รอง ผบช.น. เผยเส้นทาง "สันติ" อดีตนักมวยดัง ผู้ต้องหาหนีคดี มีเงิน 2.7หมื่นบาทติดตัว ซ่อนตัวย่านลาดพร้าวก่อนหลบหนีไปต่อ สั่งชุดสืบล่าตัวขยายพื้นที่วงกว้าง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
ความคืบหน้ากรณีตำรวจปิดล้อมไล่ล่านาย สันติ เจ๊ะอะหลี อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่หลบหนีตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาลักทรัพย์ของ สน.เตาปูน ก่อนหลบหนีการจับกุมของตำรวจ พร้อมเปิดฉากยิงสู้กับตำรวจ ก่อนปีนเข้าบ้านของประชาชนในซอยอินทามาระ 29 แยก 1 และจับตัวประกันไว้ สุดท้ายเจ้าตัวหลบหนีไป โดยตำรวจใช้เวลาปิดล้อมครั้งนี้นานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
และเวลาเดียวกัน นางพจน์จะนี บุญหลง ภรรยาของนายสันติ เครียดก่อเหตุใช้ปืนจี้บังคับตำรวจพาขับรถไปส่งก่อนกระโดดหนี ซึ่งตำรวจปิดล้อมจนจับตัวได้ และมีการนำตัวมาสอบปากคำเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะส่งตัวฝากขังในช่วงเช้าวันนี้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 5 ต.ค. 67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน กล่าวว่า จากการสอบสวน นางพจน์จะนี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุไปจริง ก่อนวันเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดมาก่อน 1 วัน ซึ่งตรงกับโดยตนเองเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาหานายสันติ
แต่เมื่อทราบว่านายสันติถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์หนีหมายจับก็ได้พักตามห้องเช่าต่างๆ และโอนเงินให้เพื่อนสนิท 27,000 บาท ฝากให้นายสันติ เพื่อใช้หลบหนี แต่ก็ถูกตำรวจไล่จับ และไปจับตัวประกัน ก่อนวันเกิดเหตุมาหาสามี แต่พบว่ามีตำรวจและนักข่าวอยู่บริเวณบ้านของสามีเป็นจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากความเครียดจึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
โดยมีรายงานจากชุดสืบสวนในการติดตามตัวนายสันติ หลังจากที่นายสันติได้หลบหนีฝ่าวงล้อมของตำรวจ พบว่าหลังเกิดเหตุนายสันติได้ออกจากพื้นที่ เพื่อไปหาเพื่อนของเมียย่านห้วยขวาง จากนั้นก็ให้เพื่อนเมียกดเงินให้ ช่วงเวลาประมาณเกือบ ตี 1 เพื่อหลบหนี และไปหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่เขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นายสันติมีคนรู้จักเยอะ และเป็นจุดที่ตำรวจได้เบาะแสเป็นจุดสุดท้าย ตอนนี้ทางชุดสืบสวนได้มีการขยายวงกว้างการสืบสวนออกไปนอกเหนือพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะนายสันติมีคนรู้จักที่จังหวัดอื่นด้วย