เมียแรงงานไทยดับในอิสราเอล เผย สามีทำดีที่สุดแล้ว ไม่อยากให้เมียลำบาก

คอนเทนต์แนะนำ

“แพท ณปภา” ประกาศฤกษ์แต่งงาน “พี ชานนท์” พร้อมแพลนมีลูกอีกคน !!

ตำรวจกองปราบฝากขัง "ตี่ลี่ฮวงจุ้ย" คัดค้านการประกันตัว

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

เมียแรงงานไทยดับในอิสราเอล เผย สามีทำดีที่สุดแล้ว ไม่อยากให้เมียลำบาก ต้องเดินหน้าใช้ชีวิตต่อ ทำงานหาเงินใช้หนี้-คอนโด-รถ-บัตรเครดิต 

วันที่ 9 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวไปเดินทางไปติดตามความคืบหน้า งานบำเพ็ญกุศลศพ นายธนา ติจันทึก หนึ่งในแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เลบานอนยิงจรวดไปยังเมืองเมตูลา ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอิสราเอล ติดกับชายแดนเลบานอน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางการของอิสราเอลประสานกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานของไทย ส่งร่างแรงงานไทยเสียชีวิตกลับสู่แผ่นดินมาตุภูมิ ก่อนจะได้นำร่างกลับไปยังบ้านเกิด พื้นที่หมู่ 12 ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อประกอบบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (8 พ.ย. 67) 

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ย. 67) ครอบครัวและญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพเป็นวันที่ 2 ทางครอบครัวและญาติๆ จัดเตรียมสถานที่ ตั้งเต็นท์ และอาหารไว้รอต้อนรับแขกที่จะมาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพในช่วงค่ำ ซึ่งบรรยากาศในภาพรวมเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ทุกคนยังอยู่ในความโศกเศร้า 

น.ส.ฉันทนา ผดุงปาน อายุ 30 ปี ภรรยาของนายธนา แรงงานที่เสียชีวิต บอกว่า หลังจากฌาปนกิจศพสามีเสร็จ ตนก็จะเดินหน้าใช้ชีวิตต่อ และกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิม เพราะยังมีต้องหาเงินใช้หนี้ ทั้งภาระผ่อนรถยนต์ ผ่อนคอนโดฯ ที่กู้ร่วมกันกับสามี และก่อนสามีเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ก็นำที่นาไปจำนองไว้กับป้าที่เป็นญาติกัน จำนวน 80,000 บาทกัน กับหนี้บัตรเครดิต อีก 40,000 บาท ต้องหาเงินใช้หนี้เดือนละหมื่นกว่าบาทก็จะพยายามหาส่งจนถึงที่สุด เพราะตอนนี้สามีซึ่งเป็นเสาหลักก็ไม่อยู่แล้ว ตนก็ต้องสู้ หาหนทางส่งต่อให้ได้ 

สามีเคยบอกกับตนไว้ว่า “ไม่อยากให้ตนลำบาก จึงได้ตัดสินใจไปทำงานที่อิสราเอล”  ซึ่งสามีได้ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าสามีรับรู้ก็อยากบอกว่า ขอให้ไปสู่สุคติ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ตนจะใช้ชีวิตตามปกติและจะเข้มแข็งให้มากกว่าเดิมตามที่เคยให้สัญญาไว้กับสามี  หลังจากเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 11 พ.ย. 67 จะมีนายสมชาย มรกตสีวรนณ อธิบดีกรมการจัดหางาน มาประธานในพิธีฌาปนกิจศพแล้ว ตนและญาติๆ ก็จะนำอัฐิของสามีฝากไว้กับวัดบ้านเกิดของสามี ตามประเพณีของชาวไทยที่ถือปฏิบัติสืบต่อมา