ดรามา! แม่น้องปูอัด ทิ้งลูกไปตั้งแต่ 7 เดือน กลับมาทวงสิทธิเงินเยียวยาบัสมรณะ

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ดรามา! แม่น้องปูอัด หนูน้อยฮีโร่เหยื่อ ไฟไหม้รถบัส ทิ้งลูกไปตั้งแต่ 7 เดือน กลับมาทวงสิทธิรับเงินประกัน 1.2 ล้าน ก่อนพี่ชายโร่แจงครอบครัวเคลียร์จบแล้ว         

วันที่ 5 ต.ค. 67 จากกระแสข่าวหลังจากที่เมื่อวานนี้ (4 ต.ค. 67) ทางคปภ.และบริษัทประกันภัยได้เดินทางมามอบเงินให้กับครอบครัวของครูและนักเรียนทั้ง 23 ราย ที่เสียชีวิตจากเหตุ รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามไฟไหม้ รวมมูลค่าเงินประกันกว่า 30 ล้านบาท 

พบว่ามีหลายครอบครัวของผู้เสียชีวิต เกิดปัญหาเรื่องการรับเงินประกันภัยก้อนนี้ เพราะบางครอบครัวนั้น ผู้เป็นพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงดูผู้เสียชีวิต แต่กลับเป็นผู้ที่รับเงินประกันตามชอบด้วยกฎหมาย 

เช่นครอบครัวของน้องปูอัด นักเรียนชั้น ป.3 หนูน้อยฮีโร่ที่เข้าไปช่วยเพื่อนจนไม่รอดชีวิต พบว่าตัวน้องปูอัดนั้นอยู่ในความดูแลของพ่อแท้ๆ และป้า 

ทั้งนี้นางนงนุช อายุ 50 ปี น้องสาวพ่อน้องปูอัด ซึ่งวันนี้ได้ร่วมกับญาติมาตั้งโรงทานเลี้ยงอาหาร เพื่อยกเป็นบุญกุศลให้กับน้อง เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แม่น้องปูอัดนำน้องปูอัดมาให้ตนเอง และพ่อของน้องเลี้ยงดูตั้งแต่น้องอายุได้ 7 เดือน แต่พอมาวันนี้ทางแม่น้องนั้นกลับมาพูดว่า ทางตนเองและพ่อน้องเป็นคนไปแย่งน้องมา ทั้งที่เรื่องจริงนั้น แม่ของน้องเป็นคนบอกให้น้องมาอยู่กับตนเองก่อน แต่พอมาวันนี้เขากลับมาใช้สิทธิความเป็นแม่ มารับเงินก้อนนี้ไป ทั้งที่คนที่คนที่ดูแลน้องปูอัดจริงๆ แล้วนั้นคือ พ่อและป้าๆ ไม่ใช่แม่ของน้องเลย นานๆ ครั้งหรือแทบจะปีละครั้ง ที่น้องปูอัดจะได้เจอแม่ 

โดยเมื่อวานนี้แม่น้องปูอัดก็ได้มารับเงินประกันไป ซึ่งจ่ายเป็นเช็กไปยอดประมาณ 1.2 ล้านบาท เพราะตามชอบของกฏหมายแม่จะเป็นคนได้สิทธิ์ก่อน แต่หากมองตามสิทธิความเป็นธรรมแล้วนั้น คนที่ควรได้รับเงินก้อนนี้ควรจะเป็นพ่อของน้องปูอัดที่เป็นคนเลี้ยงดูน้องมา 

ขณะที่พี่ชายของน้องปูอัด ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้ได้เคลียร์ลงตัวแล้วตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็เลยไม่มีอะไร ณ ตอนนั้นอาจจะเป็นประเด็น แต่เรื่องมันจบมาตั้งแต่เมื่อวาน จึงมาแจ้งให้สื่อฯทราบ 

ด้านนางสมจิตร แก้วสวัส อายุ 54 ปี ยายของน้องออโต้ นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของน้องปูอัด และมีบ้านอยู่ใกล้กัน เล่าว่า วันเกิดเหตุน้องออโต้หลานชายของตนเองนั้นอยู่ในรถคันดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งน้องออโต้นั้นเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อวานนี้ หลังจากที่สำลักควันไฟไปเยอะมาก โดยน้องออโต้เล่าให้ตนเองฟังว่า ที่ตัวเองรอดมาได้ เพราะวันเกิดเหตุน้องปูอัดเป็นคนวิ่งขึ้นไปปลุกตนเองให้ตื่น จนทำให้วิ่งลงมาจากรถได้อย่างปลอดภัย แต่น้องปูอัดนั้นไม่ยอมวิ่งออกมา เพราะบอกว่าจะไปช่วยเพื่อนอีกคนก่อน จนสุดท้ายน้องปูอัดก็ออกมาไม่ได้ และเสียชีวิตดังกล่าว