“บอย ปกรณ์” ลั่น ใครทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ หลังดู “บอสพอล” ออกโหนกระแส  

14 ต.ค. 67

เจ็บจี๊ด! “บอย ปกรณ์” บอกได้ดูแล้ว “บอสพอล” ออกโหนกระแส ให้ประชาชนตัดสิน ว่าเป็นการแสดงหรือพูดจากใจจริง

วันนี้ (14ต.ค.67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ความคืบหน้าคดี “ดิไอคอน กรุ๊ป” ภายหลังจากที่ นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือบอย พระเอกชื่อดัง  นำผู้เสียหายจากกรณีบริษัทอาหารเสริมชื่อดัง “ดิไอคอน กรุ๊ป” เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ บก.ปคบ.และเข้าให้ปากคำกับตำรวจ

“บอย ปกรณ์” ได้เปิดใจอีกรอบ ว่า ตั้งแต่วันที่ไปออกรายการโหนกระแส ก็โล่งใจมากขึ้น ที่ได้มาชี้แจงในส่วนของตนเอง แต่ถามว่าตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ก็ไมได้ถือว่าสบายใจอะไรมาก อย่างที่ตนประกาศลงอินสตราแกรมไปว่าใครที่ต้องการออกมาแจ้งความหรือว่าร้องเรียน ให้ติดต่อเข้ามาหาตนเองหลังบ้าน เพราะบางคนอาจไม่กล้า หรือไม่รู้ช่องทาง ว่าต้องมายังไง ซึ่งก็มีคนติดต่อเข้ามา ประมาณ 30-40 คน ต้องขอบคุณพี่หนุ่มกรรชัยด้วย ซึ่งตนก็จะมีการคัดชื่อและเบอร์โทรออกมา ส่งให้ทีมพี่หนุ่มช่วยประสาน ซึ่งวันนี้ก็มีมากันหลายคน

1728895903964

“โดยด้านในก็มีผู้เสียหายอยู่เป็นร้อย และมีคนที่เดินเข้ามาคุยกับผมผมก็รู้สึกผิดจริงๆ เสียใจ และยิ่งผู้เสียหายที่เจอผมบางคน เขาเดินเข้ามาขอบคุณผม แต่ผมรู้สึกว่าผมรับคำขอบคุณพวกนี้ไม่ได้ ความจริงแล้วคือผม ที่ต้องขอโทษพวกเขา ผมเห็นตรงนี้ ผมก็รู้สึกผิด เสียใจจริงๆ และผมเองก็มีส่วน ที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้เสียหาย”

1728895808502

เมื่อนักข่าวถามว่าการเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจในวันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นบ้างไหม  บอย ปกรณ์ ตอบว่า การเข้าให้ข้อมูล ไม่ได้เกี่ยวกับว่าสบายใจหรือไม่สบายใจ แต่เรามาชี้แจง ตามกระบวนการตรวจสอบ ให้การไปตามข้อเท็จจริง และนำเอกสารมา เป็นการยืนยัน

ส่วนพยานหลักฐานที่นำมามอบให้ตำรวจ เป็นเอกสารตัวสัญญา ว่าจ้างที่ระบุชัดเจนเรื่องของพรีเซนเตอร์ ที่ระบุว่าค่าจ้างของตนเกิดจากอะไรบ้าง ซึ่งชัดเจนว่าเป็นเฉพาะค่าจ้างพรีเซนเตอร์เท่านั้น โดยได้ส่งให้ทางตำรวจไปแล้ว และเอกสารของการยกเลิกสัญญา และเอกสารที่ผมจะต้องแจ้งความร้องทุกข์ด้วย เช่นนำสื่อโปรโมทที่นำรูปภาพผม ไปใช้ ที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ ปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโมเดลธุรกิจของบริษัท ทำให้ตนเข้าใจผิด และมีส่วนร่วมในการทำให้คนอื่นเดือดร้อน ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง และเกิดความเสียหายกับผู้อื่นด้วย

นักข่าวถามว่า ได้ดูที่บอสพอล ไปออกรายการโหนกระแสหรือไม่ บอย ปกรณ์ บอกว่า ได้ดู แต่ไม่ได้ดูเยอะ เพราะต้องให้ปากคำกับตำรวจ และส่วนตัวไม่อยากจะพูดถึงเขาเยอะ เนื่องจากเราไม่สามารถไปล่วงรู้ข้างในเขาได้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันจริงหรือไม่จริง หรือเกิดจากใจจริงข้างในของเขาหรือเปล่า แต่ตนเชื่อว่าเขาทำอะไรลงไปเขารู้ตัว เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมา ไม่เคยมีใครของทางบริษัทติดต่อมา ไม่เคยได้คุยกับใครเลย รวมทั้งดารานักแสดงคนอื่นๆ ที่เป็นบอส หรือพรีเซนเตอร์ ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อนักข่าวถามว่าในฐานะที่ บอย ปกรณ์ เป็นนักแสดง  ประเมินได้หรือไม่ว่าสิ่งที่ บอสพอล พูดในรายการ เป็นแอคติ้ง หรือมาจากใจจริง ซึ่งบอย ปกรณ์ ตอบว่า “เรื่องนี้ผมไม่ขอพูดดีกว่า ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินดีกว่า เพราะผมคิดว่าทุกคนน่าจะดูออก ว่าอะไรคืออะไร”

บอย ปกรณ์ ยังบอกอีกว่า ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญมาก แต่อยากชี้แจงว่า “ผมทำงานทุกชิ้น ก่อนทำงาน โดยเฉพาะในฐานะที่ผม อยู่ในแสงสว่าง ผมยืนยันว่าก่อนรับงานทุกงาน มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว อย่างเช่นเรื่องนี้ผมก็ตรวจสอบแล้ว ว่าบริษัทเขาถูกต้องตามกฎหมายไหม มีการจดหนังสือรับรองไหม สินค้าที่ผลิตออกมา และผมจะทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ให้ ได้ทดลองใช้แล้ว และได้รับมาตรฐานตามอย.หรือไม่ ซึ่งเช็กหมดเรียบร้อยแล้ว เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ แต่ในส่วนอื่นที่อยู่เหนือขอบเขตผมไม่สามารถเช็กได้ ถ้าพูดตรงๆก็คือทางบริษัทก็คงจะไม่มาบอกผม แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาดของเราด้วย ที่เราคิดว่าเราเช็กถี่ถ้วนแล้ว แต่มันอาจจะไม่มากพอ ผมอยากจะขอโทษผู้เสียหายจากใจจริงอีกครั้งและเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตลอด 2-3 วันที่ผ่านมามีการส่งข้อความเข้ามาว่า แต่ละคนเสียหายอย่างไร สตอรี่เป็นยังไง ผมได้อ่านแล้วผมรู้สึกว่าเสียใจกับทุกๆคนและอยากจะให้กำลังใจกับผู้เสียหายทุกคนด้วย โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ออกมาหรือว่าไม่กล้าออกมา หรือว่าอาจจะไม่อยากสะดวกเดินทางมา หรือไม่รู้จะช่องทางไหน ทุกคนก็สามารถไปแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน ได้ทุกที่จะมาที่สอบสวนกลางก็ได้”

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส