

สภาผู้แทนราษฎร เสนอญัตติด่วนหาแนวทางป้องกันและแก้ไข

ขณะที่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2567 มีการขอเสนอญัตติด่วนในสภาเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น  3 ญัตติด่วน ได้แก่

- ขอให้สภาผู้แทนราษฎรเสนอข้อคิดเห็นและการป้องกันการเกิดเหตุกรณีรสบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ และหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เสนอโดย เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย 

- ขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาศึกษาสาเหตุการเกิดไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษาของนักเรียน ผ่านการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และมาตรการการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ เสนอโดย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย 

- ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาแนวทางป้องกันเหตุและแผนเผชิญเหตุที่เป็นรูปธรรมในอนาคต กรณีการเกิดเหตุไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษา เพื่อเสนอเรื่องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการต่อไป เสนอโดย ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน

เจเศรษฐ์ ในนามคนอุทัยธานี

"ผมในนามของพี่น้องประชาชนในจ.อุทัยธานี ในนามของครอบครัวผู้ที่ได้รับกระทบในครั้งนี้ (เสียงสั่นเครือ) ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแล้วก็เต็มกำลังความสามารถ วันนี้พวกเราขอเก็บความเจ็บช้ำนั้นเก็บไว้กับเรา และขอให้เป็นสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้ แก้ไข ยกระดับป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับใครอีก

เหตุการณ์เมื่อวานนี้ผมเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ สิ่งที่ผมเห็นผมเห็นยานพาหนะที่จอดนิ่งสนิท แต่กลับมีเสียงบางสิ่งบางอย่างที่เรามองด้วยตาก็ได้ยิน เมื่อวานนี้มีเหตุการณ์ที่น้องๆ เดินทางมาเพื่อที่จะตั้งใจมาเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสิ่งที่บ้านเขาไม่มี ในที่ที่เขาใฝ่ฝันจะมา เพื่อเอาไปบอกเล่าเรื่องราวที่พบเจอไปยังผู้ปกครอง แต่ก็ยังมีน้องๆ ที่ ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้เดินทางกลับไปยังอุทัยธานี มีคุณครูที่ยังไม่ได้กลับ เมื่อวานนี้ผมต้องเห็นสภาพคุณครูที่ตัวเองมือลวกจากไฟไหม้จากการช่วยเด็ก ยังนั่งลงบ่นโทษตัวเองว่าทำได้ไม่มากพอ ไม่ดีพอ ผมต้องเห็นพี่ชายที่ไม่สามารรถดูแลน้อง พาน้องกลับไปไม่ได้ แล้วนั่งโทษตัวเอง นี่คือสิ่งที่ผมต้องเจอ

ผมต้องเห็นพ่อแม่ผู้เสียชีวิต เดินพร้อมกับเอื้อนเอ่ยชื่อของลูกตัวเองเพื่อจะสอบถามให้ได้ยินว่าลูกของเขาไม่ได้อยู่บนรถคันนั้นหรือลูกลงมาจากรถได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ผมเชื่อว่า ไม่ใช่แม้แต่ญาติผู้เสียชีวิต ไม่ใช่คนอุทัยธานีอย่างเดียว ไม่ใช่พี่น้องประชาชนคนไทยอย่างเดียว ผมว่าคนทุกคนที่เป็นมนุษย์เมื่อรับรู้เรื่องราวนี้ล้วนสลดและเสียใจ

วันนี้พวกเรากำลังจะร่วมกันเพื่อหาแนวทางการแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้พวกเราไม่ขอเป็บบทเรียนแล้วครับ ไม่ขอให้ใครมาถอดบทเรียน เราขอเป็นสิ่งที่เกิดการเรียนรู้การตื่นตระหนก เพื่อให้พวกเราตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมืองหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของพวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันระดมความคิดและเอาประสบการณ์มาทำให้เกิดการแก้ไขอย่างจริงจังเสียที

สุดท้ายนี้ผมขอสดุดีคุณครูทั้งสามท่านที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต พวกผมให้คำมั่นสัญญาครับว่าจะสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณครูที่พร้อมพลีกายปกป้องชีวิตน้องๆ นักเรียน"

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ 

"ประชาชนทั้งประเทศตื่นตกใจและเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว สิ่งที่แทบจะทุกคนพูดถึงก็คือควรจะยกเลิกการทัศนศึกษาเสียดีไหม นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกันคิดการไปทัศนศึกษาผิดหรือไม่ เป็นความบกพร่องหรือไม่ ความผิดความบกพร่องอยู่ที่กระบวนการทัศนศึกษา อยู่ที่รถหรืออยู่ที่คน นักเรียนเติบโตแค่ไหนที่จะสามารถไปทัศนศึกษาได้ ที่จะสามารถดูแลตัวเองเมื่อมีเหตุฉุกเฉินได้ เด็กอนุบาล เด็กประถมเล็กเกินไปหรือไม่ เด็กนักเรียนทุกคนเคยได้เรียนรู้เคยได้มีการฝึกซ้อมการเผชิญกับภาวะฉุกเฉินกับอันตราย ไม่ว่าจะจากการเดินทาง อุบัติเหตุรถยนต์หรือไฟไหม้บ้างหรือไม่ รถที่ใช้เดินทางมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของรถ การแก้ไขดัดแปลงทำมาถูกหลักวิศวกรรมหรือไม่ อุปกรณ์ความปลอดภัยในรถไม่ว่าจะเป็นค้อน เครื่องดับเพลิง ประตูฉุกเฉินมีเพียงพอและใช้การได้หรือไม่

รถโดยสารควรจะมีอายุเท่าไร 50 กว่าปีอย่างคันที่เกิดเหตุ ควรจะใช้ต่อไปหรือไม่ รถบัสคันสูงๆ ที่เราไม่ค่อยจะเคยเห็นในต่างประเทศ ถ้าจะมีก็มีอยู่ประเทศเดียวในไทยควรจะใช้ต่อไปหรือไม่ รถที่ใช้แก๊สรถที่ดัดแปลงไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถโดยสารขนาดเล็กก็ตามมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ คนขับรถมีศักยภาพ สุขภาพแข็งแรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับรถ แก้ไขปัญหาเมื่อมีอุบัติเหตุเพียงพอหรือไม่ น้องผู้ชายคนหนึ่งกลับจากอุทัยธานี ไปกอดคุณแม่ ตอนไปทัศนศึกษาเขาไปกันสองคนพี่น้องแต่ขากลับเหลือคนเดียว 

ถ้าเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ไม่อยากเห็นความเศร้าโศกเสียใจแบบนี้เกิดขึ้นอีก เราต้องช่วยกันคิด ช่วยกันระดมความคิดแล้วก็ส่งมาตรการนี้ให้รัฐบาลเอาไปดำเนินการ และพวกเราก็ต้องช่วยกันตรวจสอบติดตามอย่างเข้มข้น ว่ามาตรการที่เราส่งไปจะได้รับการปฏิบัติหรือไม่ ผมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน กู้ภัยและอาสาสมัครทุกคน ขอบคุณคุณครูที่ปกป้องนักเรียนจนต้องสละชีวิตตนเอง ขอแสดงความเสียใจกับน้องๆ นักเรียนทุกคน พ่อแม่ ญาติพี่น้องผู้สูญเสียทุกคน ขอสดุดีคุณครูทั้งสามท่านที่ปกป้องลูกศิษย์จนต้องเสียชีวิตของท่านเอง"

ศศินันท์ ในฐานะแม่ที่มีลูกวัยเดียวกัน

ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ลุกขึ้นขอเสนอญัตติด่วนศึกษาแนวทางป้องกันเหตุและแผนเผชิญเหตุที่เป็นรูปธรรมในอนาคต กรณีการเกิดเหตุไฟไหม้รสบัสทัศนศึกษา เพื่อเสนอเรื่องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการต่อไป

ดิฉันทนายแจม ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน และคุณแม่ลูกสองที่มีลูกในวัยไล่เลี่ยกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมื่อวานนี้ ก่อนอื่นดิฉันขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอชื่นชมการจัดการเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงทีของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ดิฉันทราบดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความเจ็บปวดร่วมกันของพี่น้องประชาชนทุกคน และในวันนี้เราไม่ได้มาหาคนผิดหรือมาติติงอะไร แต่เรากำลังจะหาทางออกร่วมกันว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เราต้องมาเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ ถอดบทเรียนซ้ำๆ ในเรื่องที่สะเทือนใจแบบนี้อีกในอนาคต

เหตุการณ์แบบเมื่อวานนี้ไม่ใช่ครั้งแรก จากข้อมูลการเฝ้าระวังของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางท้องถนนและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค บอกว่าเมื่อปี 2565 มีอุบัติเหตุทางท้องถนนและความไม่ปลอดภัยกับรถรับส่งนักเรียนปีนึง 30 ครั้ง โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมในปีนี้เกิดอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนไปแล้ว 15 ครั้ง มีนักเรียนเสียชีวิตหนึ่งคนและบาดเจ็บ 153 คน โดยสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุนั้นโดยหลักมาจากความประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบการหรือผู้ขับรถ สภาพรถที่ไม่ปลอดภัย การขาดการจัดการที่เป็นระบบอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นปัญหาสำคัญในการจัดการโครงสร้างและการจัดการที่ต้องมีการจัดการอย่างเร่งด่วน ดิฉันจึงมีข้อเสนอในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ถึงแผนแนวทางการป้องกันเหตุและแผนการเผชิญเหตุในอนาคตอยู่ 4 ประเด็นด้วยกัน

ประเด็นแรก เป็นเรื่องของมาตรฐานของรถโดยสารสาธารณะ ไม่ใช่แค่ของรถนักเรียน แต่เป็นรถโดยสารสาธารณะเพื่อความปลอดภัย ปัจจุบันหลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าประเทศไทยเรามีกฎเกณฑ์ตามกฎหมายที่ควบคุมคุณภาพรถที่จะใช้วิ่งบนท้องถนน โดยเกณฑ์ได้ระบุว่าต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นให้ครบถ้วน รวมถึงอุปกรณ์สามอย่างเหล่านี้ คือ ประตูฉุกเฉิน ที่ต้องอยู่ด้านขวาและเป็นคนละด้านกับประตูปกติ และต้องสามารถเปิดได้ทั้งภายในและภายนอก เครื่องดับเพลิง ที่สามารถใช้การได้ตลอดเวลา และ อุปกรณ์เกี่ยวกับการทุบกระจก นอกจากนั้นยังมีเกณฑ์ในเรื่องของคุณสมบัติด้านการลุกไหม้และการลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถด้วย ที่กำหนดให้วัสดุภายในรถต้องมีการทนไฟระดับหนึ่ง เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงหากเกิดเพลิงไหม้ ตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก 

ประเด็นที่สอง เป็นประเด็นสำคัญที่เมื่อวานมีหลายภาคส่วนช่วยกันออกมาพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างพร้อมเพรียง นั่นคือเรื่องของการนำเสนอข่าวในสถานการณ์ที่มีความเปราะบางและละเอียดอ่อนมากๆ รวมถึงเป็นการเคารพสิทธิ์ของผู้ประสบเหตุไม่ให้เป็นการตอกย้ำความสูญเสียของผู้สูญเสีย ในหลายๆ ครั้งที่มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนในฐานะผู้เสียหายหรือเป็นผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูเหตุการณ์ที่พารากอน หรือเหตุการณ์ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการก็ตาม เราจะพบเจอหลายหลายครั้งที่สื่อมวลชนเข้าไปถึงตัวเด็กถึงตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เร็วกว่าจิตแพทย์หรือแพทย์ด้วยซ้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะว่าการนำเสนอข่าวในบางครั้งมันเป็นการชี้นำสังคมไปแล้ว บางครั้งข้อเท็จจริงยังไม่ทันสะเด็ดน้ำดีเลย แต่มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว

โดยเฉพาะเรื่องของข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชนของสภาการสื่อสารสื่อมวลชน ข้อที่ 15 ในหมวดการเคารพสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ยิ่งต้องให้การคุ้มครองอย่างเคร่งครัดต่อเด็ก เยาวชน กลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้มีความหลากหลายทางอัตลักษณ์ในสังคม โดยต้องไม่เป็นการซ้ำเติมความทุกข์หรือโศกนาฏกรรมอันเกิดแก่บุคคลและครอบครัวของผู้ตกเป็นข่าว ดิฉันเข้าใจดีว่าสื่อมวลชนเราต้องการข้อมูลที่มันสดใหม่ทันทีเพื่อนำเสนอข่าว แต่ในกรณีที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ แนะนำว่าควรจะต้องระมัดระวังในการสื่อสาร การใช้ถ้อยคำ การสัมภาษณ์ การใช้คำถามที่เป็นการชี้นำที่อาจจะนำไปสู่ความเปราะบางของสภาพจิตใจของผู้ถูกสัมภาษณ์ในอนาคต

ประเด็นที่สาม คือในเรื่องของการเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งในเรื่องของสิทธิ์ของการได้รับการดูแล การรักษาพยาบาล เงินเยียวยา รวมถึงการฟื้นฟูสภาพจิตใจของกรมสุขภาพจิตและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการและติดตามผล การเยียวยาเรื่องสุขภาพจิต ดิฉันไม่ได้หมายถึงผู้ประสบเหตุเท่านั้น แม้กระทั่งทุกท่าน เพื่อนเพื่อนสมาชิกในพรรคอื่นๆ ที่เราก็ได้เสพข่าวกันหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีหรือคนที่อยู่เผชิญหน้าในเหตุการณ์อย่างท่านสมาชิกเมื่อกี้ที่ดิฉันได้ฟังก็สะเทือนใจ เพราะทราบดีว่าหน้างานที่ท่านต้องไปเผชิญ ท่านต้องได้รับเรื่องเหล่านี้ขนาดไหน ทุกท่านควรจะต้องเข้าถึงจิตแพทย์ในการที่จะดูแลจิตใจอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ดิฉันขอชื่นชมรัฐบาลที่ประสานงานในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีและรวดเร็ว

ประเด็นที่สี่ ประเด็นสุดท้ายค่ะที่สังคมถกเถียงกันเป็นอย่างมากในเรื่องของการทัศนศึกษา เรื่องนี้ดิฉันขอยกเอาความเห็นของพญ.จิราภรณ์ อรุณากูร หรือหมอโอ๋ ในเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน หมอโอ๋บอกว่าการทัศนศึกษาสำหรับเด็กหลายๆ คนเป็นเวลาแห่งความสุข เป็นเวลาที่เด็กๆ จะได้อยู่กับเพื่อนๆ ได้เห็นโลกนอกตำรา ได้มีเวลาที่เราไม่ต้องไปกับพ่อแม่ และได้ฝึกในการดูแลตัวเอง และสำหรับเด็กหลายๆ บ้านการทัศนศึกษาอาจจะเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ไปเห็นโลกกว้าง ด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ทางฐานะหรือด้วยภาระของพ่อแม่หรือด้วยโอกาสที่เข้าไม่ถึงก็ตาม เพราะฉะนั้นปัญหาจริงๆ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ไม่ได้อยู่ที่การไปทัศนศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของคุณภาพความปลอดภัยของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงอุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่เราเองก็คาดการณ์ไม่ได้ เช่น เรื่องการตรวจสอบคุณภาพของรถก่อนที่จะรับนักเรียนให้มีมาตรฐาน ให้มีอุปกรณ์ที่สร้างความปลอดภัยเข็มขัดนิรภัย ที่ทุบกระจก ถังดับเพลิงขนาดเล็ก ควรจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาที่รอบคอบมากขึ้นสำหรับเด็กเล็ก

โดยพิจารณาถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอายุของเด็ก ระยะทาง จำนวนผู้ดูแลเด็ก ยิ่งในกรณีของเด็กเล็กควรจะเป็นการทัศนศึกษาที่ระยะทางอาจจะไม่ไกลจนเกินไป เพราะว่าเด็กเล็กยังช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เต็มที่ จำนวนผู้ดูแลก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา หากผู้ดูแลไม่เพียงพออาจมีการพิจารณาให้ผู้ปกครองบางส่วนเดินทางไปด้วย เพื่อช่วยในการดูแลบุตรหลาน นอกจากนี้ที่สำคัญและเป็นสิ่งที่อาจจะยังพูดถึงกันน้อยแต่ก็สำคัญก็คือ การสอนให้เด็กได้มีการฝึกเอาตัวรอดเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เพื่อป้องเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้หรือคล้ายกันนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต เรื่องนี้ควรมีการบรรจุลงไปในหลักสูตรการศึกษาอย่างเป็นระบบ

เหตุการณ์ในเมื่อวานนี้ไม่ได้มีอะไรที่จะชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับหลายครอบครัวได้ ดิฉันจึงอยากชวนเพื่อนสมาชิกทุกคน เราเอาความเจ็บปวดร่วมกันที่พวกเรามีร่วมกันในวันนี้ ทำให้ทุกคนเอาจริงเอาจังมากขึ้นกับความปลอดภัยบนท้องถนนที่ไม่ใช่แค่รถโรงเรียน รถโดยสารสาธารณะประเทศไทยเราเองก็เกิดอุบัติเหตุไม่เว้นแต่ละวันเช่นกัน เราต้องเอาจริงเอาจังกับการสร้างระบบมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสาร และร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยให้กับทุกคนในอนาคตร่วมกัน สุดท้ายขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานหน้างานทุกท่านอีกครั้งค่ะ

การทัศนศึกษาไม่ใช่ผู้ร้าย

ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะครูคนหนึ่ง ได้ลุกขึ้นอภิปราย โดยช่วงหนึ่งได้พูดถึงประเด็นควรยกเลิกการทัศนศึกษาหรือไม่ 

ดิฉันจะขอพูดถึงเรื่องการทัศนศึกษานอกโรงเรียนที่ตอนนี้เป็นที่ถกเถียงกันมาในสังคม ในมุมมองของดิฉัน การทัศนศึกษานอกโรงเรียนไม่ใช่ผู้ร้าย ถ้าเราใช้การทัศนศึกษานอกโรงเรียนที่ถูกต้อง จัดให้เหมาะสมในแต่ละบริบทของช่วงวัยของนักเรียน การทัศนศึกษานอกโรงเรียนยังจำเป็น ถือเป็น Aactive learning หรือการเรียนรู้เชิงรุกที่สำคัญ เพราะการทัศนศึกษานอกโรงเรียน ทำให้นักเรียนได้เปิดโลกทัศน์ ได้ออกไปนอกสถานที่ ได้มีประสบการณ์จริง ไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ แล้วเอามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อในห้องเรียน นำไปสู่การพูดคุย อภิปราย ทำงานในห้องเรียนร่วมกัน อันนี้ค่ะคือ Active learning แท้จริง เพียงแต่ว่าการจัดทัศนศึกษานอกโรงเรียนต้องจัดให้เหมาะกับช่วงวัย เช่นนักเรียนที่เป็นเด็กเล็ก ก็ทัศนศึกษาใกล้ๆ โรงเรียน โดยออกแบบให้รัดกุม เน้นความปลอดภัยอย่างสูงสุดต่อผู้เรียน ซึ่งเรื่องนี้เราออกแบบกันได้ค่ะ

อีกประเด็นที่ประเด็นสำคัญคือเรื่องหลักสูตรการเรียนของเด็กไทย ถึงเวลาแล้วค่ะที่เราต้องเปลี่ยนหลักสูตรให้เด็กไทยเรียนกันได้แล้ว หลักสูตรปัจจุบันที่เราใช้ ใช้มาตั้งแต่ 2551 ปรับเล็กปี 2560 ซึ่งปรับน้อยมาก ดิฉันว่ามันถึงเวลาต้องเปลี่ยนกันแล้วค่ะ เด็กไทยทุกช่วงชั้นเรียนต้องได้เรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในวิชาการเอาตัวรอดและการช่วยเหลือผู้อื่น ในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกรูปแบบ ทั้งอุบัติเหตุไฟไหม้ รถยนต์ รวมถึงสถานการณ์ภัยธรรมชาติทุกรูปแบบ ซึ่งจากนี้หลักสูตรของเด็กไทยต้องเรียนกันอย่างจริงจัง เรียนอย่างเดียวก็ไม่ได้ต้องลงมือปฏิบัติ และต้องปฏิบัติซ้ำจนเด็กนั้นเกิดทักษะและสมรรถนะในการเอาตัวรอดขึ้นมาให้ได้ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนหลักสูตรกันใหม่ เพ่อให้เด็กไทยมีสมรรถนะในชีวิตที่เหมาะสม ในการเอาตัวรอดในทุกสถานการณ์ ที่จะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขในโลกยุคใหม่นี้ให้ได้ ส.ส. ปารมีกล่าว

ย้อนดูสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับกิจกรรมทัศนศึกษาในปี 2567

ตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการทัศนศึกษาเกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น
4 มกราคม รถบัสทัศนศึกษาจากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ชนกับรถหลายคันบริเวณถนนบางขันธ์-หนองเสือ จ.ปทุมธานี มีผู้บาดเจ็บกว่า 25 คน โดยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยคนขับที่ขาติดกับซากรถ

1 มีนาคม รถบัสทัศนศึกษารนักเรียนชั้นประถมศึกษาแห่งหนึ่งในชัยภูมิ ที่กำลังมุ่งหน้ากลับชัยภูมิ ชนกับรถบรรทุกอ้อย บนถนนสายสีคิ้ว-ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา กเรียนส่วนใหญ่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

26 มีนาคม รถบัสทัศนศึกษานักเรียนและครูจาก จ.น่าน เกิดเบรกแตกไหลถอยลงจากเนิน ไปชนรถกระบะ ขณะนำคณะครูและนักเรียนไปทัศนศึกษาที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

26 สิงหาคม รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเทศบาล 2 เทศบาลเมืองชัยภูมิ เกิดอุบัติเหตุเสียหลักลงข้างทางที่มอหินขาว จ.ชัยภูมิ เด็กทุกคนปลอดภัย คุณครูบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน

และล่าสุด 1 ตุลาคม ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดีรังสิต จนเป็นเหตุให้เด็กนักเรียนสูญหาย 22 คน และครูสูญหาย 3 คน ซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้สังคมเป็นอย่างมาก